Kru Somsri's English School

July 05, 2025, 06:17:05 AM

:    
191147 46430 16598
: LouisFug
*
+  Kru Somsri's English School
|-+  ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี
| |-+  คุยกับคุณครูสมศรี
| | |-+  ผม คือ คน ที่ โชคร้าย....มากเลยหรือ
: [1]
: ผม คือ คน ที่ โชคร้าย....มากเลยหรือ  ( 5315 )
flyff
Newbie
*
: 1


« : March 13, 2010, 08:25:35 PM »

สวัสดีครับครู สม ศรี
ผม ได้เริ้มเข้ามาอ่านบอร์ดของครูเมื่อไม่นานามานี้ครับ

ตอนนี้ปีนี้ ผมกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.4ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในกทม. นำหน้าว่า สาธิต๐ อยู่ๆ แถวๆหัวหมาก ปีนี้ขึ้นม.5 ครับ

ครูครับผมขอเล่าว่า....

ตอนนั้น ป.6 ผม กำลัง จะสอบเข้าที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งโรงเรียนแห่งนั้น ก็คือ โรงเรียนที่ผมกำลังศึกษาอยู่ในขณะนี้
โรงเรียนได้เปิดสอบเข้าเร็วมาก ผมก็ไม่ทราบหรอกครับ่วามันดียังไง แต่พอบอกว่าให้ลองไปสอบดู โดยที่ผมไม่ได้ตั้งใจว่าจะติด แต่ผมก็ได้อ่านหนังสือไปสอบนะครับ(อ่านเยอะมากด้วย)
สุดท้ายผลออกมาว่าผม สอบติดที่นี่ แม่-พ่อ-ผมดีใจมากครับ

แต่ความจริงแล้ว ผมไม่ได้อยากเข้าหรอกครับโรงเรียนนี้ ผมอยากเข้าห้องเรียนพิเศษ ของโรงเรียนอีกแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนชายล้วน อยู่ตรงใกล้ๆหัวลำโพง หน้าโรงเรียนมีคลองผ่าน     แต่ผมก้ได้อ่านหนังสือไป สอบนะครับ ปรากฏว่า ผมสอบห้องเรียนพิเศษไม่ติดครับ--* ตอนนั้นผมรู้สึกแย่มากๆเลยครับ แต่ว่าพี่ผมเคยเป็นศิษย์เก่าอยู่ที่นั้น สนิทกับอาจารย์ที่นั่นมากๆเลย พี่เขาบอกว่า น้องอยากเข้าหรือเปล่าถ้าอยากเข้า อาจารย์นช่วยได้ พอกลับมาที่บ้าน ผมก็มานั่งคุยกับแม่ พ่อ ว่า ถ้าเข้าไปแล้วผมจะทำตัวยังไง เข้าไปโดยไม่ใช้ความสามารถของตัวเอง จะถูกคนอื่นมองว่าเป็นแกะดำหรือเปล่า เรียนแล้วจะมีความสุขหรือเปล่า สุดท้ายแล้วผมก็ไม่ได้เลือกจะเข้าห้องพิเศษ แต่ต่อมาก็มีสอบห้องปกติ ผมก็ได้ไปสอบอีกครั้งหนึ่ง สุดท้าย ผมสอบติดของห้องเรียนปกติที่นั่นครับ แต่แล้วด้วยเหตุหลายๆอย่างรวมถึงความผิดหวังของผมที่ไม่ได้ห้องเรียนพิเศษ ผมจึงตัดสิยใจ ไม่เข้าที่นั่น จึงเลือกมาเข้าเรียนม.1ณ. ที่โรงเรียนแห่งนี้แทน

โรงเรียนที่นี่แต่ก่อน เปนโรงเรียนที่ดีๆๆๆๆๆๆๆมากๆๆๆๆๆเลยที่เดียวครับในอดีต พ่อเคยบอกว่า พี่ผมที่เป็นแพทย์เคยมาสอบ หรือ พี่สาวลูกพี่ลูกน้อง ก็เคยมาสอบแต่ว่าสอบไม่ติด แสดงว่าโรงเรียนนี้เข้ายาก คงเก่งแน่ๆ แต่ผมก็งงครับว่าทำไมผมถึงสอบติด !
ดูเหมือนว่าอะไรหลายๆอย่าง จะลงตัวครับ
แต่กลับว่ามันไม่ใช่เลย สิ่งที่ผมคาดหวังว่าจะเข้ามาเจอสิ่งที่ดีๆมาคลาดเคลื่อนไปหมดซะทุกอย่าง
 เริ่มแรกเลยนะครับ ผมบอกก่อนเลยว่า การเรียนพิเศษของผม ผมเพิ่งจะมาเริ่มเรียนจริงๆ ตอน ม.3 ต้นปี เพื่อเตรียม สอบเข้าโรงเรียนเตรียม  ดังนั้น ม.1 ม.2 ผมยังไม่รู้ภาษามากเท่าใดนัก ทำให้ไม่ค่อยเรียนเก่งมาก แต่ผมก็ขยันอ่านหนังสือนะครับ หมั่นทำการบ้านบ่อยๆ  แม้ว่าโรงเรียนผม จะไม่เน้นนักเรียนด้านวิชาการเลย อะไรๆที่โรงเรียนอื่นเขาสอนกัน โรงเรียนผมไม่สอนหรอกครับ ผมได้ไปดูการบ้านของเพื่อนๆต่างโรงเรียนผมเห็นเเล้วแทบอยากจะร้องไห้ว่า นี่หรืออะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อนเลย โรงเรียนเรามัวแต่ให้ทำกิจกรรม มากมาย ตอนสอนก็ไม่เข้าใจ(อันนี้เพื่อนๆทุกคนในระดับชั้นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันนะครับ ผมไม่ใฝช่ไม่ตั้งใจเรียนนะครับครู) แต่ผมก็บอกกับตัวเองว่า "ไม่เป็นไรๆ โรงเรียนไม่ให้ ก็น่าจะหาเองได้นะ" ตอนนั้น ก้พยายามไปซื้อหนังสือมาอ่านเอง แต่อย่างว่าอะครับ ผมไม่ใช่ครู ไม่ใช่เด็กอัจฉริยะ จะอ่านเองรู้เรื่องได้อย่างไร  สุดท้ายแล้วผมก้รู้เรื่องมากขึ้นจากการมาเรียนพิเศษ
 ต่อมาก่อนการสอบเข้า รร.เตรียม ม.3 ผมก้รู้เรื่องอย่างมากในทุกๆวิชาจากการเรียนพิเศษเอาเอง ทำให้มั่นใจมากขึ้น แต่ตอนนั้นผมยังไม่รู้จัก ครูสมศรีซึ่งสอนอังกฤษหรอกครับ(มันคงเปนความโชคร้าย ที่ผมไม่ได้เรียนกับครู ทำให้ไม่รู้เรื่องเลย ถ้าผมได้เรียนครูตอนนั้น ชีวิตผมอาจจะเปลี่ยนไป อาจสอบติดที่เตรียม ไม่เหมือนตอนี้ก้ได้) ก่อนสอบผมก็ได้อ่านหนังสือหนัก เหมือนกับเพื่อนๆทุกคนที่เขาพยามยยามกัน แต่ทว่า ผมก็สอบเตรียมไม่ได้ แต่ลำดับที่ผมอยู่เกือบแล้ว ในสายวิทย์ที่เข้า จะรับ 1ใน 800 พ่อถามผมว่า จะเข้ามั้ย ผมก้บอกพ่อไปว่า "พ่อ มีเงินหร่อ" ตอนนั้นในใจผมอยากตะโกนบอกพ่อออกมาดังว่า " (พ่อ ผมขอโทษนะ ผมทำเต็มที่มากๆแล้ว แต่ก็สอบเข้า ที่เตรียมไม่ได้ ผมขอโทษ ที่ผมเอาเงินพ่อมาใช้กับการเรียนไปมากๆ แต่สุดท้าย ไม่มีอะไรได้กลับมา" พ่อไม่ค่อยมีเงินมากพอ พ่อถามว่า อยากเข้า เด๋วพ่อเอา...ช่วยให้มั้ย ผมบอกว่าไม่ต้องหรอก พอเถอะ พ่อไม่ได้มีเงินมากขนาดนั้น ยังมีพี่ กับน้องที่ต้องเรียนอีก สุดท้ายผมก็ไม่ได้เข้าไปเรียนที่ชื่อว่า เตรียมอุดม
ครูครับ ผมอยากถามครูว่า ตอนนี้ผมเริ่มกับครูได้ 2 คอร์สแล้ว
ผมได้เริ่มนับหนึ่งใหม่ ซึ่งการนับครั้งนี้ผมต้องการสอบเข้าแพทย์ ตอนนั้นผมคิดว่า ถ้าผมสอบเข้าเตรียมได้ ผมคงสามารถ มีโอกาส ที่ดีว่านี้ ที่สามารถสอบติดได้มากกว่า ผมจึงลองย้อนคิดไปว่า ถ้าตั้งแต่ป.6 ผมสอบเข้าห้องเรียนพิเศษ นั่นได้ ผมคงอาจติดเตรียม เพราะว่าโรงเรียนที่ผมอยู๋ตอนนี้ มันไม่ไหวแล้วจริงๆ ผมไม่รู้ว่าผมเป็นคนอกตัญญูหรือเปล่านะครับ บางวิชา อย่างเช่น ตอนเช้า เคมี ผมเข้าไปนั่งเรียน เหมือนผมไม่ได้อะไรจากมัน ผมได้ปิดกั้นนะครับครู ผมตั้งใจเรียน แต่ว่ารู้สึกมองนาฬิกาตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่จะหมดคาบ...บางครังผมหยุดอยู่บ้านเพื่ออ่านหนังสือเองก็มีครับครู
ผมคิดว่าต่อจากนี้ โรงเรียนนี้ที่ผมเรียนอยู่ ผมรู้อย่างเดียว สิ่งที่ผมได้จากที่แห่งนี้ คือ มิตรภาพจากเพื่อนที่ดี แล้วกับอาจารย์บางท่านเท่านั้น วิชาการ ความรู้โรงเรียนผมแทบไม่ได้ให้อะไรมาเลย ผมไม่รูว่าความฝันของที่จะสอบเข้าแพทย์นั้น ยังพอมีเลยอยู่หรือเปล่า ตอนนี้ผมก็กำลังขึ้น ม.5 แล้ว อีกเวลาแค่2ปีผมจะสามารถทำมันได้มั้ย ตอนนั้น ผมเรียน คอร์ส Grammar แล้วมีพี่คนนึงมาพูดชื่อว่า พี่.. จำไม่ได้อะครับ ที่เค้าเรียนอยู่ มหิดลวิทย์ แล้วได้ทุนนักวิจัยอ่าครับ >>> คือผมรู้สึกท้อมากๆๆอิจฉาพี่เค้าด้วยว่า เนี่ยโรงเรียนพี่เค้ามีสิ่งแวดบล้อมที่ดีมากๆๆโรงเรียน ได้จัดการนักเรียนหลายๆเรื่องมากๆ ทั้งความรู้ต่างๆ การบีบบังคับ ให้อ่านหนังสือ ผมชอบมากๆเลยครับ แต่พอเปรียบเทียบกับโรงเรียนผม ไม่มีอะไรเลยครับ มีแต่สอนพวกกิจกรรม ออกค่าย ต่าง พวกการใช้ชวิตมากกว่า ผมคิดว่า ตรงจุดนั้น ผมได้รับมันมากเกินพอจากครอบครัวของผมอยู่แล้วอะครับ

ครูครับ บางครั้งผมรู้สึกท้อ ผมอยากมีพลังในการที่จะมุ่งมั่น
บางครั้ง เหนื่อยมากกับ ต้องตื่นแต่เช้า เพื่อนั้ง รถเมล์ 2 ต่อไปเรียน

บางครั้งรู้สึกว่า ถ้าผมทุ่มเทไปครัง้นี้ ผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร
รุสึกไม่ชอบใจเอาเสียเลยเวลา เรียนที่นี่ ผมคิดว่าผมคงเปนคนเลวมาก เปนเด็กอกตัญญูต่อโรงเรียน แต่นี่ความจริงที่ผมได้รับนะครับ ผมขอโทดทุกอย่าง ที่คิดไม่ดีต่อโรงเรียนนี้ ผมจะต้องอดทนอีกเพียง 2 ปี ผมก้จะหลุดพ้นกับโรงเรียนนี้แล้ว อีก 2 ปีเท่านั้น

ผมไม่รู้ว่าความรูสึกผมต่อจากนี้ไปจะต้องทำอย่างไรดี

บางทีเริ่มขี้เกียจที่จะไปเรียนที่โรงเรียน เริ่มเบื่อหน่ายในการอ่านหนังสือแล้ว

ผมอยากสอบแพทย์ อยากให้พ่อ-แม่ มีความสุข ขอแค่สักครั้งที่ผมจะได้ทำในสิ่งที่ผมตั้งใจ แม้ว่า ความหวังครั้งนี้ หลายคนอาจมองว่า มันห่างไกลเหลือเกินครับ




ปล.ขอบคุณ นะครับครู ที่ช่วยรับฟังปัญหาของผม
อย่างน้อยเวลาผมเหนื่อยๆ ไปเรียนกับครู ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่รอบสด มันก็ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาบ้างครับ
 
Opalise
"ผู้พิทักษ์แห่งสาขาขอนแก่น"
Sr. Member
****
:
: 372


MED KKU '38


« #1 : March 13, 2010, 09:57:42 PM »

เอ่อ ... พี่ขอแนะนำนะครับ คือพี่ก็เรียนที่สาธิตเหมือนกัน แต่ที่ มข อ่าครับ ตอนนี้พี่พึ่งจบ ม.6 ต่อคณะแพทย์ มข คับ

ก่อนอื่น พี่ก็เข้าใจในสิ่งที่น้องรู้สึกนะ พี่ก็เป็นบ้างบางครั้งที่เรียนที่โรงเรียน
กิจกรรมที่เยอะ เวลาเรียนไม่ค่อยเต็มที่ เนื้อหาไม่แม่น บลาๆๆ
แต่น้องอย่าคิดว่าน้องเป็นคนอกตัญญูต่อโรงเรียนเลย น้องไม่ใช่หรอก เพราะอย่างน้อยๆ บางวิชาน้องก็ยังชอบ น้องยังมีเพื่อน น้องยังเคยทำประโยชน์ให้โรงเรียน

พี่มาเรียนเหมือนพี่ไม่ได้อะไรใหม่ๆเท่าไหร่ในบางวิชา จนบางครั้งพี่รู้สึกพี่มาโรงเรียนเพื่อมาเล่นกับเพื่อน ประมาณนั้น
ในส่วนนี้พี่เชื่อว่า ต้องมีในบางวิชาแหละ ที่น้องจะได้ประโยชน์จากคาบเรียนที่โรงเรียน
ก็ขอให้น้องกอบโกยให้ได้มากที่สุดในคาบที่น้องชอบ วิชาที่น้องคิดว่าเป็นประโยชน์
แต่สำหรับในวิชาที่น้องไม่ชอบ พี่ว่าน้องก็เข้าๆเรียนไปนั่นแหละครับ จะอ่านหนังสืออื่นหรือจะทำอะไรก็ได้
(เหมือนพี่เรียนเคมีที่โรงเรียน พี่ก็ไม่ได้ความรู้ใหม่อะไรมาก แต่พี่ก็ชอบหาแบบฝึกหัดมาทำในชั่วโมง ประมาณนั้นอ่า)

ตอนนี้น้องกำลังขึ้น ม.5 พี่ว่าน้องมีเวลาเตรียมตัวเหลือเฟือเลยแหละครับ
(ไปใช้ชีวิตที่โรงเรียนได้ปกติ อย่าพึ่งหยุดเรียนอ่านหนังสือนะ ไว้ค่อยทำตอนม.6 ถ้ายังอยากทำ)
พี่ก็เป็นคนนึงที่อยากเป็นหมอ (พี่รู้ตัวช้ากว่าน้องอีก พี่พึ่งมาเข้าค่ายหมอตอน ม.5) พี่พึ่งเริ่มเตรียมตัวจริงๆตอนจะขึ้น ม.6 ด้วยนะ
น้องค่อยๆทะยอยอ่านไปเรื่อยๆดีกว่า สบายๆ ทบทวนบ้าง อะไรบ้าง ไม่ต้องเครียด (น้องได้อันดับเกือบติดเตรียมแล้ว พี่ว่าน้องก็คงไม่เบาแหละคับ)

พี่มีเพื่อนคนนึง ก็สอบไม่ติดเตรียมเหมือนกัน ก็อยู่ที่โรงเรียนเดียวกับพี่ เค้าก็สอบติดแพทย์นะครับ บางครั้งเพื่อนพี่ก็รู้สึกแบบน้องแหละ
แต่เค้าก็เก็บมาไว้เป็นแรงผลักดันว่า ต้องอ่านหนังสือสิ ต้องขยันสิ ไม่งั้นก็จะไม่ประสบความสำเร็จ (ไม่งั้นก็จะไม่ได้ไปจาก รร. ซะที ไรประมาณนี้)
ขอให้น้องเชื่อมันว่าน้องจะทำมันได้ก็แค่นั้น อย่ากังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นนะ พี่เอาใจช่วย ^^

สำหรับเรื่องนั่งรถเมล์ พี่ขอแนะนำว่า ท่องศัีพท์บนรถเมล์ครับ พี่ทำประจำทุกครั้ง (จนสมุดตกน้ำ ฮ่าๆ)
เราจะรู้สึกไม่เบื่อ และได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่านะ

สู้ๆนะคับน้อง พี่เอาใจช่วย มีอะไรอยากระบาย อยากปรึกษา อยากถามก็ PM มาได้เลยนะครับ ยินดีช่วยเต็มที่
 

ได้ดีเพราะมีครูสวย !!

I Love Kru Somsri
I Love Demonstration School of Khon Kaen University (Modindaeng)
เหม่งจ๋าย : )
ปุกก้า..ตาหยีมาก
Sr. Somsri'S Fanclub
Hero Member
*****
: 1561


+:-:: รักครูสวยย ^^ ::-:+


« #2 : March 13, 2010, 10:18:15 PM »

เป็นกำลังใจให้นะคะ : )

ยังดีนะที่เรารู้ตัว

ไม่มีอะไรสายเกินเริ่ม ขอแค่เราอย่าท้อก็พอนะ : )

มันไม่เกี่ยวหรอกนะ ที่เราจะเรียนอยู่ที่ไหน

มันอยู่ที่ตัวเรามากกว่า

(ถึงจะมีสิ่งแวดล้อมเป็นปัจจัยบ้างนิดนึง.. แต่เอาจริง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับตัวเราเองนะคะ)

สู้ ๆ ค่า : )
 

J.JAMM ณ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
: ))
http://littleojamajo.exteen.com
stephie~
« #3 : March 14, 2010, 10:24:27 AM »

พี่คะ

พี่ยังโชคดีมากกว่าใครหลายๆคนอีกนะคะ ^^

การที่มานึกเสียดายอะไรตอนนี้ไม่ใช่เรื่องผิดหรอกค่ะ

แต่อย่านำความเสียใจ ผิดหวัง มาทำให้เราหมดกำลังใจสิคะ

หนูคนนึงล่ะ ที่เคยเสียใจกับเรื่องผิดพลาดในอดีต

คล้ายๆกันล่ะค่ะ

คือหนูก็เคยสอบติดโครงการคณิตศาสตร์ที่ยากมาก ตอนประถม

แต่คือไม่ได้ต่อยอดเรียนคณิต หนูเลยไม่เก่งเลขเลย 5555

ก็นึกเสียใจเหมือนกันว่าทำไมเราไม่เรียนเลขเพิ่มให้เก่งๆ

T^T แต่เสียใจไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา

หนูเลยเลือกที่จะทำปัจจุบันให้ดีที่สุดค่ะ

^^
หนูก็อยากเป็นหมอเหมือนกับพี่อ่ะค่ะ

แต่ก็ยังรู้สึกห่างไกลลลลลล - -

เพราะตอนนี้หนูโง่เลขม๊าก มาก ค่ะ

- - ทุกคนไม่เชื่อเลยว่าหนูจะเป็นหมอ ฮ่าๆๆๆ

ลึกๆก็แอบเสียใจค่ะ แต่หนูจะพยายามต่อไปค่ะ

ถึงไม่ได้เป็นอย่างที่ฝันไว้ แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้วนะ

จะได้ไม่นึกเสียใจอีกไงคะ

พี่สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้ ติดแพทย์แล้วมาบอกกันมั่งนะคะ

 

ป.ล. หนูจะสอบเตรียมแล้วววววววว  เครียดดดดดดดดดดดด


 
ไนล์
« #4 : March 15, 2010, 05:21:01 PM »

พี่พอจะรู้นะครับว่าน้องอยู่โรงเรียนอะไร เพราะพี่ก็อยู่โรงเรียนเดียวกับน้องเหมือนกัน...
พี่ชื่อไนล์ นะครับ ปีหน้าคงอยู่ ม.6/1 ห้อง 2 โรงเรียนเดียวกันกับน้อง

ขึ้นชื่อว่าโรงเรียน"สาธิต" พี่เชื่อว่าจะต้องมีอะไรต่างๆมากกว่าโรงเรียนธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ที่เห็นได้ชัดก็คือ"กิจกรรม"
โรงเรียนของเราทำกิจกรรมบ่อยกว่าโรงเรียนอื่น เรียกได้ว่าทำจนเบื่อเลยหล่ะครับ
ในบางครั้งพี่ก็ยอมรับนะครับ ว่าพี่ก็เบื่อ และเหนื่อยเหมือนกัน ที่ต้องมาทำกิจกรรมหลายๆอย่างพร้อมทั้งเรียนไปด้วย
แต่น้องเชื่อไหมว่าเพราะกิจกรรมเนี่ยแหล่ะที่ทำให้พวกเราแตกต่าง...
โรงเรียนอื่นถึงเวลาสอบ เขาก็อ่านหนังสือกัน
แต่พวกเราต้องอ่านหนังสือให้เท่าเขา แถมยังต้องทำกิจกรรมไปด้วยอีก
น้องก็ลองนึกดูสิว่าใครได้อะไรมากกว่ากัน ?

พี่ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าน้องเป็นคนชอบทำกิจกรรมหรือเปล่า
แต่ดูจากเหตุผลที่ตั้งกระทู้แล้ว ไม่ว่าน้องไม่น่าจะชอบนะ
เพื่อนพี่เดินเข้ามาบอกกับพี่ว่า "เบื่อกิจกรรม" "ไม่อยากทำ"
ด้วยความที่พี่ชอบทำกิจกรรม พี่ก็ได้แต่บอกเพื่อนพี่ไปว่า
"ชีวิตเราอ่ะ มีตั้งหลายปี แต่มีแค่ 6 ปี เท่านั้นแหล่ะ ที่จะได้เรียนมัธยม เก็บเกี่ยวอะไรได้มากกว่าการเรียน ก็ทำๆไปเถอะ"
เพื่อนพี่หลายๆคนก็ตั้งใจทำกิจกรรม แล้วพอมันผ่านไป มันก็ได้อะไรมากมายอ่ะครับ ...

พี่อยากจะบอกว่าโรงเรียนของเราในช่วง ม.ต้น อาจเป็จแค่กิจกรรมของโรงเรียน
แต่พอขึ้นมาให้ระดับ ม.ปลาย แล้ว มีกิจกรรมระดับชั้น ระดับห้องให้ทำมากมายครับ
และกิจกรรมเหล่านั้น ก็ทำให้ห้องพี่ที่ค่อนข้างจะเด็กเรียนกัน กลับช่วยกันทำกิจกรรม
ทำให้เกิดความสามัคคีกันในห้อง พี่ว่าเป็นอะไรที่น่าจดจำมากเลยนะครับสำหรับมิตรภาพดีๆที่เกิดจาก"กิจกรรม"

ถามว่าแบ่งเวลายังไง ... ขึ้นอยู่กับน้องครับ
ในเมื่อเราหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกิดขึ้นไม่ได้ ก็ต้องมีความสุขกับมันครับ
พี่ก็อยากเป็นหมอแบบน้องนั่นแหล่ะครับ
แต่พี่ไม่อยากเป็นหมอที่ชีวิตผ่านแต่หนังสือ สูตร และการท่องจำ
แต่พี่อยากเป็นหมอที่ผ่านกิจกรรม และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พี่จึงเลือกทำกิจกรรมแทบทุกกิจกรรมที่มีให้ทำ
เชียร์ลีดเดอร์กีฬาสี พิธีกร กิจกรรมของห้อง วงโยธวาทิตย์ พี่ทำมาหมดละครับ
เกรดเฉลี่ยของพี่ตอนนี้ 4 เทอมก็น่าจะประมาณ 3.6 ครับ
ถือว่าไม่มาก แต่ก็ไม่ขี้เหร่ และก็คุ้ม ถ้ามันจะแลกกับสิ่งที่ได้จากกิจกรรม

6 ปี มันไม่นานนะครับ
ถ้าน้องมัวเอาแต่เรียน เอาแต่วิชาการ
น้องคงผ่านสิ่งดีๆ ที่เกิดจาก"กิจกรรม"
ในรั้ว"โรงเรียนสาธิต" แห่งนี้
พี่ขอยินยันนะครับ ว่าโรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนที่ดี
รู้สึกภูมิใจที่บนหน้าอกด้านขวาของเราเป็นสิ่งที่ใครๆเคารพนับถือ
มีหลายคนครับที่ประสบความเร็จจากโรงเรียนเรา
มันอาจจะเคยดีกว่านี้ ปัจจุบันอาจจะไม่ดีเท่าเมื่อก่อน
แต่นั่นไม่ได้ทำให้ความรู้สึกดีๆของพี่ลดลงเลยครับ
ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่สิ่งที่ยังคงเหมือนเดิมคือ"ความรักโรงเรียน"ของพี่
คงเป็นเพราะสิ่งไหนที่ไม่ดีในโรงเรียน พี่ก็ไม่เลือกที่จะจำมั้งครับ
และก็ไม่นำโรงเรียนตัวเองไปเปรียบเทียบกับที่ไหน
เพราะพี่เชื่อว่าสิ่งที่ไม่ดีก็มีทุกโรงเรียนนั่นแหล่ะครับ
เพียงแต่พี่ก็เห็นแค่สิ่งดีๆของโรงเรียนอื่นเท่านั้น
ถ้าพี่มองแต่ด้านแย่ๆของโรงเรียนเรา พี่คงอยู่ไม่ได้หรอกครับ
สู้ต่อไปนะครับ
หลักสูตรทุกโรงเรียนก็สอนเหมือนกัน แต่โรงเรียนสาธิตอาจจะหยิบโน่นมาสอนก่อน หยิบนั่นไปสอนทีหลัง
แต่ถ้าโรงเรียนสอนไม่เหมือนที่อื่น จะมีพี่ติดหมอ ติดวิศวะ ติดอักษร ทุกปีได้ยังไงหล่ะครับ
สู้ต่อไปนะครับ
มีอะไรก็มาหาพี่ มาปรึกษาพี่ได้เสมอนะ ^^
 
Opalise
"ผู้พิทักษ์แห่งสาขาขอนแก่น"
Sr. Member
****
:
: 372


MED KKU '38


« #5 : March 15, 2010, 09:19:17 PM »

เห็นด้วยกับ ไนล์ นะครับ ที่ว่าโรงเรียนเครือนี้กิจกรรมจะเยอะกว่าปกติ
แต่สำหรับตัวปอ ปอก็เบื่อบ้างนะครับกับกิจกรรมที่ไม่น่าสนใจ
แต่ปอก็เป็นเด็กกิจกรรมที่พิสูจน์ตัวเองได้ว่า การที่ทำกิจกรรมเยอะ ไม่ได้แปลว่าเราจะสอบไม่ติดนะครับ
พี่ทั้งทำโครงงานวิทย์ประกวด ทั้งแข่งตอบปัญหา เข้าค่าย ทำกีฬาสีไม่กลับบ้าน 3 4 คืน ทำขบวนแห่ลอยกระทง บลาๆ

แต่สุดท้าย กิจกรรมก็สอนให้พี่เป็นคนอดทน พี่ว่ามันได้อะไรเยอะแยะเลยนะ
ชีวิตเรา มปลาย มีแค่ 3 ปีเท่านั้นแหละ ใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุดนะ
แบ่งเวลาให้ถูกต้อง พี่เชื่อว่าน้องทำได้

เป็นกำลังใจให้นะครับน้อง
 

ได้ดีเพราะมีครูสวย !!

I Love Kru Somsri
I Love Demonstration School of Khon Kaen University (Modindaeng)
PoisonSinee
Newbie
*
: 3


« #6 : March 15, 2010, 11:23:05 PM »

หวัดดีจ้ะ
อยู่รร.นี้เหมือนกัน  อยู่สายวิทย์ด้วย รุ่น34

พี่ไม่รู้ว่าน้องเกลียดรร.ของเรามากมายอะไรปานนั้น

แต่สำหรับพี่แล้ว  พี่รักรร.นี้มากทีเดียว
ที่ผ่านมาน้องอาจจะคิดว่าโรงเรียนสอนอะไรที่ไม่มีประโยชน์
แต่จะบอกว่าโรงเรียนเราวิชาการไม่ได้แพ้โรงเรียนอื่นเลย  ที่น้องบอกว่าโรงเรียนอื่นเขาสอนแต่โรงเรียนเราไม่สอนนั้นพี่คิดว่าไม่จริงหรอก  เพียงแต่โรงเรียนเราจัดลำดับก่อนหลังไม่เหมือนคนอื่นเค้าแค่นั้นเอง
ถ้าน้องลองดูตอนนี้  ลองเอาข้อสอบหลายๆวิชา(เช่น ฟิสิกส์หรือเลข)ไปให้เพื่อนโรงเรียนอื่นทำดูสิ  พี่ว่าเค้าทำไม่ได้แน่ๆ
วิชาเคมีพี่ก็เจอมาเหมือนกัน  ใช่ มันน่าเบื่อ แต่พี่คิดว่านั่นคือประสบการณ์อย่างหนึ่ง  แทบจะเหมือนระดับมหาวิทยาลัยเลยนะพี่ว่า  แบบว่าสอนไปเรื่อยๆทันไม่ทันไม่สน  มันเป็นการฝึกตัวเองเหมือนกันนะ
โรงเรียนเราก็ไม่ใช่ว่าจะง่ายๆนะ
น้องอาจจะเก่งก็ได้  พี่ไม่รู้
แต่พี่คิดว่าอาจารย์กดเกรดน่าดูเลยล่ะ  เด๋วม.5 ก็รู้เองแหละ

เรื่องกิจกรรมพี่คิดเหมือนไนล์นะ
โรงเรียนเรากิจกรรมเยอะจริง  แต่ทุกกิจกรรมก็ฝึกให้เราได้โตอย่างมีคุณภาพนะ  เรียนรู้การทำงานร่วมกัน  หรือแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

บางส่วนพี่เองก็คิดเหมือนน้อง  โรงเรียนเรามันแย่ลงทุกวันๆ  แต่นั่นเป็นแค่ภาพลักษณ์ภายนอก  เป็นสิ่งที่มองเห็นได้ทุกๆวัน (กิจการนักเรียน)
แต่ลองนึกถึงสิ่งที่เราจะประกาศให้ทุกคนรู้ไม่ได้สิคะ
การสอน  การเรียนรู้ของนักเรียน  ไม่มีใครรู้หรอกค่ะ

สุดท้ายพี่อยากจะให้น้องรักโรงเรียนมากๆ
ถึงน้องจะจำใจอยู่  แต่ก็เป็นโรงเรียนสุดท้ายแล้ว

พอน้องเข้ามหาวิทยาลัยน้องก็จะมองข้ามข้อเสียไป  แล้วคิดถึงแต่เรื่องดีๆของโรงเรียนเรา
พี่เชื่ออย่างนั้นนะ
 
คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
น่าร๊ากกกกก
Administrator
Hero Member
*****
:
: 4363


เดาซิ...คุณครูอุ้มน้องหมากี่ตัว อิอิ


« #7 : March 16, 2010, 12:28:16 PM »

โชคดีที่โชคดไม่ดี

โชคไม่ดีที่ตอนเล็กๆครอบครัวของคุณครูไม่ได้ร่ำไม่ได้รวยอะไร

แต่โชคดีที่ความไม่ร่ำรวยทำให้คุณครูเห็นคุณค่าของเวลาและความเพียร


โชคไม่ดีที่ครูเรียนไม่เก่ง

แต่โชคดีที่ทำให้คุณครูเริ่มพยายามให้มากขึ้นๆทุกวัน



โชคไม่ดีที่คุณครสอบไม่ติดสามเสนฯแล้วต้องไปเรียนจันทร์หุ่นบำเพ็ญฯ (สมัยก่อนไกลมาก อยู่กลางทุ่งและเมื่อก่อนเรียกกันว่าชุมชนห้วยขวาง)

แต่โชคดีที่การได้เรียนโรงเรียนขนาดเล็กทำให้คุณครูรู้จักเพื่อนในอีกระดับหนึ่งและรู้สึกว่าตนเองมีโอกาสที่ดีมากกว่าเพื่อนๆ



โชคไม่ดีที่คุณครูเหมือนควายท่ามกลางพญาอินทรีในโรงเรียนเตรียมฯ

แต่โชคดีที่การแตกต่างโดยสิ้นเชิงจึงไม่ทำให้คุณครูคอยเปรียบเทียบกับเพื่อน

แต่กลับชื่นชมและอยากเดินทางได้ระยะไกลเท่าฝูงพญาปักษา

ควายเลยเรียนรู้ว่า วืธีเดียวที่จะไปให้ทันพญาอินทรีคือ

การเดินให้มากกว่าเขา  ซอยฝีเท้าให้เร็วกว่าเขา หยุให้น้อยกว่าเขา หลอมจิตให้แกร่งและเป็นนักสู้มากกว่าเขา

และแล้ววันหนึ่ง แม้จะแสนนาน คุณครูก็สามารถเดินมาถึงจุดหมายได้เช่นเดียวกับเขา


โชคไม่ดีที่คุณครูมีคุณพ่อคุณแม่แบบบ้านๆ ไม่มีความรู้สูง นอกจากปรัชญาการสอนลูกให้เป็นคนดี

แต่โชคดีที่พ่อแม่บ้านๆของคุณครูเลี้ยงคุณครให้คุณครูเติบโตไปตามความถนัดและความสนใจของตนเอง โดยไม่ได้คำนึงเรืองผลตอบแทนเป็นตัวตั้งในการเลือกสายอาชีพ


โชคไม่ดีที่คุณครูมีพี่ๆเรียนหนังสือเก่ง แต่ตัวเองไม่ฉลาดอยู่คนเดียว

แต่โชคดีที่ความโง่ ทำให้เราไม่ประมาทและอยากเก่งเหมือนพี่บ้าง  และคิดเสมอว่าพี่น้องท้องเดียวกัน ทำไมเราจะทำแบบพี่เราไม่ได้ล่ะ


ไม่เห็นมีอะไรที่ไม่ดีสำหรับคุณครูเลย

ดีจังที่ "ไม่ฉลาด" เลยคิดได้แค่ผลตรงไปตรงมา

และวิธีแก้ที่ตรงไปตรงมาเช่นกัน



งานหนัก ก็แก้ด้วยความขยัน

ไม่ใช่มัวแต่นั่งอาภัพน้อยใจในโชควาสนา

สอบไม่ติด ก็ยังโชคดีที่ยังมีการสอบครั้งหน้ารอเราอยู่

คุณครูไม่เคยใช้ประสบการณ์ที่พลาดพลั้งไปทำลายเหตุข้างหน้าที่รอเราอยู่


หมื่นพรุ่งนี้รอเราอยู่

อย่าปล่อยให้สองสามเมื่อวานนี้ทำลายหมื่นพรุ่งนี้ที่รอเรา



เชื่อคุณครูนะคะ

สู้ๆนะลูก
 

อย่าลืมเทียมเกวียนเยี่ยงควาย อ่านซ้ำๆ ทวนซ้ำๆ นะคะ คุณครูสมศรีและพี่ๆเสื้อส้ม เป็นกำลังใจให้ค่ะ สู้ๆค่ะ!!!!!
Doctor Doggy
Global Moderator
Hero Member
*****
: 760


อ่านหนังสือแล้วฉลาดนะน้องๆ


« #8 : March 17, 2010, 01:48:11 PM »

สู้ ๆ ค่ะ
 

ทุกปัญหามีทางออก บอกพี่ๆ เสื้อส้ม
คุณครูสมศรี... ครูไทยที่เข้าใจหัวใจเด็กไทย
คนนหนึ่งที่โชคร้ายกว่า
« #9 : March 17, 2010, 02:37:39 PM »

พี่ว่า น้องโชคดีกว่าพี่น้ะ

เพราะพี่ไม่มีโอกาสเหมือนกับน้อง คือ ชีวิตพี่ ตั้งแต่เข้าสู่การเรียน พี่จำได้ว่า พี่ไม่เคยสอบติดที่ไหนเลย เรียนอนุบาล 3 สอบเข้าป.1 ก็ไม่ติด เรียนป.6 สอบเข้า ม.1 ก็ไม่ติด เรียนม.3 จะสอบเข้าสาธิตแห่งหนึ่งย่านวงเวียนใหญ่ ก็ไม่ติด สอบเข้าเตรียมอุดม ก็ไม่ติด อยู่ม.4 จะซิ่วเตรียมอุดม ก็ไม่ติด พ่อแม่พี่ ตอนพี่สอบเตรียมอุดม ไม่ได้ถามพี่สักนิดว่า "จะเข้าไหม" (เส้น) แต่พี่ก็เข้าใจ ว่าพ่อ-แม่ของพี่ก็คงอยากช่วยให้ลูกได้เรียนในที่ๆลูกอยากเรียน แต่กำลังทรัพย์ไม่พอ พี่ก็ยอมรับในเรื่องนี้และไม่ได้โกรธแค้นอะไร เลยต้องเข้าเรียนที่โรงเรียนแถวบ้านชานเมืองทั่วไป เพราะไม่มีเส้นสาย ไม่มีทุนทรัพย์พอ ใครถามเรียนที่ไหน ตอบไปก็ โดนถามกลับอีกว่า อยู่แถวไหนอะ อยู่ในกรุงเทพหรอ?? บางคนอยู่ใกล้ๆกัน ยังไม่รู้จักด้วยซ้ำ แต่น้องได้เรียนโรงเรียนสาธิต ย่านหัวหมาก พี่น่าจะรู้จักน้ะ ซึ่งโรงเรียนน้องนั้นพี่ว่า ดูดีกว่าของพี่เยอะเลยล่ะ เพราะโรงเรียนพี่ ตั้งแต่เปิดโรงเรียนมา 50 กว่ารุ่น สอบเข้าจุฬาได้น้อยมาก ไม่รู้ถึง10คนรึเปล่า (ไม่ได้ดูถูกโรงเรียนน้ะครับ) อีกทั้งพี่ยังไม่ค่อยรู้สึกมีความสุขกับเพื่อนๆในโรงเรียนนี้ซะเท่าไหร่ด้วย ผิดกับน้องอีกเช่นกัน ที่มีความสุขกับเพื่อนๆ ทุกครั้งที่พี่ตื่นเช้าพี่คิดอยู่เสมอว่า เฮ้อ ต้องไปอีกแล้วหรือนี่ หรือ เฮ้อ ต้องไปเจอกับเพื่อนที่น่าเบื่ออีกแล้วหรอ เฮ้อ เมื่อไหร่จะเป็นวันหยุด เฮ้อ เมื่อไหร่จะปิดเทอม บางครั้งพี่คิดว่า วันเสาร์เป็นวันที่คนอื่นพักผ่อน แต่พี่ไปเรียนพิเศษ พี่ว่ามันมีความสุขกว่าเยอะ ทั้งหมดที่พี่พูดมา พี่ไม่อยากให้น้องคิดว่าตัวน้องนั้นโชคร้าย ถึงน้องจะโชคร้ายยังไง ก็ยังมีอีกหลายๆคน ที่โชคร้ายกว่าน้อง และหลายๆคนโชคร้ายกว่าตัวพี่เองเช่นกัน ถ้าน้องมาอยู่โรงเรียนพี่ น้องจะเห็นว่า เราโชคดีกว่าคนอื่นเยอะเลย โรงเรียนพี่ ส่วนใหญ่พี่แม่จะทำอาชีพเกษตรกร (แต่พี่โชคดีที่บ้านมีธุรกิจส่วนตัวเล็กๆ) บางคนทำงานรับจ้าง ไม่เหมือนนักเรียนในเมืองที่ส่วนใหญ่ พ่อแม่เป็นนักธุรกิจ เป็นเจ้าของกิจการ พี่ได้ยินจากอาจารย์ว่า มีรุ่นน้องของพี่ต้องขาดเรียนเพราะไม่มีเงินมาเรียน หรือบางคนต้องขาดเรียน เพราะไม่มีชุดนักเรียน หรือมีเงินจำกัดที่เรียนได้แต่ในห้องเรียน ไม่สามารถไปเรียนพิเศษเสริมใดๆได้ นอกจากขอให้อ.ที่รร.ช่วยสอนเสริม บางบ้านมีเงินติดครอบครัวแค่ 20 บาท สิ่งเหล่านี้ทำให้พี่คิดว่า พี่เองที่ว่าโชคร้ายกว่าน้อง ก็ยังโชคดีกว่าอีกหลายๆคน
และพี่ก็คิดว่าที่ครูสมศรีบอกว่า หลายคนโชคดีที่โชคไม่ดี
พี่คิดว่า มันเป็นโชคไม่ดีของพี่...ที่ได้โชคดีที่ทำให้รู้ว่า ยังมีหลายๆคนที่ด้อยกว่าเราอีก (เหมือนคุณครูสมศรีบอก) พี่เรียนที่นี่พี่ได้ประสบการณ์เยอะแยะ ทั้งเป็นตัวแทนไปแข่งนู้นแข่งนี่ ทั้งๆที่อยู่รร.เก่าไม่เคยไปเลยย -*- ก็ดีได้ทดสอบตัวเองไปในตัว
และพี่คิดว่า พี่โชคไม่ดีที่โง่อังกฤษ แต่โชคดีที่ได้มาเรียนเสริมกับคุณครูสมศรี พี่คิดว่าที่ได้อะไรหลายๆอย่าง จากที่นี่
แต่ พี่รู้สึกเสียดาย ที่โชคดีที่ที่บ้านมีคอม ซึ่งตะก่อนพี่ติดเกมมากกก เลยทำให้ชีวิตพี่ต้องเป็นแบบนี้ ต้องทนเรียนกับวิทย์-คณิตที่พี่ไม่ชอบ T^T

ขอให้น้องสู้ต่อไปน้ะครับ หลายๆมีคนอีกหลายๆคนที่โชคร้ายกว่าน้องอีก
 
: [1]  
:  

+

Sorry, the copyright must be in the template.
Please notify this forum's administrator that this site is missing the copyright message for SMF so they can rectify the situation. Display of copyright is a legal requirement. For more information on this please visit the Simple Machines website.