สวัสดีค่ะ คุณครูสมศรี
หนูมีข้อสงสัยว่าหนูทำถูกหรือคิดถูกหรือเปล่าค่ะ
คุณครูช่วยดูให้หน่อยนะค่ะว่า หนูทำอยู่ตอนนี้ มันถูกหรือยังค่ะ
-หนูเรียนอยู่ที่โรงเรียนที่หนึ่งที่พูดภาษาอังกฤษเพื่อให้เด็กฝึกค่ะ
เป็นโรงเรียนที่เล็ก ทำให้มีสังคมจำกัด
หนูพึ่งเข้ามาเรียนปีนี้ปีแรกค่ะ
หนูเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูด เพราะไม่มีเรื่องอะไรจะพูดด้วยอ่ะค่ะ
ก็เลยเงียบมากๆๆๆ(คุณแม่บอกว่าเมื่อก่อนไม่พูดเลย หรือไม่ก็นับคำได้ แต่ตอนนี้พัฒนามานิดนึงแล้ว)
หนูไม่รู้จะทำไงดี
เพราะว่าหนูอยู่กับเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่นิสัยดี
แต่หนูรู้สึกว่าเหมือนไม่สนิทเลย ทั้งๆที่อยู่กลุ่มเดียวกันแท้ๆ
อาจจะเป็นเพราะหนูไม่มีเรื่องอะไรไปแชร์กับพวกเขามั้งค่ะ
หนูรู้สึกว่าเราไม่มีอะไรเหมือนกัน หรือเป็นเรื่องทีทำให้สนิทกันได้เลย
วันๆๆหนูก็แทบไม่ได้พูดไรเลย ไม่มีใครอยากจะคุยกับหนูด้วยมั้งค่ะ(หนูก็ไม่รู้จะพูดอะไรตอบด้วย)
หนูคืดว่าหนูไปอยู่อีกกลุ่มจะดีกว่า แต่ก็ดูเหมือนจะน่าเกียจที่อยู่ดีๆหนูจะย้ายกลุ่มไปเลย
จนกระทั้งเทอม2
หนูรู้สึกว่ากลุ่มนั้นก็ดูจะเหมือนไม่ค่อยต้อนรับหนูสักเท่าไร
กลุ่มนี้พูดไทยกันใหญ่เลย
แล้วกลุ่มนั้นยังชอบผิดกฏของโรงเรียนอีกด้วย
ซึ่งการผิดกฏนั้นอาจทำให้โดนหมดสิทธิ์สอบ
ซึ่งก็หมายถึงซ้ำชั้นนั้นเอง
หนูเลยตัดสินใจว่า
ทำตัวเฉยๆกับทุกสิ่ง อยู่เหมือนเดิม
ขอให้จบจากโรงเรียนนี้ที่แม่หวังไว้ก็พอภายใน3ปี
หนูคิดถูกไหมค่ะ
แต่ถ้าหนูไม่พูดเลยก็จะไม่ได้ฝึกพูดอังกฤษ แล้วหนูจะมาอยู่โรงเรียนนี้เพื่ออะไรค่ะ(หนูไม่รู้)
หนูไม่อยากใช้คำว่าเพื่อนกับคนในห้องเลย
เพราะพวกเขาเหมือนกับเป็นแค่คนรู้จักที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตของหนูแค่3ปี
แล้วจะจากไป โดยที่หนูรู้จักแค่ชื่อของพวกเขาเท่านั้น
หนูคิดถูกหรือเปล่าค่ะ
การที่เราไม่มีเพื่อนสนิทเลย
จะเป็นการปิดสังคมไปเลยเปล่าค่ะ
โรงเรียนของหนูเป็นโรงเรียนที่ไม่เหมือนทั่วไป
เน้นแต่อังกฤษและกิจกรรม
ซึ่งอังกฤษนั้นก็สำคัญ
หนูก็รู้ แต่คุณแม่ต้องการให้เข้าบัญชี(คุณแม่วางแผนไว้ให้หมดเเล้ว + หนูไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร จะเป็นอะไร เลยทำให้หนูไม่ต้องทำอะไรเลย คุณแม่จัดการทุกอย่างให้)
เลยทำให้ต้องรู้เลขด้วย
ทำให้หนูเครียดเรื่องการที่จะเข้ามหาลัยมากๆเลยค่ะ
เพราะว่าหนูจะต้องไปเรียนข้างนอกหลายอย่างมากเลย
ในโรงเรียนนั้นเลขอ่อนมากมากกกกกกก
คือโรงเรียนคิดหลักการสอนเองนะค่ะ
หนูไปเรียนพิเศษก็ไม่รู้เรื่องเลย
หนูจะทำยังไงดีค่ะ
-หนูมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง
หนูรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ชอบถามเรื่องส่วนตัวของหนูในบางครั้งและของคนอื่น เช่น เรื่องเพื่อนสนิทหนูกับแฟนของเพื่อนสนิทหนู เป็นต้น
เมื่อเขาคิดว่าหนูรู้ ทั้งๆที่หนูไม่รู้ หรือบางครั้งก็ไม่อยากจะบอกเขา เพราะมันดูเหมือนว่าหนูไม่ให้เกียรติเพื่อนสนิทหนู ที่เอาเรื่องของเขาไปเล่าให้อีกคนฟัง(นินทา) ทั้งๆที่เพื่อนสนิทหนูไม่เคยทำกับหนูแบบนี้มาอก่อน แล้วเพื่อนสนิทหนูก็อุตส่าห์วางใจที่จะมาเล่าให้หนูฟัง ถ้าหนูไปบอกคนอื่นก็คงไม่ดีใช่ไหมค่ะ
หนูก็ตอบไปว่าไม่รู้ แต่เขาก็ยังตามตื้อๆๆๆ แล้ววันถัดมาก็ยังมาถามๆๆๆอีก จนหลายวัน เขาเบื่อ เขาถึงเลิก แต่หนูยังรู้สึกว่า เขาไม่เชื่อหนูว่าหนูไม่รู้ ทั้งๆที่หนูไม่รู้อะไรเลย แล้วไม่อยากไปถามเซ้าซี้กับเพื่อนสนิทหนูด้วย เพราะกลัวจะเป็นส่วนตัวมากเกินไป ถ้าเพื่อนสนิทหนูอยากบอกเมื่อไรก็เดี๋ยวคงมาบอกหนูเอง
-หนูเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร เพราะไม่ค่อยได้ถามด้วย เนื่องจากไม่จำเป็นที่ต้องรู้ แล้วจะถามไปทำไม พอคนอื่นมาถามหนูหนูก็ตอบว่าไม่รู้ ถ้ารู้หนูแต่ไม่แน่ใจหนูก็จะตอบไปก่อนว่าไม่รู้
เพราะหนูไม่อยากให้พวกเขาเข้าใจผิด หรือมีอะไรผิดพลาด
แต่คนอื่นนั้นกับรำคาญหนูและไม่ชอบใจที่หนูบอกเสมอว่าไม่รู้
(หนูไม่รู้แต่พวกเขาเหมือนกับบังคับว่าให้ตอบว่ารู้ยังไงก็ไม่รู้)
ครอบครัวหนูก็รู้สึกอย่างงั้นกับหนูด้วยเช่นกัน
แต่หนูก็คิดไม่ออกว่าจะตอบว่าอะไร นอกเหนือไปจากไม่รู้
หนูทำผิดหรอค่ะ
-หนูอยากจะได้สำเนียงแล้วเก่งอังกฤษ
ที่อินเดียจะทำให้หนูพัฒนาได้หรือเปล่าค่ะ
คุณครูพอทราบไหมค่ะ
-คุณครูเก่งจังเลย ที่มีความประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้
หนูอยากเป็นแบบคุณครูบ้างจัง
แต่หนูมีความอดทนน้อย
ท่องแปปเดียว เดี๋ยวก็ลืมแล้ว
หนูอยากไปต่างประเทศจะได้เก่งอังกฤษอย่างคุณครู
เพราะหนูรู้สึกว่า คุณพ่อ-แม่ตั้งความหวังกับหนูมากๆเลย
ทั้งๆที่ ท่านก็มีลูกหลายคน แต่ลูกคนอื่นๆกับไปเรียนสายที่ช่วยพวกเขาไม่ได้ หนูไม่อยากให้พวกท่านผิดหวัง
และไม่อยากให้ท่านตั้งความหวังกับหนูมากด้วย
เหมือนกับที่ตกจากที่สูงเจ็บ
แต่ดูเหมือนว่าหนูก็เอาท่านตกลงมาด้วย
หนูไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วค่ะ
-หนูกลัวอนาคตจังเลย
หนูอยากสบาย ไม่ต้องซีเรียสกับชีวิต แต่ก็ไม่อยากลำบาก
อยากใช้ชีวิตอบ่างสงบ
หนูเป็นคนไม่มีศาสนา
เพราะหนูถูกเลี้ยงแบบกึ่งๆ2ศาสนา
หนูไม่เชื่อบางแต่ก็ไม่ได้หลบหลู่
เป็นเพราะว่าหนูไม่มีที่พึ่งทางจิตใจหรือเปล่าค่ะ
เลยทำให้หนูเป็นคนแบบนี้
หัด "รักคนอื่น" "เข้าใจคนอื่น" และ "อภัยคนอื่น"นะคะ
เด็กวัยนี้เวลาทำอะไรไม่คิดซับซ้อน
ด่าก็ให้หายโกรธ
ถามให้ได้คำตอบจริงบ้างไม่จริงบ้างก็พอใจแล้ว
การพูดคุยที่ระวังตัวมากเกินไปก็ทำให้คู่สนทนาอึดอัดเพราะการตอบ"ไม่รู้"เสียทั้งหมดเป็น "การระวังตัวจนเกินพอดี และทำให้คู่สนทนารู้สึกมีกำแพงกั้น"
ส่วนเรื่องการเรียน ขยันต่อเนื่อง รู้ลำดับความสำคัญของบทเรียน และทุ่มเทอย่างสม่ำเสมอ
ผลการเรียนก็จะออกมาดีเองค่ะ
อย่ามัวไปคิดว่าทุกคนจะต้องเหมือนเรา และมีจุดมุ่งหมายหรือคาดหวังผลในทุกการกระทำของเรา
ลองปล่อยตัวเองให้สบายๆ ถามก็ตอบ ตอบในสิ่งที่รู้ ที่เป็นความคิดเห็นที่ไม่ทำให้ผู้ใดเสียหาย
แสดงอารมณ์ความรู้สึกบ้างก็ไม่ผิดค่ะ
จะทำให้อีกฝ่ายก็เรียนรู้ความรู้สึกของเราได้
"ความจริงใจ" และ "การรู้กาละเทศะ" จะทำให้การผูกมิตรราบรื่นค่ะ
ปล่อยวางในบางเรื่องได้ก็ดีนะคะ
เพราะวัยนี้เป็นวัยที่สดใสค่ะ
ลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ
คุณครูต้องขอชมหนูที่หนูจับอารมณ์ของตนได้เก่งมากค่ะ
นี่ล่ะค่ะ "ชีวิต" ที่ไม่มีสูตรสำเร็จค่ะ
โชคดีนะคะhttp://www.kru-somsri.ac.th/board/index.php?topic=13888.msg130507#msg130507