คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
น่าร๊ากกกกก
Administrator
Hero Member
    
: 
: 4363
เดาซิ...คุณครูอุ้มน้องหมากี่ตัว อิอิ
|
 |
« : August 19, 2008, 11:22:36 AM » |
|
ทำไงดีคะคุณครู หนูอ่านหนังสือได้ไม่นานก็ง่วงนอนทุกทีเลย แย่มากเลยค่ะ ? เมื่อ: สิงหาคม 17, 2008, 03:15:52 PM ?
-------------------------------------------------------------------------------- ทำไงดีคะคุณครู หนูอ่านหนังสือได้ไม่นานก็ง่วงนอนทุกทีเลย เซ็งตัวเองมากๆ อีกไม่นานก็จะสอบแล้ว หนูยังอ่านได้ไม่เต็มที่เลยค่ะ
ช่วงนี้ไม่ได้เรียนกับคุณครูสมศรี คิดถึงคุณครูจังเลยค่ะ
คุณครูตอบว่า
ถ้าเราวางจุดหมาย
แบ่งเวลาพักเป็น
กำหนดปริมาณงานต่อหนึ่งการนั่ง
เมื่อถึงเวลาที่กำหนด
ก็แถมให้อีกสักนิด
แล้วค่อยลุกไปพัก
ทำแบบนี้ซ้ำๆ เดี๊ยวก็ติดเป็นนิสัยค่ะ
ถ้าไม่ฝึก ไม่ฝืน แล้วเมื่อไหร่จะชนะกิเลสล่ะคะหนูๆ
สู้สิคะ
แค่นี้ยังไม่เท่า 6480 ชั่วโมงที่แม่แบกเราอย่างต่อเนื่องจนคลอดเลยนะ
ลองเทียบกันดูสิลูก
ฮึกเหิมแล้วยังคะ
งั้น...สู้สุดชีวิตเลยนะ
คุณครูคอยให้กำลังใจอยู่นะคะ
|
อย่าลืมเทียมเกวียนเยี่ยงควาย อ่านซ้ำๆ ทวนซ้ำๆ นะคะ คุณครูสมศรีและพี่ๆเสื้อส้ม เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆค่ะ!!!!!
|
|
|
N'PLOY
Por-Lor-Or-Yor
Hero Member
    
: 
: 1728
?(????)
|
 |
« #1 : August 21, 2008, 11:41:02 AM » |
|
 ขอบพระคุณค่ะคุณครู
|
?KRU.SOMSRI IS EXTREMELY BEAUTIFUL.?
?LOVE K.SOMSRI?
|
|
|
namajung
วิศวกรตัวจริง...
Newbie

: 
: 3
|
 |
« #2 : August 26, 2008, 08:08:09 PM » |
|
หนูจะสู้เพื่อแม่คะ คุณครู
|
|
|
|
PRAEWSMILE
พรรณนภา รัก ครูสมศรี =')
Hero Member
    
: 
: 2803
คิดถึงครูสมศรีจังอะ
|
 |
« #3 : August 26, 2008, 11:54:26 PM » |
|
ค่ะ!
ขอบคุณมากๆค่ะ =]
|
...แม้มิได้เป็นดอกกุหลาบหอม...ก็จงยอมเป็นเพียงลดาขาว...แม้มิได้เป็นจันทร์อันสกาว...จงเป็นดาวดวงแจ่มแอร่มตา...แม้มิได้เป็นหงส์ทนงศักดิ์...ก็จงรักเป็นโนรีที่หรรษา...แม้มิได้เป็นนํ้าแม่คงคา...ก็จงเป็นธาราใส ที่ไหลเย็น...
|
|
|
Gigiie
Newbie

: 
: 5
I'am Gigiie ~ YounG PAD ^^
|
 |
« #4 : September 11, 2008, 07:45:09 PM » |
|
ขอบคุณค่าคุณครู ^^
|
|
|
|
destroy & develop
ตื่นๆ จะเอนซ์แล้ว
Jr. Somsri'S Fanclub
Hero Member
  
: 
: 1911
mental disorder
|
 |
« #5 : September 14, 2008, 06:43:52 PM » |
|
ขอบคุณมากครับคุณครูสุดสวย ที่นำข้อความดีๆมาให้อ่านครับ
|
|
|
|
*Marie*
Newbie

: 44
|
 |
« #6 : September 15, 2008, 05:27:04 PM » |
|
ขอบคุณค่ะคุณครู หนูพยายามแบ่งเวลาอยู่ จะทำให้ได้ค่ะ
|
|
|
|
lB a d t z_m a r u
:::: ภู มิ ใ จ ค รู ส ว ย ::::
Jr. Somsri'S Fanclub
Hero Member
  
: 
: 711
จะพยายามให้ถึงที่สุด...ทำให้ฝันเป็นจริงให้ได้
|
 |
« #7 : September 23, 2008, 07:23:32 PM » |
|
อ่านแล้วมีไฟขึ้นเยอะเลย
ขอบคุณครูมากนะคะ
อีกเดือนกว่าๆ จาสอบความถนัดแร้ว
สู้ตายค่า ~
|
llllll F i g h t i n g f o r MDCU !!! llllll
((( ได้/ไม่ได้ ช่างมัน สู้ไว้ก่อน เพื่อนๆทุกคน สู้ๆๆๆ ไปด้วยกานนนน )))
:::: " Ent " ไม่น่ากลัว ถ้ากลัว " ไม่ต้อง Ent " ::::
|
|
|
PieK_PorN
Newbie

: 
: 8
|
 |
« #8 : October 15, 2008, 10:16:57 PM » |
|
รักครูสมศรีจัง ^^
หนูจะตั้งใจอ่านหนังสือค่ะ
|
|
|
|
Boom_2536
|
 |
« #9 : October 15, 2008, 11:16:25 PM » |
|
ขอบคุณครูมากๆเลยนะคะ สู้ค่ะ
|
|
|
|
primmyka
Newbie

: 1
|
 |
« #10 : January 07, 2009, 10:26:21 PM » |
|
การบเรียนคุณครูที่เคารพค่ะ
วันนี้เป็นวันที่หนูได้เปิด veb ของครูและสมัครเป็นสมาชิกวันแรกค่ะ เพราะในปิดเทอมที่จะถึงนี้หนูต้องขึ้นกรุงเทพไปเรียนพิเศษค่ะ ไปอยู่บ้านของป้า เพื่อนหนูที่เคยเรียนมาบอกว่าครูสอนดีค่ะ หนูเลยมาดูว่ามีเรียนอะไรบ้าง แต่หาเวลาลงไม่ได้เพราะหนูลงเรียนคอร์สอื่นๆไว้แล้ว หนูดูไปเรื่อยๆจนมาเจอที่นี่แหละค่ะ ครูรู้ไหมคะว่าหนูทึ่งมากเลยกับความคิดของครูบวกกับธรรมะที่สอนเด็กไปได้ในเวลาเดียวกันซึ่งเรียนวิชาพระพุทธในโรงเรียนสำหรับบางคนก็น่าเบื่อแต่ครูมีวิธีที่ทำให้เด็กมีความสุขในคำสอนของครูเช่นหนูเลยค่ะ หนูเจออะไรที่เป็นบทความที่น่าเก็บไว้ก็ก็อบมาปริ้นเลยค่ะ และส่งให้เพื่อนๆของหนูด้วย หนูคิดวามันเป็นประโยชน์มากๆเลย เข้าเรื่องเลยนะคะ ที่บ้านของหนูมีอาชีพค้าขาย ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเลยต้องรัดเข็มขัดกันสุดๆ ร้านของพ่อก็โดนไปด้วย ยอดขายตกลง บวกกับกำลังสร้างบ้านพ่อเลยเครียดค่ะ ซึ่งตัวหนูเองก็เป็นเด็กดีของครอบครัว ตั้งใจเรียนและ เป็นลูกที่ดีมาตลอด พ่อเครียดกับเรื่องที่บอกไปข้างต้น แต่พ่อก็เข้าวัดถือศีลค่ะ ไปทำบุญ บวชธุดงค์กับแม่ที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี วึ่งตรงนี้หนูก็ซึมซับจากพ่อแม่มาด้วย ไม่ทราบว่าครูรู้จักหรือเปล่าคะ พ่อรู้คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างดีแต่ทำไมพ่อถึงไม่ปล่อยวางเลยคะ ซึ่งครูปล่อยวางได้ดีกว่าอีก เพราะพ่อเป็นเสาหลักของครอบครัวใช่ไหม เลยเก็บไปเครียดคนเดียว บางครั้งหนูไม่รู้เลยด้วยซ้ำวาพ่อเครียดอะไร แม่ก็บอกให้พ่อปลอยวางบ้าง บางครั้งอารมณ์ก็ขึ้นๆลงๆ แม่บอกว่าที่พ่ออยู่ในช่วงวัยทองเยเป็นแบบนี้ ซึ่งหนูก็เข้าใจค่ะ หนูก็เคยบอกพ่อว่า "พ่อ บางครั้งถ้าเครียดๆไม่รู้จะพูดกับใครก็ลองเขียนใส่สมุดเป็นไดอารี่ดูว่าวันๆนึงพ่อทำหรือเครียดอะไรบ้าง อยากเขียนอะไรเขียนไปเลย มันช่วยให้พ่อหายเครียดได้ครึ่งนึงเลยนะ" ที่หนูแนะนำพ่อไปอย่างนี้เพราะอ่านเจอในนิตยสารเล่มหนึ่งมาค่ะว่าวิธีนี้ช่วยระบายความเครียดได้ แต่ครูใช้วาดรูปใช่ไหมคะพอดีหนูอ่านเจอมาที่ครูตอบคำถามเด็กอ่ะค่ะ
สุดท้ายหนูอยากจะรบกวนอาจารย์ว่าพอจะมีคำสอนหรือข้อคิดดีๆมาช่วยเตือนพ่อซักนิดนึงหน่ะค่ะ หนูจะปริ้นไปให้พ่ออ่านด้วย หนูกลัวว่าถ้าพ่อเครียดมากๆจะทำลายสุขภาพกายและใจของพ่อ หนูยังอยากอยู่กับพ่อนานๆค่ะ
กราบขอบพระคุณคำตอบล่วงหน้านะคะ
สวัสดีค่ะ
|
|
|
|
คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
น่าร๊ากกกกก
Administrator
Hero Member
    
: 
: 4363
เดาซิ...คุณครูอุ้มน้องหมากี่ตัว อิอิ
|
 |
« #11 : January 08, 2009, 01:06:31 PM » |
|
หนูสามารถเขียนที่อยู่ให้คุณครูนะคะ
แล้วคุณครูจะจัดส่งแก่นธรรมไปให้คุณพ่อ
ตัวหนูเองก็อย่างเพิ่งคาดหวังว่าเราจะเปลี่ยนใครได้นะลูก
งูพิษนั้นมีพิษอยู่ในตัว แต่พิษกลับไม่เคยทำลายอสรพิษเลย
ก่อนที่คุณพ่อจะปล่อยวาง หนูควรเริ่มศึกษาธรรมะก่อนนะลูก
ธรรมะไม่ได้มาจากการอ่าน หรือการฟัง
แก่นคำสอนของพระพุทธองค์คือ "ดับทุกข์"
แม้เราจะอยู่ท่ามกลางกระแสแห่งความวุ่นวาย
แม้พายุร้ายที่หมุนสะบัด แต่ใจกลางพายุกลับนิ่งสงบ
เปลี่ยนความฟุ้งทางความคิดให้เป็น"การเห็น"หรือรู้เท่าทันแทน
การเห็นจะทำได้ต้องเริ่มจากนำสิ่งหนึ่งมาจูงจิตให้พลิกความคิดไปเป็น"การรู้สึกตัว"
อธิบายไม่จบในบอร์ดนี้ เพียงกระทำบ่อยๆ เนืองๆจนเป็นลูกโซ่ที่คล้องติดกันอย่างต่อเนื่อง จึงจะเห็น"สภาวะธรรม"
กลั่นเป็นภาษาได้ยาก แต่ง่ายต่อการสัมผัสเมื่อเราลงมือกระทำ
ถ้าชอบท่องมนต์ ถ้าชอบรำลึกถึงพระคุณสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าชอบการเคลื่อนไหว ฯลฯ
ก็สามารถกระทำได้ตามสภาวะที่ชอบของจิต เหมือนหลอกให้ติดในการฝึกสติ แล้วต้องตบเข้าถึงตัวธรรมในภายหลัง
ธรรมะ ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเราขยันเจริญ หรือทำให้มากขึ้นทุกวัน
แม้คิด ก็อย่ากลัวความคิด เพราะนั่นก็คือหนึ่งในสภาวะธรรมของการมีตัวตนที่กอรปขึ้นมาเป็นตัวเรา
ปฏิบัติธรรมไม่ควรหวังผล
และผลที่ได้ก็ไม่ใช่อภินิหารอะไร
ผู้ที่เห็น"ธรรม" จึงขึ้นชื่อว่า "เห็นพระพุทธองค์"
แสดงว่า พระพุทธองค์ทรงปรากฏอยุ่ในเราทุกคนที่พร้อมจะ"เห็น" แต่ไม่ใช่พร้อมจะ"เป็น"
ทุกรอยเท้าจึงจบลงที่รอยเท้าช้าง สัตว์ที่ใหญ่ที่สุด
ธรรมะทั้งผองจึงจบลงที่การมี"สติ"
เมื่อ"สติ"เฉีบยบคมมากก็จะกลายเป็น"มหาสติ" อันนำไปสู่การลดทุกข์
จนในที่สุดทุกข์ก็ไม่สามารถเข้ามายึดครองเนื้อนาบุญของเราได้
เพราะเรามียามคือ"สติ"ขวางทางไว้อย่างแน่นหนาและมี"ปัญญา"คอยไล่ล่าดักกันให้พ้นไปอีกหนึ่งด่าน
คุณครูขอขอบคุณที่หนูได้ทิ้งข้อความที่กระตุ้นให้คุณครูได้นำส่วนหนึ่งของมวลประสบการณ์มาถ่ายทอดให้หนูได้ฟัง
ส่งที่อยู่มานะคะ
เราจะได้ช่วยให้สังคมนี้เป็นสังคมที่น่าอยู่
เริ่มต้นง่ายๆที่"บ้าน"ของเรา
ยินดีช่วยเหลือค่ะ
|
อย่าลืมเทียมเกวียนเยี่ยงควาย อ่านซ้ำๆ ทวนซ้ำๆ นะคะ คุณครูสมศรีและพี่ๆเสื้อส้ม เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆค่ะ!!!!!
|
|
|
NaxKunGz
Newbie

: 3
|
 |
« #12 : January 10, 2009, 09:17:05 PM » |
|
ขอบคุณมากเลยครับ
ที่หั้ยวิธีการอ่าน
ถึงแม้ผมจะรู้ช้าไปหน่อย
แต่ผมคิดว่าคงไม่น่าจะสายเกินไปนะครับ
เพราะ กุมภาฯ นี้ ผมต้องสอบ
O-Net และ A-Net ละครับ
|
|
|
|
ไปเจอมา
|
 |
« #13 : January 12, 2009, 12:05:30 PM » |
|
27 ตุลาคม บทความดี ของครูสมศรี ก่อนที่เราจะหยิบหนังสือ ถ้าเราคิดว่า เราไม่พร้อม ยังไม่ทันอ่านเลย สมองก็ปฏิเสธ เนื้อหาในหนังสือแล้ว พออ่านได้สักหน่อย ก็เกิดวิญญาณดำเข้ามาสิงในความคิดพร้อมสั่งการว่าา " อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง พอดีกว่า " ว่าแล้วก็หยิบการ์ตูนขึ้นมาอ่าน ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เด็กกลุ่มดังกล่าว เรียนหนังสือด้วย " หน้าที่ " มิใช่ด้วย " ฉันทะ " เรียนตามหน้าที่ คือสักแต่ให้ได้เรียน ให้ได้จดตามอาจารย์ พอจบชั่วโมง ก็ไม่เคยคิดที่จะหยิบขึ้นมาทวน ใกล้สอบก็ค่อยอ่าน เพราะพวกเรียนตาม " หน้าที่ " ต้องการจะเรียนเพื่อสอบให้ผ่าน หรือได้คะแนนดี หารู้ไม่ว่า " คะแนน " คือมายาตัวหนึ่ง ซึ่งบางครั้งหลอกให้เราขยัน หลอกให้เราหายุทธวิธี แผนการที่ไม่บริสุทธิ์ หรือแม้แต่พยายามลอกข้อสอบ เพียงเพื่อ " คะแนน " ฉะนั้นเด็กกลุ่มนี้จะไม่ขยันเลย ถ้าไม่มี " คะแนน " หรือ " การสอบ " มาล่อให้อ่านหนังสือ ผิดกับพวกที่ เรียนด้วย "ฉันทะ" หรือ "ความรัก" รักในบิดา มารดา รักในชีวิต รักที่จะสร้างพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อไปในอนาคต นักเรียนกลุ่มนี้รักการอ่าน เพราะ ถ้าเขาอ่าน เขารู้ว่าเขาจะได้ความรู้ และ คะแนนคือตัวประเมินสิ่งที่อ่าน และจดจำมา ในการอ่าน แม้นเด็กเหล่านี้จะได้คะแนนไม่ดี แต่สิ่งที่จะติดตัวพวกเขาไปคือ " ความเพียรพยายาม การรู้จักประเมินตน แก้ไข และปรับปรุง " แม้นไม่เป็นเลิศทางวิชาการ แต่หาลดละความพยายามไม่ เด็กกลุ่มนี้อาจถูกกลุ่มแรกสบประมาทว่า " ควาย " " เรียนหนังสืออย่างบั่กอึ้ด " สู้พวกเขาไม่ได้ ใกล้สอบอ่านยังทันเลย หารู้ไม่ว่าเป็นการหล่อหลอมพฤติกรรม " ขายผ้าเอาหน้ารอด " ไว้กับตัว สังคมจะเป็นอย่างไร ถ้ามีเยาวชนมากๆ ลุกขึ้นมาศึกษาหาความรู้ เพราะความใฝ่รู้ อยากตอบคำถามทางวิชาการที่ปลุกเร้ากระบวนการในการให้ได้มาซึ่งคำตอบ คำตอบที่ถูกหรือผิดอาจไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ที่สำคัญ การบ่มเพาะนิสัย ผู้ชนะแห่งจิตใจของตน หรือสังคมจะเป็นเช่นไร ถ้าเยาวชนส่วนใหญ่ต่างหาความรู้ เพียงเพื่อการสอบ เมื่อเทศกาลเหล่านี้หมดไป ก็ใช้ชีวิตอย่างประมาท อุปมาดั่งคำภาษิต "ฝนทั่งให้เป็นเข็ม" บางคนหัวเราะ แล้วบอกว่า ทั่งไม่มีทางเป็นเข็มได้หรอก แต่ภาษิตนี้ อาจใช้ย้อมใจ คนที่ไม่ใช่เป็น "ไอ้ขี้แพ้" เพื่อเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจว่า " ทั่งยังกลายเป็นเข็มได้ด้วยความเพียร แล้วนับภาษาอะไรกับการเรียนที่ดูจะง่าย และเป็นไปได้มากกว่า มันก็ต้องสำเร็จได้ด้วยความเพียรด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะความเพียรที่ประกอบด้วยปัญญา " ศิลปะของการก้าวไปสู่ความสำเร็จที่สำคัญก็คือ การฝืน หยุด หรือเลื่อนกิจกรรมที่ไม่สำคัญ ในตอนนี้ และ เพียรอย่างไม่ลดละความพยายามเพื่อความสำเร็จ หรือแปลง่ายๆว่า "การทำให้เสร็จ" ในแต่ละวัน อย่าเป็น " ไอ้ขี้แพ้ " ที่ตั้งใจจะอ่านหนังสือ แต่เพราะ ขาดความเพียร จึงยอมตกเป็นทาสของ "ความสนุก" โดยไม่ได้คำนึงถึง "ปัจจัยทางเวลา" ที่ส่งผลกระทบต่อเราแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
ลุกขึ้นต่อสู้สู่ฝัน อดทนเพียรทำเพื่อความสำเร็จเถิดคะเด็กๆ คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ (เขียนเมื่อ 14 กรกฏาคม 2543) 17:57 | ดูการติดตามข้อมูล (0) | จัดทำบล็อก
27 ตุลาคม บทความดี ของครูสมศรี ก่อนที่เราจะหยิบหนังสือ ถ้าเราคิดว่า เราไม่พร้อม ยังไม่ทันอ่านเลย สมองก็ปฏิเสธ เนื้อหาในหนังสือแล้ว พออ่านได้สักหน่อย ก็เกิดวิญญาณดำเข้ามาสิงในความคิดพร้อมสั่งการว่าา " อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง พอดีกว่า " ว่าแล้วก็หยิบการ์ตูนขึ้นมาอ่าน ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เด็กกลุ่มดังกล่าว เรียนหนังสือด้วย " หน้าที่ " มิใช่ด้วย " ฉันทะ " เรียนตามหน้าที่ คือสักแต่ให้ได้เรียน ให้ได้จดตามอาจารย์ พอจบชั่วโมง ก็ไม่เคยคิดที่จะหยิบขึ้นมาทวน ใกล้สอบก็ค่อยอ่าน เพราะพวกเรียนตาม " หน้าที่ " ต้องการจะเรียนเพื่อสอบให้ผ่าน หรือได้คะแนนดี หารู้ไม่ว่า " คะแนน " คือมายาตัวหนึ่ง ซึ่งบางครั้งหลอกให้เราขยัน หลอกให้เราหายุทธวิธี แผนการที่ไม่บริสุทธิ์ หรือแม้แต่พยายามลอกข้อสอบ เพียงเพื่อ " คะแนน " ฉะนั้นเด็กกลุ่มนี้จะไม่ขยันเลย ถ้าไม่มี " คะแนน " หรือ " การสอบ " มาล่อให้อ่านหนังสือ ผิดกับพวกที่ เรียนด้วย "ฉันทะ" หรือ "ความรัก" รักในบิดา มารดา รักในชีวิต รักที่จะสร้างพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อไปในอนาคต นักเรียนกลุ่มนี้รักการอ่าน เพราะ ถ้าเขาอ่าน เขารู้ว่าเขาจะได้ความรู้ และ คะแนนคือตัวประเมินสิ่งที่อ่าน และจดจำมา ในการอ่าน แม้นเด็กเหล่านี้จะได้คะแนนไม่ดี แต่สิ่งที่จะติดตัวพวกเขาไปคือ " ความเพียรพยายาม การรู้จักประเมินตน แก้ไข และปรับปรุง " แม้นไม่เป็นเลิศทางวิชาการ แต่หาลดละความพยายามไม่ เด็กกลุ่มนี้อาจถูกกลุ่มแรกสบประมาทว่า " ควาย " " เรียนหนังสืออย่างบั่กอึ้ด " สู้พวกเขาไม่ได้ ใกล้สอบอ่านยังทันเลย หารู้ไม่ว่าเป็นการหล่อหลอมพฤติกรรม " ขายผ้าเอาหน้ารอด " ไว้กับตัว สังคมจะเป็นอย่างไร ถ้ามีเยาวชนมากๆ ลุกขึ้นมาศึกษาหาความรู้ เพราะความใฝ่รู้ อยากตอบคำถามทางวิชาการที่ปลุกเร้ากระบวนการในการให้ได้มาซึ่งคำตอบ คำตอบที่ถูกหรือผิดอาจไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ที่สำคัญ การบ่มเพาะนิสัย ผู้ชนะแห่งจิตใจของตน หรือสังคมจะเป็นเช่นไร ถ้าเยาวชนส่วนใหญ่ต่างหาความรู้ เพียงเพื่อการสอบ เมื่อเทศกาลเหล่านี้หมดไป ก็ใช้ชีวิตอย่างประมาท อุปมาดั่งคำภาษิต "ฝนทั่งให้เป็นเข็ม" บางคนหัวเราะ แล้วบอกว่า ทั่งไม่มีทางเป็นเข็มได้หรอก แต่ภาษิตนี้ อาจใช้ย้อมใจ คนที่ไม่ใช่เป็น "ไอ้ขี้แพ้" เพื่อเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจว่า " ทั่งยังกลายเป็นเข็มได้ด้วยความเพียร แล้วนับภาษาอะไรกับการเรียนที่ดูจะง่าย และเป็นไปได้มากกว่า มันก็ต้องสำเร็จได้ด้วยความเพียรด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะความเพียรที่ประกอบด้วยปัญญา " ศิลปะของการก้าวไปสู่ความสำเร็จที่สำคัญก็คือ การฝืน หยุด หรือเลื่อนกิจกรรมที่ไม่สำคัญ ในตอนนี้ และ เพียรอย่างไม่ลดละความพยายามเพื่อความสำเร็จ หรือแปลง่ายๆว่า "การทำให้เสร็จ" ในแต่ละวัน อย่าเป็น " ไอ้ขี้แพ้ " ที่ตั้งใจจะอ่านหนังสือ แต่เพราะ ขาดความเพียร จึงยอมตกเป็นทาสของ "ความสนุก" โดยไม่ได้คำนึงถึง "ปัจจัยทางเวลา" ที่ส่งผลกระทบต่อเราแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
ลุกขึ้นต่อสู้สู่ฝัน อดทนเพียรทำเพื่อความสำเร็จเถิดคะเด็กๆ คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ (เขียนเมื่อ 14 กรกฏาคม 2543) 17:57 | ดูการติดตามข้อมูล (0) | จัดทำบล็อก
|
|
|
|
o.Obookka
อะจ๊าย!!
Newbie

: 
: 15
^^
|
 |
« #14 : January 16, 2009, 10:57:46 PM » |
|
สู้ตายเลยเนี่ย!! รั๊กครู 
|
ยิ้ม ^^
|
|
|
|