นิทานเหลาดินสอ
เวลาเรานั่งทบทวนเรื่องที่ผ่านมา หรือบางเวลาที่เราย้อนกลับไปมองชีวิต
สำหรับเราแล้ว,มันคล้ายกับการหยิบนิทานเล่มเก่าออกมาอ่าน
นิทานที่ตอนเด็กๆอ่านได้ไม่เคยเบื่อ…
ในนิทานมักเริ่มต้นด้วยประโยคที่ว่า...
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว”
และหนังสือนิทานทั่วไป ชอบกล่าวถึง เจ้าชาย,เจ้าหญิง ไม่ก็แม่มด
บางฉากในนิทานเจ้าชายกับเจ้าหญิงมีความรักให้กัน จนโลกกลายเป็นสีชมพู
ขณะที่บางฉากกลับมีแม่มดออกมาป่วน
โลกที่เคยสีชมพู เริ่มเปลี่ยนเป็นสีเทาไม่ก็มืดสนิท
แต่ทว่าจะสุขหรือทุกข์ เรื่องราวในแต่ละหน้าถูกแต่งขึ้นมาเพื่อ “ทดสอบ” บางอย่าง
เจ้าชาย , เจ้าหญิง , แม่มด หรือแม้แต่คนอ่าน ถูกทดสอบตัวเองด้วยกันทั้งนั้น
นิทานบางเรื่องมีตัวละครเพียงตัวเดียว เหงา เศร้า และเคว้งคว้าง
อาจจะโชคดีบ้างหากวันดีคืนดี สายลมพัดความรักผ่านมา
ดอกไม้ใบหญ้าชวนกันมาเต้นระบำเล่น
ความเหงา ความสุข ในนิทานถูกแต่งขึ้นมาเพื่อสอนและทดสอบเรา
นิทานที่กล่าวถึงเจ้าชายและเจ้าหญิง มักจะจบลงด้วยประโยคคล้ายๆกัน
“แล้วเจ้าชายและเจ้าหญิงก็ครองรักกันอย่างมีความสุข”
แต่นิทานชีวิตไม่ได้จบด้วยประโยคเช่นนี้เสมอไป….
การทบทวนชีวิต เหมือนกับการหยิบนิทานตอนเด็กๆขึ้นมาอ่าน
แต่ชีวิตจริงต่างกับนิทานตรงที่...
“กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว”
จะเป็นประโยคเริ่มต้น ขณะที่ประโยคจบอาจอยู่ในบรรทัดถัดไปก็ได้!
ชีวิตจริง , เวลาจะเดินเร็วกว่าในนิทานเสมอ ในนิทานชีวิตเราทำได้แค่หยุดทบทวน
แต่กลับไปแก้ไขเรื่องที่ผ่านมาแล้วไม่ได้ และที่สำคัญประโยคเริ่มต้นกับประโยคจบถูกคั่นด้วยด้ายบางๆเพียงเส้นเดียว
บางทีชีวิตคนมันก็สั้น…สั้นจนน่าใจหาย
นานมาแล้วหนังสือเล่มหนึ่งเคยเขียนเอาไว้
และประโยคนี้เองทำให้หังใจเราโดนจับ
“ชีวิตก็เหมือนดินสอไม้ ยิ่งเหลายิ่งสั้น”
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง,ดินสอของแต่ละคนจะสั้นหรือยาว กลับไม่ใช่ประเด็นหลัก
สิ่งสำคัญอยู่ที่ “การเหลา” มากกว่า!
เรายอมให้ “เปลือก” หลุดออกไป
โดน "เหลา" ให้สั้นลง
ขณะเดียวกันเรากลับช่วยทำ "คุณค่า" และสร้าง "ประโยชน์" ให้กับสิ่งอื่นมากขึ้น
นั่นล่ะคือความภูมิใจของชีวิต!
“นิทานเหลาดินสอ” เป็นนิทานที่แปลกไปจากนิทานทั่วไป
เพราะชื่อนิทาน , เรื่องราวตอนต้น และตอนปลายไม่สัมพันธ์กันเลย
แต่ผู้เขียนยังพยายามจับเอามาเชื่อมโยงกัน
เพื่อไม่ให้ “นิทานเหลาดินสอ” เป็นนิทานผ่าเหล่าไปมากกว่านี้
ผู้เขียนจึงขอจบนิทานเรื่องนี้ด้วยประโยคจบเหมือนดังนิทานทั่วไป
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า…
ชีวิตคนมันสั้น
และถ้าชีวิตเป็นเช่นดินสอไม้
เราจะช้าอยู่ทำไม
มาเหลาดินสอกันเถอะ!
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=littlespace&month=12-2007&date=22&group=1&gblog=17