ชายชรากับหม้อดิน
ชายชราคนหนึ่งมีอาชีพเป็นชาวนาว เขาจะมีหม้อดินประจำตัวของเขา ทุก ๆ วัน ลูกสะใภ้จะทำแกงจืดใส่หม้อดินอันนี้ให้ไปกินเป็นอาหารกลางวันทุก ๆ วัน
มีอยู่วันหนึ่ง ขณะที่ชายชรากำลังเดินทางไปที่นาของตนเอง เพื่อไปเกี่ยวข้าว ระหว่างนั้นเขาก็เพลินกับการชมนกชมไม้ จึงไม่ทันสังเกตเห็นก้อนหินก้อนหนึ่งที่อยู่กลางทาง ซึ่งมีคนทำตกไว้
ในระหว่างที่เขาเดินไปนั้นก็สะดุดก้อนหินดังกล่าว ล้มลงไป แม้ว่าร่างกายจะไม่บาดเจ็บ หรือเป็นอะไรแม้แต่อย่างเดียว แต่ก็ทำให้หม้อดินที่ใส่แกงจืดเอาไว้กระทบกับพื้นดินแตกละเอียด ส่วนแกงจืดก็หกเต็มพื้นไปหมด
แต่อย่างไรก็ดี แม้ว่าหม้อดินแตก แกงจะหก ชายชราก็ยังคงเดินต่อไป มิได้กังวนกับสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ซึ่งในขณะเดียวกันมีชายนุ่มคนหนึ่งบังเอิญเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และรู้สึกตกใจแทน จึงวิ่งไปหาชายชราและกล่าวว่า
"ท่านผู้อาวุโส ๆ" ชายหนุ่มเรียก
"เจ้ามีธุระอันใดกับข้าอย่างนั้นหรือ" ชายชราถาม
"ท่านรู้หรือไม่ว่าหม้อดินของท่านนั้นแตกหมดแล้ว แกงของท่านก็หกหมด" ชายหนุ่มกล่าว
"แน่นอนว่าข้ารู้" คำตอบของชายชราทำให้ชายหนุ่มถึงกับตกตะลึง เพราะชายชรานั้นไม่มีท่าทีร้อนรอนหรือเดือดร้อนแต่ประการใด
"ท่านรู้แล้วใยมิมีปฏิกิริยาอันใดเล่า" ชายหนุ่มเอ่ย ถามชายชราด้วยความประหลาดใจ
"สหายน้อยเอ๋ย หม้อดินนั้นเมื่อแตกแล้วก็ย่อมต้องทิ้ง แกงตกพื้นแล้วก็ย่อมกินไม่ได้ ทั้งสองสิ่งไม่สามารถหวนกลับคืนมาได้ ไม่ว่าข้าจะฟูมฟายหรือว่าตกใจสักแค่ไหนก็ตาม แล้วจะมีประโยชน์อันใดเล่าที่ข้าจะฟูมฟายกับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว แล้วข้าก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขอะไรได้เลย"
เมื่อชายหนุ่มได้ฟังชายชรากล่าวแล้ววก็ค้นพบสัจธรรมได้ทันที และเข้าใจการกระทำของชายชราในบัดดล
สุภาษิตสอนใจ "อดีตไม่สามารถหวนคืน"
Credited:
http://tusora.exteen.com/20090417/entry