P' T@m สู้ๆนะ พี่เชื่อนะว่าน้องอยากเข้าที่ไหนก็ต้องเข้าได้ ไม่ว่าจะจุฬาหรือที่ไหนๆ
อย่าเพิ่งท้อนะ
ความจริงแล้วที่เราทำข้อสอบต่างๆได้น้อย อาจจะเป็นเพราะความพะวงของเราอ่ะนะ
ที่มัวแต่ไปคิดอะไร 2 อย่างพร้อมกัน
ทั้งคิดว่า ทำไม่ได้แน่เลย ขณะที่อ่านหนังสืออยู่
เรามัวคิดสลับไปสลับมาอยู่นั่นแหละ ว่าไม่ทันแน่เลย ไม่มีเวลาแล้ว ยังไงก็คงสอบไม่ติด
แบกความหวังของพ่อแม่ รู้สึกฝืนใจขัดแย้งกับความคิดตัวเอง
จนกลายเป็นว่าเราเอาเวลาอ่านหนังสือที่ควรจะได้ความรู้เต็มเม็ดเต็มหน่วย ก็ขาดสติไปกับความคิดแง่ลบซะเกินครึ่ง
แล้วอ่านจบก็เหมือนไม่เห็นจะเข้าใจเลย ไม่มีความมั่นใจ
ความจริงแล้ว มหาลัยไหนก็ดีหมด ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า
มหาลัยดังไม่ได้การันตีว่าเราจะประสบผลสำเร็จในชีวิต
ในเมื่อคนเรามีจุดมุ่งหมายของชีวิตแตกต่างกัน
ความสุขในชีวิต เรากำหนดได้ด้วยตัวเราเอง
พี่ว่าพ่อแม่ ท่านไม่ได้คาดหวังไว้ว่าเราต้องเข้า มหาลัยดังๆได้เท่านั้นหรอก ลองๆปรึกษาท่านดูว่าเราอยากเข้าที่ไหน เพราะอะไร
พี่ว่าท่านก็คงไม่ขัดข้องหรอก ดีกว่าเรียนไปแล้วทั้งเบื่อ ทั้งเหนื่อย แล้วต้องสอบใหม่ เพราะความไม่ชอบ ถ้าใจไม่รักมันก็จะรู้สึกว่าอะไรก็ยาก
แต่หลังจากน้องเลือกเรียนที่ตัวเองชอบแล้ว ยังรู้สึกเบื่ออยู่หล่ะก็ จะได้ไม่ต้องโทษใคร เพราะหนูเลือกเองอ่ะนะ ก็ลองคิดๆดูนะ (อันนี้ก็บอกเผื่อๆน้องที่กำลังเรียน มหาลัยด้วย)
แล้วคุณพี่ชายอ่ะนะ เขาคงหวังดีด้วยแหละ แต่เค้าพูดดีๆไม่เป็น ก็ผู้ชายนี่ ถ้าหวานก็แต๋วซิจ๊ะเอาเป็นว่าพูดมากๆพี่ก็จะทำให้น้องงงกว่าเดิม
แค่อยากบอกว่าพี่ก็เป็นคนนึงที่ดื้อนะ อยากเรียนอะไรที่ไหน
พี่ก็กล้าขอพ่อนะ แต่โชคดีที่คุณพ่อพี่เขาจะให้โอกาสพี่ได้ลองเรียนทุกอย่าง ทุกที่ ที่พี่ขอ ไม่กดดันอะไร
ที่เราคิดว่าคนอื่นกดดันหน่ะ ที่จริงเราต่างหากที่กดดันตัวเอง
ไม่มีใครบังคับให้เราทำอะไรได้จริงๆหรอก
อย่าตีความหวังดีของพ่อแม่เป็นความกดดันสิคะเปลี่ยนความคิดว่าถูกกดดันมาเป็นพลังดีกว่าเยอะเลย
สู้ๆนะ ปีหน้าว่าที่ นิสิต หุหุหุหุหุหุ