กับคำถามที่ว่าหนูอ่านหนังสือมากมาย หรือสองรอบ
ทำไมได้คะแนนน้อยกว่าคนที่อ่านยังไม่จบรอบด้วยซ้ำ
คงเป็นคำถามใกล้เคียงกับทอดไข่เจียวอย่างไรให้อร่อย
เพราะดูแล้วการทอดไข่เจียวก็ง่ายๆแต่ทำไมออกมาไม่เหมือนกัน
ความร้อน การตีไข่ การใส่น้ำ การเทไข่ลงกระทะ
ก็เหมือนอ่านหนังสือ
สำหรับคุณครูหลังที่ได้เข้ามาเรียนคณะอักษรฯและมีโอกาสฝึกสมาธิ
การอ่านเพียง 40 นาทีของคุณครูอาจเท่ากับสองชั่วโมงของคนอื่น
แต่ตอนอยู่เตรียมฯ 2 ชั่วโมงของตัวเองเท่ากับคนอื่นครึ่งชั่วโมง
ความเข้าใจและการจดจำไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนรอบที่อ่าน หรือ ปริมาณที่อ่านต่อครั้ง
แต่อยู่ที่ฐานความเข้าใจเดิม การปิดหนังสือพูดท่องจำในสิ่งที่เราคิดว่าเราจำได้ recitationในภาษาอังกฤษน่ะค่ะ
หรือแม้แต่ทำแบบฝึกหัดหลังอ่าน
ทานข้าวแล้วรีบเร่งท้องมวนฉันใด
ก็เหมือนการอ่านเเบบยัดเยียดในเวลาสั้นๆ
ทานข้าวแล้วไม่เคี้ยวละเอียด ไม่ดื่มน้ำตามฉันใด
ก็เหมือนอ่านหนังสือแบบรนๆและไม่ทำแบบฝึกหัดหลังการอ่านจบฉันนั้น
ลองอ่านใหม่นะคะ อ่านแบบให้จบล่วงหน้า และมีเวลาทบทวน
ปิดหนังสือไปพูดไปพราง จะได้ทราบว่าตกหล่นตรงไหน
อ่านไปทำตัวเป็นคนออกข้อสอบไปจะได้อ่านอย่างมีจุดหมายว่าอะไรน่าจดจำอะไรควรอ่านผ่านตา
ถือว่าพระทดลองจิตใจแล้วกัน ถ้าท้อก็เป็นได้แค่"ไอ้ขี้แพ้"
เคยได้ยินไอสไตล์พูดไหมว่า"ขึ้นที่สูงก็ต้องใช้เกียร์ต่ำ"
อดทนต่อไปนะคะ
จะได้รู้คุณค่าของคำว่า"อดทน"
อย่าเพิงท้อใจนะคะ
ยังไงคุณครูก็ขอรับรองว่าหลายคนที่ประสบความสำเร็จก็ผ่านขั้นตอนเหมือนหนูนี่แหล่ะ
สู้สู้ต่อไปนะคะ
สู้ต่อไปอย่าท้อ ถ้าท้อก็เหมือน *ไอ้ขี้แพ้* เหมือนที่ครูว่านั้นแหละ