ครูครับ ผมมีเพื่อนสนิทอยู่คนนึง ขอใช้นามสมมติว่า "เอ" นะครับ เพื่อนผมคนนี้กำลังคบกับคนๆนึงอยุ่ครับ คือว่า "เอ" เป็นคนที่รักง่ายมากๆ คุยกันไม่เท่าไรก็ตกลงเป็นแฟนแล้ว แต่แล้วความสัมพันธ์ระหว่างคู่นี้มันเกินเลยมากไป คือ พ่อแม่ "เอ" เค้าไม่ทราบครับ ว่า "เิอ" มีแฟนแล้วก้มีความสัมพันธ์กันขนาดไหน รู้แต่ว่า "เอ" ทำตัวแปลกไป หาเรื่องออกจากบ้านบ่อยขึ้น แล้วพ่อแม่เค้าก็จะโทษพวกเพื่อนๆ อย่างพวกผม หาว่าพาลูกเค้าเสีย พวกผมพยายามบอกพ่อแม่เค้า ถึงการกระทำของ "เอ" แต่ด้วยความที่เมื้อ "เอ" อยู่บ้าน เอจะปฏิบัติตัวดีทุกอย่าง แต่พอ "เอ" อยู่กับแฟน จะเป็นอีกคนไปเลย คือมองข้ามความรู้สึกเพื่อน คำเตือนของเพื่อนคือดำด่าที่น่ารำคาญ ผมอยากให้ "เอ" เรียนก่อน และกลับมาเปนเพื่อนที่ดีอย่างเดิม อยากให้เค้าคิดถึงอนาคตของตัวเค้าเองก่อนอ่ะครับ เพื่อนหลายๆคน พยายามเตือนเค้า แต่แล้วก็ไร้ผล ผมคิดถึงคุณครูเลยมาขอคำปรึกษา รบกวนคุณครูช่วยให้คำปรึกษาด้วยครับ ผมรู้สึกไม่ดีที่เห็นเพื่อนเป็นแบบนี้ กราบขอบคุณคุณครูล่วงหน้าครับ
โชคดีของ "เอ" ที่มีเพื่อนเเบบหนู
แต่คุณครูไม่ทราบว่าเอเป็นเพื่อนหญิงหรือเพื่อนชายของหนู
คุณครุขอตอบกลางๆก็แล้วกันนะครับ
1.ช่วยดูกันว่าเเฟนของเอเป็นเด็กที่มีความรับผิดชอบหรือไม่หรือคบเพราะเห็นแก่ตัว รักความสนุก ไม่แคร์การเรียน
2.การคบกันของเขาถลำกันไปขนาดนี้ มีผู้ใหญ่คนไหนที่พอจะเตือนสติเขาได้บ้าง
การแก้ปัญหา
ค่อยๆคุยกับเอ แต่ไม่ใช่ให้เลิก เพราะมาถึงขนาดนี้คงจะถอนตัวทันทีไม่ได้
ชี้นำให้เอเห็นว่าความรักในวัยเรียนจะทำให้เราขาดสมาธิ
ทั้งคู่รักกันได้แต่ต้องทำหน้าที่หลักให้สำเร็จก่อน
เพราะชีวิตคู่จะอยู่กันได้ต้องมี "อาชีพ" ที่เขารักและถนัด
ขอเอให้หันมาขยันเรียน
พยายามพบกันน้อยลง และเรียนหนังสือให้มากขึ้น
แม้แต่ถ้ามีกิจกรรมอื่นๆ เช่นกีฬา ดนตรี ที่จะเบนความสนใจให้เอออกจากคนๆนั้น
แต่ถ้าเอไม่ให้ความร่วมมือ
หนูคงต้องเรียนแทนเขา เรียนอะไรมาก็ให้เขายืมถ่ายเอกสาร
อ่านไม่อ่านก็ไม่ทราบ แต่อย่างน้อยก็จะได้กระตุกสติให้เขาเห็ว่าเพื่อนไปข้างหน้าขนาดไหนแล้ว
ความรักในวัยนี้เกิดจากอารมณ์ รักได้ก็หน่ายได้
แต่ก่อนแหนงหน่ายกัน อาจช้าเกินที่จะไขว่คว้าความสำเร็จ
ความรักเหมือนโคถึก บางทีก็ไม่ยินไม่ยลต่อสิ่งใดๆ
เวลาช่วยเอ ก็ทำใจยอมรับความจริงว่าทุกอย่างอาจจะดีหรือไม่ดีขึ้นก็ได้นะครับ
แต่แค่ได้ช่วยเพื่อนก็เป็นการบ่มเพาะความงอกงามของจิตใจ จิตที่เสียสละ
จงใช้ความปรารถนาดีของเรามาเพิ่มมูลค่าในตัวเราด้วยการขยันเรียนมากๆ
เพื่อวันหนึ่งเราอาจจะประสบความสำเร็จในชีวิต
และถึงวันนั้นหนูอาจจะเป็นขอนไม้ขอนสุดท้าย "เอ" ว่ายเข้ามาไขว่คว้าเกาะพักเหนื่อยเพื่อจะได้ว่ายเข้าฝั่งต่อไป
คุณครูขอกราบขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่หนูนะลูกที่บ่มเพาะให้หนูเป็นเด็กมีน้ำใจ
เอมีบุญมากที่มีกัลยาณมิตรอย่างหนู
อย่าลืมนะคะ
ไม่ใช่ห้ามไม่ให้รัก แต่สนับสนุนให้เอทำหน้าที่หลักให้สมบูรณ์
คุณครูเอาใจช่วยนะครับ
โชคดีครับ
จงเชื่อมั่นในผลของการทำความดีนะครับ
จุ๊บๆ 