Kru Somsri's English School

July 06, 2025, 06:12:04 AM

:    
191147 46430 16615
: AndresfuP
*
+  Kru Somsri's English School
|-+  ห้องพักผ่อน พักเหนื่อยกับคุณครูสมศรี
| |-+  ข้อคิดสะกิดใจจากคุณครูสมศรี
| | |-+  ทำ ไ ม เ ก่ ง แ ล้ ว ก ลั บ ทุ ก ข์
: [1]
: ทำ ไ ม เ ก่ ง แ ล้ ว ก ลั บ ทุ ก ข์  ( 4989 )
คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
น่าร๊ากกกกก
Administrator
Hero Member
*****
:
: 4363


เดาซิ...คุณครูอุ้มน้องหมากี่ตัว อิอิ


« : October 10, 2010, 12:35:53 PM »

   คือตอนนี้หนูอยู่ม.5นะคะ  แล้วเมื่อตอนม.4หนูเป็นเด็กขี้เกียจไม่สนใจเรียน  มารู้สึกตัวก็ตอนปิดเทอมม.4ขึ้นม.5  พอรู้สึกว่าต้องตั้งใจเรียนหนูก็กลายเป็นเด็กบ้าเรียน  เพื่อนฝูงหนูก็ไม่ค่อยสนใจ  แต่หนูมีเพื่อนสนิท4คนอยู่นะคะ   คือตั้งแต่หนูตั้งใจเรียนหนูก็ไม่ชอบไปไหนมาไหนกับเพื่อน  อย่างไปเรียนพิเศษหนูก็จะเรียนรอบที่เพื่อนไม่เรียน   เพื่อนชวนไปไหนหนูก็ไม่ค่อยไป  อย่างช่วงนี้ใกล้กีฬาสี  เพื่เือนๆในห้องเค้าไปทำอุปกรณ์กีฬาสี  หนูก็ไม่อยากไป  เพราะหนูเสียดายเวลาอ่านหนังสือของหนู  คือเวลาไปเพื่อนๆเค้าก็เล่นกันไม่ค่อยทำงาน   แต่พอเอาไปเอามาหนูเริ่มรู้สึกว่าหนูไม่มีเพื่อน  เพื่อนสนิทหนูก็ยังมีนะคะ  เพียงแต่กับเพื่อนคนอื่นๆในห้อง  หนูเริ่มรู้สึกว่าเหมือนหนูอยู่คนละโลกกับพวกเค้าแล้วค่ะ  พวกเค้ายังไม่เตรียมตัวอ่านหนังสือกันสักคนเลยนะคะ  เอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆ
   หนูทำไงดีอะคะ  ที่จริงหนูตั้งใจว่าเพื่อนค่อยไปหาตอนเข้ามหาลัยได้ก็ได้  แต่หนูก็รุ้สึกเหมือนตัวเองกำลังทิ้งชีวิตม.ปลายไปยังไงก็ไม่รู้







มนุษย์เราประกอบด้วยร่างกาย แล จิตใจ

หากขาดสมดุล ชีวิตจะเกิดความไม่มั่นคงและอ่อนไหวทางจิตใจ

ทาง "สายกลาง" ซึ่งถือว่าสำคัญยิ่ง

อ่านหนังสือจนลืมทุกสิ่ง ในระยะยาวจะส่งผลถึงการขาดทักษะที่จะนำไปใช้ในการเกี่ยวข้องกับมนุษย์

เล่นอย่างเดียว ทำกิจกรรมอย่างเดียว แม้จะมากด้วยทักษะการข้องเกี่ยวกับมนุษย์

แต่กลับขาดทักษะ "การสงบนิ่ง" และ "การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม"



สัดส่วนชีวิต ไม่จำเป็นจะต้อง 50 : 50

แต่สัดส่วนจะแปรไปตามกาลเวลาและบุคคล และลำดับความสำคัญภายใต้เงื่อนไขเวลาที่จำกัด

อะไรสำคัญก่อนก็มาก่อน ในปริมาณที่มากกว่าสิ่งที่สำคัญรองลงไป ณ ขณะนั้นๆ



คนที่อยู่กับตนเองและเสียดายเวลา

มองกิจกรรมสันทนาการบางอย่างเป็นเรื่องไร้ค่า

สุดท้ายก็จะเก่งตามที่ตนเองบ่มเพาะมา

แต่กลับพูดเรื่องอื่นไม่ได้ นอกจากเรื่องที่จิตพะวงอยู่

ถ้าเป็นเด็กเก่งก็คงพูดได้เเต่เรื่องการเรียน หรือการงานที่ตนเองคร่ำหวอด

เรื่องสังคมรอบข้าง เรื่องจิตใจที่อ่อนโยน เริ่มถอยห่างออกไป เพราะถูกมองข้ามหรือไม่ใส่ใจ

บางครั้งก็จะเข้ากับใครลำบาก นอกจากคนในกลุ่มหรือประเภทเดียวกัน

แต่คนกลุ่มเดียวกันก็มักจะคำนึงถึงคะแนนมาอันดับหนึ่ง

จึงเต็มไปด้วยการแข่งขัน และบ่มเพาะความกร่นทุกข์กร่นโศก ทีละเล็กทีละน้อยโดยไม่รู้สึกตัว

มารู้อีกที ก็พบว่าทำไมความสุขของตนจึงเหลือน้อยลง

คนกลุ่มนี้จะคิดว่า"เวลา" มีค่าสูงสุดและมีความสัมพันธ์กับการสร้างเป้าหมายของชีวิตจนลืมเห็นความงดงามระหว่างเส้นทางของชีวิตอีกด้านหนึ่ง

หรือเรียกคนประเภทนี้ว่า IQ ดี แต่ EQ ไม่สู้จะดีนัก


พอมีครอบครัวก็อาจต้องวิ่งบนลู่แข่งขันต่อไปด้วยความคุ้นชิน

ไร้สุข กร่นทุกข์ จนวันหนึ่งอาจมีครบทุกอย่างยกเว้น "ความสุข" และ"มิตรภาพที่ดี"ในครอบครัวและรหว่างผู้คน

ธงที่ปักลง ก็คงไม่พ้นเรื่อง "ลาภยศ" เมื่อเติบใหญ่ เฉกเช่นสมัยเรียนที่มุ่งเน้น "คะแนน"เป็นหลัก

ไม่เคยให้เวลากับใครเพราะเวลามีค่าต่อการสร้างความสำเร็จให้ตนเอง

พอมาเป็นครอบครัว ลูกและคู่ครองจึงตามมาเป็นอันดับรองจากงานและผลของงานที่ตนตั้งเป้าไว้



ด้วยเหตุนี้

คนเราจึงต้องมีความพอดี และมีความปกติของจิตใจคือไม่ต้องกระเสือกกระสนให้ทะลุเป้าหมายที่ท้ายที่สุดกลับมาสกัดความสุขของตน

ถ้าจะขยันก็เพราะขยัน  ไม่ใช่ขยันเพราะกลัว ขยันเพราะไม่อยากให้น้อยหน้าใคร หรือขยันเพราะตนต้องเป็นที่หนึ่ง

เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำไปให้ทุกข์ แล้วจะไปหาสุขจากไหนในได้ปัจจุบันล่ะคะ



ท่านพุทธทาสจึ่งเรียกการศึกษาเช่นนี้ว่า "การศึกษาหมาหางด้วน"

เป็นการศึกษาที่ทำให้ตัวเราขาดความสมดุลหรือไม่สมประกอบโดยตัวเราเองก็ยังมองตัวเราเองไม่เห็น

มีหลายท่านที่แข่งขันกันจนเป็นชนชั้นนำ

แต่ท่านเหล่านั้นก็ไม่ได้กระชากม่านชีวิตให้ดูว่า

ชีวิตเขาเหล่านั้นประสบความสุขเหมือนตัวเลขในสมุดพกหรือสมุดบัญชีเงินฝากหรือเปล่า


แต่เมื่อผู้คนพากันมองภายนอกว่า นี่คือ"ความสำเร็จ" ผู้คนจึงพากันทำตาม

เหมือนสุนัขที่ลุกขึ้นมายอมตัดหางตนเองออกเพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าการตัดหางออกเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวสุนัขเอง

ชีวิตจึงกระทำตามกันโดยขาดปัญญาแยกแยะจนชีวิตขาดสุขและทุกข์กลับทวี  อุปมาดั่งสุนัขที่เสียสมดุลในสรีระ



คุณครูคิดว่า

หนูควรให้ความสำคัญกับการศึกษา แต่ควรผ่อนความเค้นเครียดด้วยการให้ความสำคัญด้านจิตใจมากขึ้นกว่าเดิม

ใส่ใจเพื่อนฝูงบ้าง เห็นใจและมีน้ำใจต่อกันและกันบ้าง อภัยให้กันบ้าง

เรียนรู้ชีวิตทางอ้อม ผ่านชีวิตของเพื่อนบ้าง

แล้วหนูจะเริ่มเข้าใจว่า การสะสมเกรดเป็นสิ่งดี

แต่จะดีขึ้นถ้าเราสะสมความดีที่ส่งมอบและส่งต่อให้กันและกันในสังคม




หนูจับความรู้สึกเก่งมากลูก

ถึงได้ถ่ายทอดความทุกข์และความโดดเดี่ยวออกมาเป็นตัวอักษร


ลองใหม่นะลูก

คนเก่ง คือเก่งที่จะใช้หนึ่งชีวิตที่ได้มาอย่างมีสุข

ควาสุขฉับพลัน ( instant happiness) จะผุดบังเกิดหากหนูเรียนรู้ที่จะให้ และร้จังหวะที่จะรับ ได้อย่างมีดุลยภาพ

และพลังเหล่านนี้จะไปเกื้อหนุนให้การเรียนของหนูมีพลัง

เพราะความเก่งของหนู จะเป็นความเก่งที่เอื้อประโยชน์ต่อคนรอบข้าง



ลองดูนะคะ

สุขนิยมบนความดีที่ไม่ยึดดี

กับสุขนิยมบนวัตถุนิยม และการไปสู่เส้นชัยอย่างโดดเดี่ยว

ให้ผลที่มีรสหอมหวานต่างกันค่ะ




คุณครูเป็นกำลังใจให้นะคะ



 

อย่าลืมเทียมเกวียนเยี่ยงควาย อ่านซ้ำๆ ทวนซ้ำๆ นะคะ คุณครูสมศรีและพี่ๆเสื้อส้ม เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆค่ะ!!!!!
นามา
« #1 : October 10, 2010, 08:43:20 PM »

รักครูสมศรีมากครับ  อยากลงเรียนสดได้  แต่ไม่เคยลงได้เลยต้องไปเรียนพญาไท  รักครูครับ
 
Zehahaha
Newbie
*
: 28


« #2 : October 13, 2010, 08:48:56 PM »

อยาก จุ๊บ ครูสมศีอะ ครูน่ารัก
 
Zehahaha
Newbie
*
: 28


« #3 : October 13, 2010, 08:49:41 PM »

ขอโทษครับ พิมพ์ตก รอ เรือ
 
HardyLowe
HardyLowe
Newbie
*
: 2


« #4 : November 12, 2018, 12:33:44 PM »

ตั้งใจตอนนี้แลกกับอนาคต ครูเองก็พูดถูกอยู่เหมือนกันครับ
 

: [1]  
:  

+

Sorry, the copyright must be in the template.
Please notify this forum's administrator that this site is missing the copyright message for SMF so they can rectify the situation. Display of copyright is a legal requirement. For more information on this please visit the Simple Machines website.