ยังไงก็เพิ่งผ่านวันพ่อมาแค่วันเดียว ผมก็อยากให้ประสบการณ์ของผมเป็นสิ่งที่เตือนใจกับเพื่อนๆที่เคยทำแบบเดียวกับผมนะครับ
ตอนนี้ผมเรียนอยู่ม.3ในโรงเรียนสหแห่งหนึ่งใกล้ๆโรงเรียนครูสมศรี
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ครูทำให้ผมได้คิดอะไรหลายๆอย่างตั้งแต่ผมเกิดมา แม่เป็นคนเลี้ยงดูผม โดยที่พ่อเป็นคนคอยหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว
ตั้งแต่ผมจำความได้ วันนึงผมจะได้เจอพ่อสักชั่วโมงหรือสองชั่วโมง เพราะพ่อกลับจากทำงานก็ดึกแล้ว แล้วก็ไปทำงานตั้งแต่เช้า
พ่อของผมมีอาชีพเป็นทนายความอันดับ1ในบริษัทแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียง ปีหนึ่งพ่อได้ค่าตอบแทนจากบริษัทมากกว่า8หลัก
พ่อทำงานเหนื่อยมาก บางวันไม่ได้หลับไม่ได้นอน
แม่ลาออกจากราชการเพื่อมาเลี้ยงดูผมและพี่ชาย
ตั้งแต่ตอนเด็กๆ พ่อชอบซื้อเสื้อผ้าให้ผม ซื้อของเล่นให้ผม พาไปเที่ยว ตามใจผมมาตลอด
จนบางทีทำให้ผมเป็นเด็กที่เอาแต่ใจ อยากได้อะไรต้องได้ และไม่คิดถึงความเหน็ดเหนื่อยของพ่อที่กว่าจะหาเงินได้มาแต่ละบาท
ผมคิดว่ารักจากพ่อเป็นรักที่บริสุทธิ์ และเป็นรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
จนวันหนึ่ง ตอนที่ผมอยู่ป.5
ผมตื่นมาในตอนเช้าของวันเสาร์ที่คิดว่าเป็นวันที่เราควรจะมีความสุข
ผมเดินลงบันไดจากชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของผม
ผมเห็นแม่นั่งร้องไห้อยู่คนเดียว
พ่อของผมก็เพิ่งขับรถออกไปจากบ้าน
ผมรีบวิ่งเข้าไปหาแม่และถามว่าเกิดอะไรขึ้น
แม่ผมไม่พูดอะไรทั้งสิ้นนอกจากกอดผมไว้อย่างแน่นที่สุด
ทุกคืนผมผมเดินผ่านห้องของแม่
ผมจะได้ยินเสียงแม่ร้องไห้เกือบจะทุกคืน
มันทำให้ผมพยายามที่จะหาเหตุผลว่าทำไมแม่ถึงร้องไห้
เป็นเวลานานที่พ่อและแม่ไม่ค่อยคุยกัน แม่ถามอะไรพ่อก็ไม่ตอบ
พ่อกลับบ้านดึกทุกวัน บางวันก็กลับบ้านตอนเช้า
มันทำให้ผมเริ่มพยายามคิดหาเหตุผลที่พ่อและแม่ไม่คุยกันมากขึ้นอีก
ตอนดึกๆของวันหนึ่งเมื่อผมอยู่ป.6
แม่เดินเข้ามาในห้องนอนของผม
กุมมือผมไว้แน่น ดึงผมเข้าไปกอด แล้วน้ำตาแม่ก็เริ่มไหล
แม่ถามผมว่าทำไมผมถึงพยายามหาเหตุผลที่พ่อเป็นแบบนี้
ผมไม่ได้ตอบอะไรไป
แม่ผมถามกลับมาว่าลูกพร้อมที่จะรู้ใช่ไหม
ผมทำได้แค่พยักหน้า
ตอนนั้นจิตใจผมเริ่มไม่ดี มือสั่น ปากเริ่มสั่น
แม่บีบมือผมแน่น พร้อมกับพูดว่า ลูก พ่อเค้าไม่รักครอบครัวแล้วนะ
ผมรีบย้อนถามแม่ด้วยความตกใจว่าทำไม
แม่ผมพูดคำที่ผมคิดว่าผู้ชายที่ผมรักที่สุดในโลกนี้ไม่มีทางทำกับเราแบบนี้ได้
" พ่อกำลังเลี้ยงดูผู้หญิงอีกคนที่ไม่ใช่แม่ "
ผมนิ่งไปสักพัก พร้อมกับคิดทบทวนคำพูดของแม่
ผมชอคไปสักพักหนึ่ง
ผมพูดอะไรไม่ออก
มันเหมือนมีอะไรมากรีดตรงหน้าอกผม
ทุกอย่างรอบๆผมมันมืดไปหมด
ความรู้สึกแรกที่สุดที่ผมมีต่อพ่อในตอนนั้นคือโกรธและเกลียด
ผมทำได้แค่เกลียดพ่อ ไม่คุยกับพ่อ ไม่ดูแลพ่อ ไม่สนใจพ่อ
พ่อยังคงเป็นเช่นนั้นมาเรื่อยๆ
ผมตัดสินใจที่จะคุยกับพ่อเรื่องนี้โดยที่ไม่ให้แม่รู้
ผมเดินเข้าไปหาพ่อและถามพ่อว่า " ทำไม "
พ่อกลับตอบไม่ตรงคำถามที่ผมถามไป เพียงแต่ย้อนผมกลับมาว่า พ่อเป็นแบบนี้แล้วลูกเดือดร้อนอะไร
น้ำตาผมไหลออกมาเองโดยที่ยังไม่ทันคิดอะไร
ผมกำมือแน่น
ผมย้อนถามพ่อกลับไป " พ่อถามว่าอะไรนะ "
ผมไม่ใช่คนที่ชอบร้องไห้ให้คนอื่นเห็น ไม่ชอบแสดงความอ่อนแอของตัวเองให้คนอื่นเห็น
แต่มันเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ที่จะมีพ่อแบบนี้
พ่อทำให้แม่ร้องไห้มาตลอด พ่อไม่คิดถึงครอบครัวเลยหรอว่าจะทุกข์เพียงใด
พ่อแค่คิดว่าสิ่งที่เค้าทำให้ครอบครัวก็เพียงแค่ส่งเงินให้ใช้เป็นเดือนๆ
ความสุขที่ผมได้ใช้เงินไปวันๆตามใจตัวเองโดยที่ไม่ได้รับความสุขจากพ่อมันเป็นความทุกข์
ผมทนอยู่อย่างไม่มีความสุขมาตลอด
แม่ได้แต่บอกผมว่ายังไงเขาก็ยังเป็นพ่อเรา
เราต้องอดทนไว้ก่อน แม่ยังไม่อยากทำอะไร
ถ้าลูกโตแล้ว สอบเข้ามหาวิทยาลัยดีๆได้ จบมาทำงานดีๆ
แม่จะไม่อยู่ทนต่อไปหรอกลูก
ถึงเวลานั้นเราจะมีความสุขด้วยกัน
พ่อเค้าก็ยังรักเราอยู่เพียงแต่อาจจะเป็นเพราะเราดูแลเขาไม่ดี
ลูกต้องไม่เกลียดพ่อ ต้องคอยให้ความรักพ่อ ตอบแทนบุญคุณของพ่อ
อย่าเพิ่งไปพูดอะไรกับพ่อตอนนี้
ลูกมีหน้าที่เรียน เป็นความหวังของแม่
พ่อไม่รักเราก็ไม่เป็นไร เราต้องรักตัวเอง
คุณค่าของชีวิตเราไม่ได้อยู่เพียงแค่เรามีเงินใช้ มีหน้ามีตาในสังคม
เราต้องมีความสุขกับชีวิต ทำชีวิตทุกวันให้มีค่ามากที่สุด
เราต้องไม่ท้อ ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เราประสบความสำเร็จ
แต่ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่ต้องท้อ เราต้องยืนอยู่ด้วยขาของตัวเองได้ในวันที่ยากลำบาก
จากคำพูดของแม่มันทำให้ผมมีกำลังใจมากขึ้น
มีแรงที่จะลุกขึ้นมาอ่านหนังสือเช้าๆ
จากที่เป็นเด็กที่ไม่สนใจเรียนผมกลับสอบได้ที่2โดยที่ไม่เคยทำได้มาก่อน
ผมตื่นขึ้นมาด้วยนาฬิกาปลุกตอนตีสี่ทุกเช้าพร้อมกับแม่ที่ชงโอวัลตินมาให้
ผมได้แต่เฝ้าบอกแม่บ่อยๆว่า แม่รอหน่อยนะ ลูกคนนี้จะเลี้ยงแม่เอง
เมื่อผมมีความทุกข์ หรือท้อแท้
ผมยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมกับนึกถึงหน้าแม่
นึกถึงภาพแม่ที่เลี้ยงดูเราตอนไม่สบาย
ผมไม่ค่อยคำนึงถึงพ่อสักเท่าไร
ทำได้แค่แบมือขอเงินซื้อของที่ตัวเองอยากได้
แม่สอนผมให้ประหยัดที่สุดเพราะทุกอย่างตอนนี้มันไม่แน่นอน
ถ้าหากพ่อเป็นอะไรขึ้นไป คนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือลูก
แม่ไม่ห่วงตัวเองหรอก เพียงแต่อยากให้ลูกอยู่ได้โดยที่ไม่มี่พ่อ
หรือแม้กระทั่งวันหนึ่งที่อาจจะไม่มีแม่
แม่ผมตัดสินใจบอกผมไม่นานมานี้ว่าจริงๆแล้วพ่อมีลูกกับเมียน้อย
ตอนนี้เด็กคนนั้นอายุ4ขวบ
แทนที่ผมจะรู้สึกทรมาน เจ็บปวด หรือนั่งร้องไห้เป็นวันเป็นคืน
ผมกลับรู้สึกชา แล้วถามแม่ว่า ทำไมหรอ
แม่งงกับคำพูดของผม แต่แม่ก็ทำอะไรไม่ได้
ผมทำได้แค่ตั้งหน้าตั้งตาเรียนเพื่อให้แม่ภูมิใจ เพื่อที่จะได้เลี้ยงดูแม่
เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา
ผมได้ฟังเรื่องที่ครูอ่านให้ฟัง
มันทำให้ผมอยากขอโทษพ่อในคำพูดที่ผมพูดไม่ดีกับพ่อ
ผมทำผิดกับพ่อไว้เยอะ
ผมเริ่มคิดว่าเหตุผลที่พ่อต้องออกไปหาความสุขนอกบ้านเพราะเราดูแลพ่อไม่ดี
ผมได้แต่โทษตัวเองแทนที่จะโทษพ่อว่าไม่รักครอบครัว
แต่สิ่งที่ผมทรมานมากที่สุดในตอนนี้
เป็นสิ่งที่ผมไม่อยากให้มันเกิดขึ้นที่สุดในชีวิต
ผมรู้สึกทรมานมากที่สุด
ผมรู้สึกเหมือนทุกอย่างในชีวิตมันจบลง
ผมจะต้องอยู่โดยที่ไม่มีแม่
แม่ผมเป็นมะเร็งในตับ
แม่ผมไม่เคยกินเหล้าสูบบุหรี่หรือทำอะไรที่เป็นความเสี่ยงของมะเร็งตับเลย
ผมได้แต่นอนร้องไห้ทุกคืน
แม่ผมได้แต่บอกกับผมว่า
ไม่เป็นไรนะลูก
แม่เหลือเวลาอีกไม่เยอะเท่าไร
ลูกต้องเชื่อฟังพ่อ
ต้องรับทุกอย่างที่พ่อเป็นให้ได้
ไม่มีผู้ชายคนไหนรักลูกเท่าแม่นอกจากพ่อแล้ว
ลูกต้องไม่เกลียดพ่อ ต้องตอนแทนบุญคุณพ่อ
นี่คือคำพูดที่แม่ย้ำให้ผมฟังเป็นประจำ
ผมพยายามทำทุกวินาทีให้มีค่าที่สุดเพื่อแม่ของผม
ผมอยากให้แม่อยู่รอดูความสำเร็จของผม
แต่ตอนนี้คงเหลือคนเดียวที่จะรอดูความสำเร็จของผมได้ก็คือพ่อ
ผมอยากบอกให้ทุกๆคนที่คิดว่าพ่อไม่ได้รักครอบครัว
อยากให้ทุกคนคิดว่าพ่อเค้าต้องมีเหตุผลส่วนตัวของเค้า
ไม่ว่าจะเป็นยังไงท่านก็เป็นพ่อของเรา
ท่านเลี้ยงดูเรามาก่อน ถึงเวลาที่ท่านแก่ตัว เราก็ต้องเลี้ยงดูพ่อเหมือนที่พ่อเลี้ยงดูเรามาก่อน
พ่อบางคนจากตาย แต่ก็ยังมีความรู้สึกดีๆเก็บเอาไว้
แต่พ่อของผมจากเป็น แต่มีความทุกข์
แต่เราต้องยอมรับความจริงให้ได้ว่าท่านก็ยังเป็นพ่อของเรา
อยากให้ทุกคนรักพ่อและแม่มากๆนะครับ
ผมไม่อยากให้ใครเป็นแบบผม
บางคนภายนอกดูเข้มแข็ง แต่ข้างในอาจจะมีความทุกข์อยู่เยอะนะครับ
ถ้าใครที่กำลังเป็นแบบผมอยู่ก็อยากให้กำลังใจและอย่าท้อนะครับ
ไม่ใช่นายหรือเธอคนเดียวที่เป็นแบบนี้
ขอให้สู้ต่อไปละก็ไปให้ถึงจุดหมายนะครับ
คิดว่าครูคงจะจำผมได้นะครับ ad2รอบพฤหัส คนที่ครูเอากระดาษทิชชู่มาให้
ที่จริงอยากคุยกับครูเมื่อวันนั้นแต่คนเยอะก็เลยไม่ได้คุยนะครับ
ยังไงก็ขอให้ทุกคนรักพ่อแม่มากๆนะครับ
ราชสีห์น้อยที่น่ารัก
ท่วงทีที่สง่างาม
คุณครูตั้งชื่อนี้ให้หนู
เพราะความคิดของหนูสง่างามและทรงพลัง
ทั้งต่อตนเองและต่อผู้ที่ได้เข้ามาอ่านประสบการณ์ที่คล้ายพยับเมฆที่เคลือบคลุมชีวิตให้มืดมิดเพียงชั่วขณะ
การที่คนเราจะได้เกิดมาในภพภูมิมนุษย์นั้นยากนัก
เชื้อของพ่อและไข่แม่คือเหตุปัจจัยที่อุบัติชีวิตของเราทุกคน
แค่ได้อาศัยปัจจัยนี้ก็ทำให้เราได้สามารถลืมตาดูโลก
หลายคนพยายามพยุงครรภ์ให้ลูกได้อยู่ครบตามกำหนดเพื่อให้ชีวิตน้อยๆได้สามารถลืมตามาดูโลก
หลายคนไม่สามารถเก็บชีวิตนี้ไว้และจำเป็นต้องประหัตประหารให้ชีวิตสิ้นลงตามสังขารลิขิตของตน
แต่สำหรับหนู หนูได้รับการฟูมฟักกจนหนูได้มาซึ่งกายาและจิตใจที่สมบูรณ์
แค่ท่านทั้งสองให้ชีวิตเรามา ก็นับว่าท่านมีพระคุณมากเหลือล้นเกินกว่าที่เราจะทดแทนพระคุณได้หมด
เราเป็นผลของเหตุ ไม่มีอะไรบังเอิญนะลูก
แค่เรารับความจริงนี้ได้ ความทุกข์ก็หายไปแล้วครึ่งหนึ่งแล้ว
อีกครึ่งหนึ่งคือความเข้าใจในกฏแห่งธรรมชาติ
ไม่มีอะไรที่เป็นไปตามที่เราหวังเสมอนะลูก
เราก็มีกันวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน
มีคนที่อยู่ด้วยกันไม่กี่คนในครอบครัว
เกิดมาทั้งที แม้ใครจะทำร้ายจิตใจเรา แต่เราก็อย่าไปทำร้ายชีวิตใครเลยนะครับ
มนุษย์สามารถปรับตนได้เป็นอย่างดี
"เวลา"จะเป็นโอสถสำหรับหนู
ปิดตาลงโลกก็มืด ลืมตาขึ้นโลกก็สว่าง
ความมืดความสว่างบางทีก็อยู่ที่เรากำหนดนี่เองครับ
บนผืนฟ้าที่มืดมน เพียงดาวสองสามดวงที่ส่องแสงระยิบระยับก็ทำให้ท้องนภาแสนเรืองรองแล้ว
ชีวิตตคนเรา แม้จะมืดมิด แต่หากเรามองเป็น ความสวยงามก็ปรากฎขึ้นได้ในพริบตานะลูก
เหมือนที่หนูเป็นตอนนี้ไงครับ
ดูแลคุณแม่ดีๆนะครับ
ท่านคือแม่ผู้ประเสริฐ
แม่ผู้เข้มแข็ง
แม่ผู้อดทน
และแม่ผู้สง่างาม
แม่ที่ให้สติลูกมากกว่าความโกรธแค้นเกลียดชัง
คุณพ่อเองก็คงต้องมีเหตุผล อาจจะเป็นเรื่อง "นอกเหตุเหนือผล" ซึ่งยากที่จะอธิบายได้
แต่มันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
จงขวนขวายหาความรู้ไว้นะครับ
เพราะความรู้เป็นทรัพย์ที่มีค่าที่สุดที่ใครก็แย่งชิงเราไปไม่ได้
และที่ขาดไม่ได้ก็คือ "ธรรมโอสถ" ที่เป็นหลักให้เราไม่เซซวนไปกับโลกธรรมในชีวิต
พยุงอารมณ์ให้คุณแม่มีทุกลมหายใจเข้าออกที่ไม่เป็นโทษต่อดวงจิตและร่างกาย
ฝากกราบเรียนคุณแม่ให้คุณครูด้วยว่า
ฝากราบขอให้คุณแม่ดูแลจิตใจของตนให้สงบดั่งสายน้ำที่ไหลรินอย่างใสเย็น
"น้ำนิ่งไหล" ที่ยังดำรงชีพได้อย่างสงบและสง่างาม
คุณแม่เข้มแข็งมากค่ะ
ไม่มีคำใดที่คุณแม่ต่อว่าคุณพ่อให้ลูกได้ยิน
สถาบันครอบครัวยังสวยงามต่อลูกคุณแม่ค่ะ
ขอบพระคุณคุณแม่แทนสังคม ที่หลอมหล่อจิตใจที่งามให้กับลูกคุณแม่
ระยะทางที่คุณแม่เดินมาผ่านขวากหนามและศิลากั้นขวาง
คุณแม่สามารถฝ่าฟันไปได้ด้วยจิตที่มั่นคงและเด็ดเดี่ยวแต่กลับอ่อนโยนและทรงพลัง
คุณแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ
ดิฉันจะเป็นอีกหนึ่งเข็มทิศชีวิตที่ร่วมนำทางให้ลูกของคุณแม่ได้ก้าวเดินในมรรคาที่ถูกควร
เพื่อเขาจะได้เติบใหญ่เป็นผู้ที่มั่นคงทั้งอารมณ์และสติปัญญา
อดทนนะคะ
เจ็บแต่กายนะคะ
อย่าปล่อยให้จิตได้กระทบกระเทือนแม้แต่น้อย
กายเป็นของหมอ แต่จิตเป็นของเรานะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่และราชสีห์น้อยของคุณครู
ขอพระธรรมและพระบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโปรดสถิตย์เป็นลมปราณที่ทรงพลังหยั่งรู้เท่าทันในการเกิดดับ
เข้าถืงแก่นพระไตรลักษณ์และล่วงทุกข์ไปได้ในที่สุด
ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคุณและลูกตลอดไปค่ะ
คุณครูสมศรี ครูไทย...ที่เข้าใจหัวใจเด็กไทย