ครูสมศรีคับ
เบียร์เครียดมากครับตอนนี้
คะแนนสอบออกมาไม่ค่อยดีเลยครับ
ทั้งๆที่เบียร์อ่านหนังสือหนักมากๆครับ
แต่คะแนนสอบออกมาความจริงก็อยู่ในเกรนใช้ได้นะครับ
แต่มันไม่ถึงเป้าที่เบียร์ตั้งไว้อ่าครับ
ตอนนี้เบียร์กลัวไปหมดเลยครับ
เบียร์รู้สึกเครียดมากๆครับ
เพราะคุณพ่อกะคุณแม่ตั้งความหวังกับเบียร์ไว้สูงมากครับ
พี่ๆเบียร์เรียนดีกันหมดเลยนะครับ
เบียร์เริ่มไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลยครับ
ตอนเบียร์เรียนนะครับ
เบียร์เข้าใจเบียร์รู้เรื่องทุกอย่างครับ
แต่พอสอบคะแนนไม่ค่อยได้ตามเป้าที่ตั้งไว้
ทั้งที่เบียร์พยายามมากๆครับ
เบียร์อ่านหนังสือทุกวัน
โดยเฉพาะก่อนสอบ
เบียร์ไม่เคยลุกไปไหนเลยจากห้องหนังสือ
แต่เบียร์เริ่มไม่แน่ใจแล้วครับ
ว่าเวลาสอบเข้าม.4
เบียร์จะทำได้รึเปล่า
เบียร์ไม่มั่นใจในตัวเองเลยครับ
จนตอนนี้เบียร์เริ่มเหนื่อยและหมดแรงครับ
คุณพ่อเบียร์คาดหวังในตัวเบียร์มากจนเบียร์เริ่มกลัว
ท่านส่งเบียร์เรียนพิเศษไม่มีช่องว่างเลยครับ
ซึ่งบางครั้งเบียร์ล้า
เบียร์เก็บความทุกข์ไว้อยู่คนเดียว
เบียร์ไม่เคยแสดงให้ใครเห็น
คนข้างนอกดูเบียร์เป็นคนร่าเริง
แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าเบียร์เก็บความเครียดไว้มาก
เบียร์รู้ตัวเองดีครับ
ว่าเบียร์เป็นเด็กต่างจังหวัด
มีโอกาสน้อยมากที่จะไปอยู่ร.รเตรียมหรือมหิดล
เพราะแต่ละปีร.รเบียร์จะมีคนติดเตรียมหรือมหิดลไม่กี่คนเอง
ซึ่งเบียร์ก็ไม่เคยหวังไกลขนาดนั้น
เบียร์ไม่เข้าใจเลยว่าขนาดเบียร์อ่านหนังสือหนักขนาดนี้
แต่ทำไมคะแนนไม่ได้ดั่งที่วาดไว้ครับ
เบียร์รู้ตัวว่าเบียร์มัน "โง่" แต่เบียร์ก็พยายามมากแล้วครับ
จนวันนี้เบียร์เหนื่อย
เบียร์อยากปล่อยวางทุกสิ่ง
แต่เบียร์ต้องฉุกคิดใช่ไหมครับว่า
สิ่งที่เบียร์จะทำคือต้องทำให้พ่อและแม่ภูใจ
เบียร์จะกลั้นใจอดทน
รอวันที่ฟ้าใหม่จะเข้ามาครับ
ขอบคุณมากครับที่กรุณารับปัญหาของเด็กคนนี้
สวัสดีครับ
ไม่เหนื่อยครับ เชื่อคุณครูนะครับ
ตราบใดที่เราขยันเพราะต้องการพัฒนาตนเองและความเพียร
แต่ที่เบียร์เหนื่อยเพราะเบียร์ตั้งความหวังไว้นะครับ
คุณพ่อคุณแม่แอบคาดหวัง คงเปลี่ยนท่านไม่ได้
แต่หนูก็ทำดีที่สุดแล้ว
แต่คุณครูว่าถ้าหนูเหนื่อยคงเป็นเพราะหนูเรียนมากไปนะครับ
เรียนจนสมองเหมือนแขนที่ยกweight แบบไม่ปล่อยเลยน่ะครับ
เขาเรียกอาการล้าครับ
แต่ถ้าจัดเวลาพักดีๆ หากิจกรรมทำเพื่อผ่อนคลายจะช่วยได้นะคะ
อย่างคุณครูเวลาเครียด พนักงานจะอ้วนนนนน 
เพราะคุณครูจะไปร้านเบเกอร์รี่ขนซื้อแบบเหมาตู้ติดกันเป็นอาทิตย์ๆมาให้เด็กๆทานกันเลย
จนแม่ครัวบอกว่า
"เอาล่ะ... คุณครูเครียด พวกเธอได้กินอีกแล้ว"
คนเราต้องมีทางออกนะครับ
ไม่อีกทีก็ไปกอดแองจี้ คุยกับมะระ มะขาม
พอหายเครียดก็กลับมาทำงานต่อได้อีกมามาย
คุณครูใช้ศัพท์ว่าเป็นช่วง delete junk mail
หรือช่วงล้างหัวอ่าน หัวอ่านใส เล่นเพลงแผ่นจะไม่สะดุด
อาการนี้เรียกอาการเครียดครับ
ลองออกกำลังกายหรือพูดคุยกับคนที่มีพลังในชีวิต
มีจิตใจที่สวยงาม เราจะได้ซึมซับพลังจากเขามานะครับ
เหนื่อยก็พัก
หายเหนื่อยก็เดินต่อไปนะครับ
หายใจเข้าออกลึกๆติดต่อกันสัก 5 นาที โดยไม่ต้องติดอะไร แค่ดุการเคลื่อนของลมหายใจ เดี๊ยวจะดีขึ้นเองครับ
สู้ๆนะครับอ้างอิง
http://www.kru-somsri.ac.th/board/index.php?topic=6399.0