อ่านกันนิดนะคะ

สำหรับการเข้าสอบ A-NET ถ้าเอามือถือเข้าห้องสอบ

อย่าลืม!! ปิดเครื่องแล้ววางใต้เก้าอี้ด้วยนะคะ

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สทศ.พบทุจริตโอเน็ตอีก 2 ราย รวม 4 ราย ที่ศูนย์สอบจุฬาฯ-มทส. ปรับตกทันที

วันที่ 23 ก.พ.52 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)

ได้จัดทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) ประจำปีการศึกษา 2551

สำหรับนักเรียนม.6 ไปเมื่อวันที่ 21-22 ก.พ.ที่ผ่านมา และปรากฏว่าพบทุจริต 2 ราย ที่ศูนย์สอบ

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพและเทคโนโลยี

ที่เด็กไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ โดยแอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบ และเมื่อกรรมการ

คุมสอบตักเตือน เด็กไม่เชื่อและแอบเปิดโทรศัพท์ ดังนั้นถูกปรับตกวิชานั้นทันที

และศูนย์สอบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) เด็กแอบดูข้อสอบเพื่อนที่อยู่ข้างหน้า นั้น

ล่าสุด นางอุทุมพร จามรมาน ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เผยว่า

ศูนย์สอบจุฬาฯ ได้แจ้งมาที่ สทศ.ว่ามีเด็กที่ฝ่าฝืนระเบียบการเข้าสอบ เพิ่มอีก 2 ราย

จากที่แจ้งมาแล้ว 1 ราย ที่วิชาวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพและเทคโนโลยี

โดยรายที่เพิ่มมานั้นรายที่ 1 สอบวิชาภาษาอังกฤษ ที่เมื่อเด็กทำข้อสอบเสร็จ

ก็นำโทรศัพท์มือถือออกมาดู และทางกรรมการคุมสอบเห็น และรายที่ 2 สอบวิชาคณิตศาสตร์

ซึ่งระหว่างที่ทำข้อสอบมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้กรรมคุมสอบเข้ามาดูและสอบถามเด็ก

ทราบว่าแม่โทรเข้ามา

“ ทั้งนี้ 3 กรณี ที่ศูนย์สอบจุฬาฯ เป็นนักเรียนหญิงทั้งหมด และทุกกรณีนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบ

ที่เด็กไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่กำหนดไว้ โดยแอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบ ดังนั้นทั้ง 3 กรณีนี้

ทางศูนย์สอบได้พิจารณาปรับตกในวิชาที่สอบไปแล้ว ส่วนกรณีที่ศูนย์สอบ มทส. ทางศูนย์ได้รายงาน

รายละเอียดเพิ่มเติมเข้ามาแล้วเช่นกัน ว่า เป็นเด็กนักเรียนหญิงเช่นกัน ที่แอบดูข้อสอบของเพื่อนข้างหน้า

ทั้งที่อยู่คนละโรงเรียน และเมื่อกรรมการคุมสอบนำเด็กมาสอบสวนเด็กก็รับสารภาพว่า

แอบดูเพื่อนข้างหน้าจริง ทางศูนย์สอบจึงพิจารณาปรับตกในวิชานั้นด้วย ”

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สอบโอเน็ต ม.6 วันสุดท้ายพบทุจริต 2 ราย

เมื่อวันที่ 22 ก.พ.2552 นางอุทุมพร จามรมาน ผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.)

ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสนามสอบโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี ซึ่งมีการสอบแบบทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ

ขั้นพื้นฐาน หรือ โอเน็ต เป็นวันที่ 2 สำหรับนักเรียนชั้น ม.6 ประจำปีการศึกษา 2551 โดยนางอุทุมพร

เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมว่า ในการสอบโอเน็ตทั้ง 2 วันคือ วันที่ 21-22 ก.พ. ค่อนข้างเรียบร้อย

ซึ่งได้เปิดสายโทรศัพท์รับเรื่องร้องเรียนตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่มีศูนย์สอบใดรายงานเหตุผิดปกติเข้ามา

แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ แม้จะไม่มีเด็กโทรศัพท์ร้องเรียนเข้ามาโดยตรง แต่ก็ได้ติดตามการโพสต์ข้อความ

บนเว็บบอร์ดในเว็บไซด์ยอดนิยมของเด็กๆ เพื่ออ่านข้อความต่างๆ

ทั้งนี้ สทศ. กำลังจะปรับปรุงหน้าเว็บไซด์ของสทศ. www.niets.or.th ให้เด็กๆ สามารถ

เข้ามาโพสต์ส่งข้อความถึง สทศ.ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามส่วนตัวเห็นว่า ที่ผ่านมามีการจับตาการทุจริต

ที่อาศัยเครื่องไฮเทค เช่น นาฬิกามือถือ ซึ่งปีนี้ก็ได้รับข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า มีเครื่องมือใหม่มีลักษณะ

เป็นปากกาที่รับส่งข้อมูลได้ ซึ่งก็ยังไม่มีรายงานว่ามีใครใช้ปากกาประเภทนี้หรือไม่ แต่การทุจริตแบบเก่า

หรือ แบบโลเทค เช่น การจดคำตอบในยางลบ การส่งสัญญาณด้วยการเคาะโต๊ะ หรือแม้แต่การแอบดูกัน

ก็ได้กำชับครูผู้คุมสอบให้จับตาดูเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซด์ยอดนิยมของเด็กๆ อาทิ เด็กดีดอทคอม ได้มีการตั้งกระทู้เกี่ยวกับ

การสอบโอเน็ต อาทิ ถ้าเธอเห็นคนแอบลอกโอเน็ตกันเธอจะบอกอาจารย์ไหม? โดยเด็กๆ ได้เล่า

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องสอบวิชาสังคมศึกษา ซึ่งสอบในวันที่ 21 ก.พ.เป็นวิชาแรก พร้อมกับตั้งข้อสังเกต

ด้วยว่า มาตรการป้องกันการทุจริตในการสอบของ สทศ. โดยกำหนดให้ผู้เข้าสอบต้องนั่งอยู่ในห้องสอบ

จนกระทั่งหมดเวลาสอบ ห้ามออกก่อนเวลา อาจใช้ไม่ได้ผล พร้อมกับตำหนินักเรียนที่ลอกข้อสอบกัน

จากนั้นเวลา 17.30 น. นางอุทุมพร กล่าวภายหลังปิดสนามสอบว่า ได้รับราบงานเรื่องกรณีการทุจริต

จำนวน 2 ราย โดยรายแรกพบที่ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งใช้วิธีแอบลอกข้อสอบ

ของเพื่อนที่นั่งข้างหน้า ส่วนอีกรายพบที่ศูนย์สอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในการสอบรายวิชาที่ 6

คือ สุขศึกษา และพลศึกษา ศิลปะ และการงานอาชีพและเทคโนโลยี พบว่าเด็กไม่ปฏิบัติตาม

ระเบียบที่กำหนดไว้ โดยแอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบ และเมื่อกรรมการคุมสอบตักเตือน

บอกว่าผิดระเบียบ ก็ไม่เชื่อฟัง กลับแอบเปิดโทรศัพท์ ดังนั้นจึงถูกปรับตกในวิชานั้นทันที ส่วนสาเหตุ

ที่เด็กไม่ปฏิบัติตามระเบียบแถมยังไม่เชื่อฟังคำสั่งผู้คุมสอบอาจเป็นเพราะการสอบวิชานี้เป็นการสอบ

วิชาสุดท้ายและเด็กไม่ได้ตั้งใจมาสอบเพื่อนำคะแนนไปใช้เข้ามหาวิทยาลัย หรือจำใจมาสอบ

“ที่สำคัญพบว่าวิธีการทุจริตในปีนี้โลเทคลงกว่าปีที่ผ่านมาเนื่องมาตรการเข้มจากเราบังคับให้

ต้องนั่งสอบเต็มเวลาและไม่ให้นำโทรศัพท์มือถือเข้าห้องสอบเพื่อป้องกันการทุจริตโดยวิธีส่ง

เอสเอ็มเอสให้เพื่อนที่ยังสอบไม่เสร็จ อย่างไรก็ตามพบว่าการให้เด็กนั่งสอบเต็มเวลาทำให้เด็กรู้สึกเบื่อ

เพราะต้องนั่งนาน ๆ แต่ก็คิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด”ผอ.สทศ.กล่าว

อย่างไรก็ตามศูนย์สอบจะรายงานเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีการทุจริตทั้งหมดกี่ราย

คาดว่าจะได้รับข้อมูลทั้งหมดภายในวันที่ 23 ก.พ.นี้ สำหรับการตรวจกระดาษคำตอบนั้น

ขณะนี้รอให้ศูนย์สอบแต่ละแห่งตรวจนับและส่งมายัง สทศ. คาดว่าจะเริ่มตรวจได้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.

และจะประกาศผลคะแนนตามที่ สทศ.กำหนดไว้คือวันที่ 10 เม.ย. แต่หากตรวจคะแนนเสร็จเร็ว

ก็อาจจะประกาศได้ในวันที่ 8 เม.ย.นี้