Kru Somsri's English School

July 17, 2025, 05:06:05 AM

:    
191147 46430 16704
: HarryVax
*
+  Kru Somsri's English School
|-+  ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี
| |-+  คุยกับคุณครูสมศรี
| | |-+  เขาหาว่าหนูโง่:'(
: [1]
: เขาหาว่าหนูโง่:'(  ( 7179 )
เศร้ามาก
« : April 10, 2008, 02:10:08 AM »

เรียนสายวิทย์ได้ทำไมไม่เรียน เรียนเตรียมได้ทำไมไม่เรียนโง่รึเปล่า

สวัสดีค่ะคุณครูสมศรี และสวัสดีเพื่อนๆ  ยาวหน่อยแต่รบกวนช่วยเป็นที่ปรึกษาของหนูด้วยเถอะน่ะค้ะ  หนูอยากได้ใครสักคนรับฟังปัญหาของหนู เพราะตอนนี้ ไม่มีไครเข้าใจหนูเลย สงสัยไม่เคยมีไครเจอปัญหาแบบนี้ หนูเลยต้องเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียว กับเวปไซต์นี้
ค่ะ ประเด็นมีอยู่ว่า หนูสอบติดอันดับดีของเตรียมอุดม หนูเลยมีโอกาสได้ไปมอบตัววันที่ 25 เมษานี้ แต่ รร เก่าของหนู จะหมดเขตรับจ่ายค่าเทอมวันที่ 10 เดือนเมษานี้เช่นเดียวกัน หนูเลยคิดไม่ตก ว่าเอาไงดีกับชีวิต


1.   พ่อแม่หนู อยากไห้หนูเรียนสายวิทย์

ซึ่งหนูก็ตกลง ยอมที่จะเรียนเพราะหนูก็คิดว่ามันน่าจะดีกับชีวิตของหนู เพราะหนูคงมีทางเลือกมากขึ้น



2.   พ่อแม่หนูอยากไห้หนูเป็นหมอ

ท่านมักจะไห้หนูเลือกว่า อนาคตหนูอยากเป็นอะไร หมอผิวหนังหรือหมอฟันดี  ซึ่งหนูไม่คิดว่านี่จะเป้นทางเลือกตรงไหน มันคือการบังคับไห้เป็นหมอ แต่เป็นการบังคับแบบมีชั้นเชิงก็เท่านั้น หนูอยากเป็นแอร์ฯ แต่เค้าบอกว่า จบอะไรก็ไปเป็นแอร์ได้ ก็จบหมอไงแล้วไปเป็นแอร์ ซึ่งมันเป็นไปได้แต่ถ้าหนูเรียนหมอมาทั้งชีวิต สุดท้ายไปเป็นแอร์ หนูจะเหนื่อยไปทำไม ฟังๆแล้ว ยังไงเค้าก็อยากไห้หนูเป็นหมอ เค้าไห้เหตุผลว่า เป้นหมอ จบมามีงานทำชัวร์ ไม่มีวันตกงาน  แต่หนูกลับคิดว่า ถ้าทุกคนเป็นหมอ โลกนี้คงไม่มีไครเป็นคนไข้แล้ว  
แต่เอาจริงๆแล้ว หนูก็ยังตอบไม่ได้ว่าอยากเป็นแอร์จิงๆเหรอ หรือ ไม่อยากเป็นหมอจริงๆหร๋อ หนูรู้สึกว่าหนูยังอายุแค่ 15 ไห้ไปคิดอาชีพที่จะทำตอนอายุ 30 หนูคงคิดลำบาก  เพราะเหตุนี้ ที่หนูตอบไม่ได้อย่างแท้จริง พ่อกับแม่เลยเสนอทางเลือกคือหมอไห้ แต่สำหรับหนูแล้ว ทางเลือกของพ่อแม่กับคำว่าบังคับ ต่างกันนิดเดียวคือสะกดไม่เหมือนกัน



3.   รร เก่ามีดีแค่สายศิลป์ สายวิทย์ที่ รร เก่าไม่ดี  ไปเตรียมดีกว่า

คำพูดนี้ หนูได้ยินมาบ่อย ทุกคนพูดต่อๆกันมา แต่มันก็ยังไม่มีข้อพิสูจอยู่ดี พ่อแม่หนูก็เป็น1ในคนที่มองว่ายสายวิทย์ รร หนูห่วยแตก พ่อหนูเลยจะมัดมือชกโดยการไม่ไปจ่ายค่าเทอมให้ มีอะไรเศ้รากว่านี้ไหม ?    รุ่นพี่ รร หนู สอบ ติดหมอ 2 คน พอพ่อแม่รู้ก็หาว่า รร ห่วย ซึ่งจริงๆ หนูไปถามห้องแนะแนวมาเค้าบอกว่า “มีคนเลือกหมอ 3 คน ติด 2 คนก็ไม่แปลกหนิ แต่เตรียม ที่ติดเยอะเพราะมีคนไปสอบกี่คนหละ”  ซึ่งพ่อแม่ไม่เคยไปถามเรื่องนี้
หนูก็รู้ว่าสายวิทย์เตรียมอุดมคงดีกว่า รร หนู ไม่งั้นคงไม่มีคนอยากไปเรียนเยอะขนาดนี้ แต่หนูก็คิดว่า แล้วที่ รร หนูมันห่วยมากหร๋อ แน่นอนพ่อแม่อยากไห้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูก แต่เค้าไม่เคยถามหนูสักคำว่าแล้วสำหรับหนูอะไรมันดีที่สุด แต่แน่นอนถ้าเค้าถาม หนูก็ตอบไม่ได้อยู่ดี แต่มันน่าจะดีที่เค้าถามหนู อย่างน้องหนูยังได้รู้ว่า ชีวิตหนู มันยังเป็นของหนูอยู่    ที่หนูตอบไม่ได้เพราะหนูยังคิดไม่ออก ยังประสบกานยังน้อยแต่ถ้าจะเชื่อพ่อแม่ทุกอย่าง หนูจะมีความสุขในชีวิตหร๋อ บางทีความฝันที่พ่อแม่วาดไว้ น่าจะปล่อยไห้มันเป็นฝันยังจะดีกว่า เพราะถ้าลองทำมันไปจริงๆ แล้วกลายเป็นความจริงที่เป้นไปไม่ได้  จากฝันที่สวยหรูเป็นความจริงที่ล้มเหลวขึ้นมา มันคงผิดหวังน่าดู
เหมือนตอนพี่หนู พี่หนูย้ายสายจากวิทย์ไปศิลป์ และเอ็นเข้าคณะศิลปกรรม พ่อแม่หนูผิดหวังมากเพราะเดิมท่านตั้งความหวังไว้ไห้พี่หนูเป็นหมอมือ1  แต่สุดท้ายความหวังมันพังทลาย ท่านจึงเก็บมันขึ้นมาต่อไห้หนู จากเดิมสูงอยู่แล้ว ทีนี้มันสูงขึ้น สูงจนมองไม่เห็น จุดยอดของความหวัง ว่ามันสูงแค่ไหนกัน บางทีหนูต้องจบปริญญาเอกเลยหรือเปล่า ถึงจะไปถึงตรงจุดนั้น การแบกรับความหวังไว้ มันเหนื่อยมาก  แต่ทุกครั้งที่หนูเหนื่อยจากการที่พ่อแม่ไห้เรียนพิเศษทุกวัน เหนื่อยจากการที่ต้องอ่านหนังสือในเวลาที่ควรจะได้พัก พ่อแม่กลับไม่เคยรู้ว่าหนูเหนื่อย แต่กลับยิ่งทำไห้หนูยิ่งเหนื่อย แม่หนูบอกว่า เรียนพิเศษอีกนะ หนูบอกแม่ว่า พอเถอะหนูเรียนไม่ไหวแล้ว แม่หนูกลับตอบมาว่า “ทำไมจะไม่ไหว ต้องไหวซิ เก่งจะตายแค่นี้อดทนซิจ๊ะไม่เห็นจะเหนื่อยเลยเนอะ”   แม่หนูเอาอะไรมาวัดว่าหนูทนไหว ใช้อะไรมาพิสูจว่าหนูไม่เหนื่อย แม่รู้ได้ไงว่าหนูไม่เหนื่อย หนูเหนื่อย เหนื่อยมาก ต้องทำยังไงแม่ถึงจะรู้ว่าหนูก็เหนื่อยเป็น  ถึงแม่จะไห้กำลังใจด้วยการพูดว่าหนูเก่ง แต่หนูรู้สึกเหมือนคำพูดนี้มันคือยาพิษดีดีนั้นเอง มันทำไห้หนูได้รู้เลยว่า พ่อแม่ไม่เข้าใจหนูจริงๆ กระทั่งหนูเหนื่อย หนูท้อ พ่อแม่ยังไม่รู้



4.   ญาติหนูเกือบทุกคนเรียนหมอ

ญาติผู้ใหญ่มักจะมาอวดพ่อแม่หนูเสมอทุกครั้งที่รวมญาติ บางคนถึงกับโทรมาทุกครั้งที่มีเวลาว่างว่า ลูกชั้นติดหมอศิริราชแล้วนะ ได้เกียรนิยมนะ  อีกคนติดจุฬาแต่ไม่เอาเอาหนะเค้าชอบศิริราชนะฮิฮิ    แล้วพ่อแม่หนูหละ จะเอาที่ไหนไปพูด - -   ทำไมพวกเค้าถึงต้องกดดันพ่อแม่หนูขนาดนี้  ญาติผู้ใหญ่ชอบพูดว่า “ลูกชั้นเรียนหมอ ง่ายๆไม่เหนื่อยหรอก ลูกเธอก็เรียนบ้างซิ ลูกชั้นบอกว่า ง่ายสุดๆ”  หนูเลยไปถามญาติหนูคนที่เป็นลูกของคนที่พูดว่า ง่ายขนาดนั้นเลยหร๋อ เค้าร้องไห้แล้วบอกว่าเหนื่อยมาก เดิมเค้าเรียนได้4.0ตลอด ม.ปลาย พอเรียนหมอได้ 2 .5  เค้าบอกหนูว่าเครียดมาก ถ้าเค้ามีลูกเค้าจะไม่มีวันไห้เรียน รวมถึงหนู เค้ายังบอกหนูอีกอย่างว่า ถ้าไม่อยากเป็นหมอนะ อย่าไปเรียนเตรียมเลย เหนื่อยเปล่า เค้าไม่อยากไห้หนูป็นแบบเค้าเพราเค้าผ่านตรงนั้นมาแล้ว แล้วมันหนักและเหนื่อย จบมามีงาน ได้เงินเยอะ แต่เงินที่ได้มันไม่คุ้มกับค่าแรงที่เสียไปหรอก แต่เค้าไม่ได้คิดอะไร เพราะเค้าชอบช่วยเหลือคน     หนูเลยบอกเค้าว่า แล้วทำไมแม่เค้าพูดแบบนั้นกับแม่หนู เค้าบอกว่า พ่อแม่ที่เข้าใจลูกทุกอย่างมันไม่มีหรอก เค้ามองภายนอกก็คิดไปเองหมด  สิ่งที่พ่อแม่ทำไม่ได้แล้วมาไห้ลูกทำ เค้าไม่รู้หรอกว่ามันเหนื่อยแค่ไหน   don’t judge book by its cover. หนูฟังแล้วโดนใจมากๆ  


5.   หนูไม่ค่อยอยากไปเรียนเตรียม!

ไม่รู้ว่าหนูมีอคติรึป่าวนะ แต่รุ่นพี่ที่หนูรู้จักเค้าไปเตรียม เค้าบอกว่าเรียนที่เตรียมไม่เครียดหรอกแต่เรียนพิเศษไห้หนักแล้วมาเข่งกันใน รร นี่ซิเครียด        อย่างที่ครูสมศรีเคยพูด “เตรียมอุดมเค้าตัดยอดคนเก่งจากทั่วประเทศมารวมกันไว้” (อันนี้โดนใจหนูมาก)  ถ้าหนูไปในนั้น หนูคงเป็นอีกาในฝูงหงษ์ การแข่งขันไม่มีสิ้นสุด มันเหนื่อยมากที่ต้องแข่งกับคนอื่น ขณะเดียวกันก็ต้องแข่งกับความท้อแท้ของตัวเองและความหวังของพ่อแม่  ที่สำคัญแล้วคู่แข่งของหนูนี่ไม่ไช่ธรรมดา คนเก่งระดับประเทศ หนูว่าหนูเป็นคนเรียนได้แต่ถึงหนูจะพยามแค่ไหน อดทนแค่ไหน แต่ถ้าไปสู้อยู่อย่างนั้น สักวันหนูคงโดนเหยียบหัวจมดิน    รุ่นพี่ยังบอกอีกว่าเพื่อนบางคน เห็นแก่ตัว เห็นแก่เรียนจนไม่สนใจคนรอบข้าง แต่เค้าบอกว่าคนดีดีมันก็มี แต่ถ้าหนูโชคร้ายได้คนเห็นแก่ตัวเป็นเพื่อน หนูก็คงแย่ แล้วอีกเหตุผลที่สำคัญคือ หนูยังตอบไม่ได้ว่าหนูอยากทำอาชีพอะไรในอนาคต บางคนบอกไห้เลือกสายวิทย์ไปก่อน แต่ญาติหนูที่พึ่งเอ็นเค้าบอกว่า บางอย่างสายวิทย์ก็เอ็นไม่ได้ แล้วทีนี้หนูจะทำยังไง ถ้า ม5 หนูพบว่าหนูไม่เป็นหมอแน่ๆ  ไปเตรียมหนูก็คงไม่สามารถย้ายสายได้ง่ายๆ แต่ถ้าหนูอยู่ รร เก่า หนูสามารถย้ายสายได้แน่  หนูไม่แน่ใจเรื่องการย้ายสายมากเท่าไหร่เลยไปถามครูที่เตรียมเค้าบอกว่า ย้ายได้แต่ยากมาก และย้ายได้ก็ ม6 หนูก็คิด ถ้า ม6 หนูคงไม่คิดย้ายแล้วหละ - - นี่คือประเด็น  
แต่หนูก็ไม่สามารถบอกพ่อแม่ได้ถึงเหตุผลของหนู ถ้าหนูบอกว่า ไม่อยากเรียนเตรียมเพราะหนูอาจอยากย้ายสายในอนาคต ท่านจะต้องรีบๆไห้หนูไปเตรียมเพื่อป้องกันหนูย้ายสายแน่ๆ  เหตุผลที่ท่านไม่รู้ ท่านเลยหาว่าหนูติดเพื่อน ไม่ยอมรับกับสิ่งเปลี่ยนแปลง หนูอยากบอกว่าไม่ไช่แค่นั้น หนูมีเหตุผลของหนู ไปเตรียมหนูเรียนหนักเกินไป เรียนแล้วไม่มีความสุข เรียนไปอดทนไป กัดฝันไป มันจะดีหร๋อ ถ้าหนูเรียนด้วยความสนุกความชอบมันจะไม่ดีว่าหร๋อ

พ่อแม่หนูอยากไห้หนูเรียนหมอ แล้วบอกว่า ดูคนนั้นซิ ดูคนนี้ซิ  ทำไมพ่อแม่ชอบเปรียบเทียบ?  พ่อแม่มองแต่ภายนอกจริงๆ คนที่ยิ้มไม่ใช่มีความสุข บางคนที่หัวเราะ อาจจะหัวเราะทั้งน้ำตาก็ได้ ซึ่งก็เหมือนหนูในขณะนี้

แม่บอกว่าแม่เครียดมาก เครียดที่หนูยังคิดไม่เป็นสักที   ทั้งที่ความจริงหนูคิดทุกวัน และเครียดมาก ไม่รู้ว่าเครียดเท่าแม่ไหม แต่หนูรู้ว่าเครียดมากและหนูไม่เคยเครียดขนาดนี้ หนูเครียดแต่แม่ไม่รู้  หนูร้องไห้แต่แม่ไม่เคยรู้ ทุกวันหนูนอนไม่หลับ ไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมแม่ทำเหมือนเตรียมอุดมคือทุกสิ่งทุกอย่าง มันคือเทพเจ้า ต้องไปไห้ได้

พอหนูสอบเตรียมได้คะแนนดีและมีโอกาสไป  แม่หนูโทรบอกทุกคนที่รู้จัก ทุกคนที่แม่โทรไป โทรกลับมาหาหนู บอกหนูว่า   อ่าวเด็กเตรียมเป็นไงบ้างจ้ะ   หนูบอกเค้าไปตามตรงว่า ยังไม่ได้คิดจะไปเลย เค้าบอกหนูว่า เรียนเตรียมได้ทำไมไม่เรียนโง่รึเปล่า คนอื่นอยากได้โอกาสนี้ตั้งเยอะ เป้นชั้นนะ ชั้นไปเตรียมแบบไม่ลังเลเลยนะเนี่ย เรามีโอกาสแต่ไม่คว้าไว้ โง่รึเปล่า     สรุปหนูโง่ ใช่ไหม  ทำไมญาติต้องกดดันหนูแบบนี้ หนูอยากใช้เวลาคิด แต่เหมือนโดนเป่าหูทุกวัน จนตอนนี้หนูเป็นเหมือนตัวอะไรไม่รู้ ที่ต้องไปตามน้ำ ตามกระแสไปเรื่อยๆ คนส่วนไหญ่ชอบยังไง คิดยังไงหนูต้องเป็นอย่างนั้น คนส่วนไหญ่บอกว่าเตรียมดี หนูก็ต้องไปตามกระแสอย่างนั้นหรือ ถ้าหนูไม่ไปถือว่าหนูโง่ไช่ไหม ทำไมแม่ต้องเอาเรื่องในครอบครัวไปเล่าด้วย ถ้าเล่าหนูก็ไม่ว่า แต่ผลเสียจากการเล่ามันตามมาเยอะ ทุกคนกดดันหนูมาก

วันนี้หนูทนไม่ไหวพูดกับแม่ไปตามตรงว่าทำไมต้องไปเล่าเรื่องในครอบครัวไห้คนอื่นฟังด้วย แม่บอกว่า หนูหาว่าแม่ผิดใช่มั้ย  หนูก็เลยทะเลาะกับแม่ สุดท้ายแม่หนูร้องไห้ วันนี้หนูทำไมร้องไห้ หนูไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ทำไมเรื่องนี้ถึงสร้างปัญหาไห้หนูไม่หยุด    หนูไม่ไปเช็งเม้งเพราะถ้าไปเจอญาติ ทุกคนต้องด่าหนูโง่ที่หนูไม่เอาเตรียม แต่หนูไม่อยากเป็นคนโง่ และหนูก็ยังไม่ได้พูดสักคำว่าไม่เอา แค่ยังลังเล แต่การกระทำของทุกคนทำไห้หนูไม่อยากไปเตรียมอุดมแล้ว พอกันที สุดท้ายพ่อก้ยังไม่วาย มาว่าหนูว่า อยากเล่นคอมพิวเตอร์ถึงขนาดไม่ยอมไปเช็งเม้งเลยหร๋อ หนูมันคงแย่+โง่มากในสายตาของคนนามสกุลเดียวกัน  

หนูอยากถามแม่จริงๆ ที่อยากไห้หนูเรียนสายวิทย์เรียนหมอ เพราะอยากไห้หนูได้ดี หรือเพราะกลัวหนูได้ดีไม่เท่าญาติๆกันแน่  จริงๆแล้วแม่ต้องการอะไร  


ขอบคุณครูสมศรี-กำลังใจของหนู
ขอบคุณเพื่อนๆที่ร่วมแบ่งปัญประสบการณ์ชีวิตดีดีในเวปนี้ค่ะ
 
เศร้ามาก
« #1 : April 10, 2008, 02:36:37 AM »

ปล ถ้าไครจะว่าเราหรือพูดว่า
ทำไมไม่ไป เป็นชั้นชั้นไป
ขอร้องเลยนะ
อย่าพูดเลยนะ
เรามีเหตุผลของเรา
อย่าว่าเราเลย
แค่นี้เราก็รู้สึกแย่มากพอแล้ว
อย่าพูดเลยนะ
ขอร้อง
มันฟังแล้วรู้สึกแย่
 
BBPADน่ารัก
กำลังอินดี้
Full Member
***
: 129


น่ารักไม่จำกัดเวลาและสถานที่คนมันหน้าตาดี คริๆ


« #2 : April 10, 2008, 07:10:29 AM »

พ่อแม่อยากให้ลูกทุกคนมีอนาคตที่ดีนะคะ
อย่าคิดว่าท่านจะเอาเราไปเทียบกับใครเลยค่ะ
ทำตามที่หัวใจตัวเราเองต้องการและทำสิ่งที่คิดว่าเรารับได้
กับการที่สิ่งนั้นจะต้องอยู่กับเราตลอดชีวิตนะคะ
เคยได้ยินเพลงพี่เบิร์ดป่ะคะ ชีวิตลิขิตเอง ค่ะ
เป็นทางชีวิตของเรา เราต้องเป็นคนเลือกเดินเอง
เราก็ต้องมั่นใจและคิดว่าทางนั้นดีที่สุดสำหรับตัวเราเองแล้ว

ขอเป็นกำลังใจให้อีกคนนะคะ 
 

รักครอบครัวที่ซู้ดดดดดดดดด
เหม่งจ๋าย : )
ปุกก้า..ตาหยีมาก
Sr. Somsri'S Fanclub
Hero Member
*****
: 1561


+:-:: รักครูสวยย ^^ ::-:+


« #3 : April 10, 2008, 11:13:24 AM »

อ่านมาเราก็เข้าใจนะ

แต่เราไม่เหมือนเธอที่ เราพยายามจะไปเตรียมให้ได้
แน่นอน เหตุผลต่างๆใครก็มีแหละ
เพราะอย่างเรา ทางบ้านบังคับ สายวิทย์เท่านั้น
ผะเอิ้นนนน ที่เตรียมมีวิทย์ศิลป์เลยอยากไป เพราะร.ร.เก่าไม่มี

โอเคแม่ แจมเลือกนะ ถ้าแม่แอบเปลี่ยน/บังคับแจมให้เลือกสายอื่น แจมไม่สอบแน่ =_=+++
(แม่อยากให้เรียนเตรียม ส่วนตัวก็อยากนะ แต่ถ้าโดนบังคับไม่เอาแน่ ฮ่าๆ)

ก็ตอนนี้อยากบอกให้เธอ ใจเย็นๆก่อนนะ
พ่อแม่บางทีก็มีค.เห็นของเค้า

มุมมองของผู้ใหญ่ที่ผ่านมาเยอะแล้วแหละ
(ซึ่งเด็กๆอย่างเราก็คงยากจะเข้าใจ เหมือนที่ผู้ใหญ่บางครั้งไม่เข้าใจเด็ก..จริงมะ?)

=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=
ที่จะพิมพ์ต่อจากนี้ เป็นแค่แสดงค.เห็นนะ
=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=:=

ประเด็นแรก
"เรียนสายวิทย์ได้ทำไมไม่เรียน เรียนเตรียมได้ทำไมไม่เรียน โง่รึเปล่า"
ไม่โง่นะ

เค้าตอบคนแรกเลย เธอไม่ได้โง่

ถ้าเธอไปแล้วไม่มีความสุข จะไปทำไม กดดันเปล่าๆ?

สู้อยู่ที่ๆเธอชอบ ที่เธอเรียนแล้วมีความสุขดีกว่ามั้ย??

แถมอีกอย่าง ข่างที่พวกปีเราจะสอบเอนท์กัน
เค้าใช้เกรดร.ร.เยอะขึ้นด้วยมั้งง (ที่ได้ยินมานะ)
ถ้าอยู่ร.ร.เตรียมอาจสอยเกรดยากจริงมะ??
(เห้อๆๆ แล้วฉันจะสอยได้มั้ยย T^T)

1. พ่อแม่อยากให้เรียนสายวิทย์
> โอเคปัญหาเดียวกัน
ตอนแรกเค้าค้านแบบ ยังไงก็จะไม่เรียน ชอบภาษาๆๆ
พอโดนจี้จุดดำเท่านั้นแล.."ภาษาไทยจะไปรอดรึ"
โอเค วิทย์ก็วิทย์ T^T
และก็ยอมรับเหมือนกันว่ามีทางเลือกมากขึ้น
เผื่อเปลี่ยนใจแน่ๆอีกที ก็แย่งของสายศิลป์
(รู้ว่าไม่ดี แต่อยากเรียน U_U)

2.พ่อแม่อยากให้เป็นหมอ
>โอเคปัญหาเดียวกันอีกแล้ว =_=
แต่ของเค้าพ่อแม่เข้าใจว่าเค้าไม่ชอบสายนี้
แต่เหล่าๆอาม่าอากง ญาติๆทั้งหลายจะขุนให้เป็นหมอให้ได้
(เพราะที่บ้านมีแต่เภสัช ไม่มีหมอ และพี่ชายก็จะเป็นวิศวะ)

คือใช่เห็นด้วยกะความคิดผู้ใหญ่นะ มีงานทำชัวร์
แต่คือถ้าใจไม่รัก ?? จะทำได้ดีเหรอ??

มันอยู่ที่สามัญสำนึกคนเราด้วยนะ ถ้าเราอยากเป็น เราคงมีจิตใจอยากทำงาน อยากช่วยคน
แต่ถ้าเราไม่อยาก มันจะเป็นคนละเรื่องเลย
มันจะคล้ายๆว่าเราจะเป็นหมอเห็นแก่เงินมากกว่าจริงมะ?

ซึ่งมันก็เหมือนกันทุกอาชีพแหละ
ถ้าใจไม่รัก ยังไงก็ทำได้ดีสู้คนใจรักไม่ได้อยู่ดี
ทำไปก็ไม่มีความสุข เนอะ

แต่อย่างตอนนี้ ถ้าท่านอยากให้เป็นหมอจริงๆ
งืมงัมเนียนๆไปก่อนก็ได้นะ แล้วแอบไปสอบอย่างอื่น =.=
(ไม่ก็ตอนเรียงลำดับอะ เอาอันที่อยากได้ขึ้นอันแรกเลย แล้วก็แบบประมาณ คะแนนไม่ถึง บลาๆๆ ข้ออ้างดำน้ำบุ๋มๆไปเรื่อยๆ เค้าว่าอย่างน้อย ท่านก็ควรดีใจและภูมิใจนะ ที่ลูกของท่านเรียนจบน่ะ จริงมะ??)

แล้วพอได้ทำงาน ค่อยใช้เป็นข้อพิสูจน์ให้ท่านเห็นว่า
เรารักงานนี้ เราทำงานนี้ได้ เราจะทำงานนี้เลี้ยงดูท่าน

3.รร.เก่าดีสายศิลป์ สายวิทย์ไม่ดี ไปเตรียมดีกว่า
>เรื่องร.ร.ขอไม่พูดนะ

แต่จากที่อ่านมา สอบ 3 ติด 2 ก็เก่งแล้วแหละ

มันขึ้นอยู่กะจำนวนคนที่สอบด้วยจริงมะ?

แล้วก็จริงอยู่เรื่องย้ายสายที่เตรียม (แอบสืบไว้เหมือนกัน หุหุ =.,=)
ก็ยากเหมือนกันแหละ =_= อาจเป็นเพราะนักเรียนเยอะเค้าเลยดูไม่ทั่วถึงก็ได้น้ะ?

เรื่องเรียนพิเศษ
บ้านเธอต่างกะบ้านเราคือ..
พ่อแม่เธอให้เธอเรียน
แต่พ่อแม่เค้าส่งเสริมให้เค้าเรียน
มันต่างกันน่ะ =_=
เพราะเค้า ไม่ชอบให้ใครมาบังคับ
(เช่นเดียวกะที่บ้านจะให้เป็นหมอ ประกาศลั่น จะเป็นก็ต่อเมื่อหมูบินได้ =.,=)

เรื่องนี้เค้าคงแนะนำอะไรให้ไม่ได้นะ แต่ทางที่ดีเค้าว่า ควรพูดกะพ่อแม่ดูนะ
ลองเสนอเช่น สมมุติเธออยากเรียนดนตรี ก็ลองไปเรียนดู

เรียนพิเศษหนักๆแล้วเรียนประเภทพวกนี้ต่อ มันช่วยผ่อนคลายนะ

4.ญาติเกือบทุกคนเรียนหมอ
>(ประเด็นเค้าคง.. เรียนเภสัช ฮ่าๆ)
วิธีง่ายๆนะ

เป็นตัวของตัวเอง!!

จำเป็นเหรอไง คนเก่งต้องเรียนหมอ =_=+++

ไม่งั้นบ้านเมืองคงมีแต่หมอสิเน๊าะ จริงมะๆๆๆ
(อคติน่าดูเลยฉัน =O=)

จำเป็นรึไง เราต้องเรียนตามญาติๆ
จำเป็นรึไง เราต้องเป็นหมอตามญาติๆ

ถ้าเราเป็นอาชีพอื่น มันจะสร้างค.หลากหลายให้ครอบครัวมากกว่าจริงมะ

อย่างเช่นถ้าเธอเป็นแอร์
คนบางทีก็อาจจะทักเช่น

อุ้ย ครอบครัวนี่เก่งจัง มีทั้งหมอ มีทั้งแอร์ บลาๆๆๆ

ก็สร้างชื่อเสียงให้กะวงศ์ตระกูลเพิ่มจริงมะ

5.ไม่อยากไปเรียนเตรียม
> ก่อนอื่น.. เค้าขอถามเธอว่า..
แล้วทำไมเธอไปสอบ?
ถ้าเธอไม่อยากไปจริงๆ ก็ทำให้ไม่ได้ก็น่าจะจบเรื่องแต่แรกแล้วจริงมะ?

และมันเป็นการตัดโอกาสของใครหลายๆคน
(พูดตามตรงนะ เค้าไม่ชอบเรื่องนี้ซะเท่าไรอะ =_= แบบว่า.. ก็อย่างที่ญาติเธอบอกแหละ มีคนอีกหลายๆคนที่เค้าอยากได้โอกาสนี้)

ส่วนเรื่องที่ทำข้อสอบไม่ได้
มันมีจริงนะ

อย่างรุ่นเพื่อนพี่เค้าที่อยู่สวน
อยู่ชีวะโอลิมปิกแล้วมั้ง (เปล่าหว่า จำไม่ได้ =_= รู้แค่มันเป็นตัวแทนร.ร.)
ตอนไปสอบ มันตั้งใจสอบให้ไม่ติด แล้วเรียนสวนต่อ เพื่อตัดปัญหา
เพราะรู้ว่า.. ถ้าติดเตรียมละก็.. คงเป็นเรื่องกะที่บ้าน ที่อยากให้ไปอยู่เตรียม
แน่นอน ปีนั้นชีวะเยอะ =_= พี่เค้าก็เลยบรรเลงกาแต่ข้อที่ผิด
รวมถึงวิชาอื่นๆด้วย (แต่ถ้าไม่รู้ก็จิ้มมั่วนะ ฮ่าๆ)

และแล้วก็ไม่ติดเตรียมสมใจหวัง
ได้เรียนต่อกิ๊ฟสวนฯตามใจหวัง

หลายคนอาจบอกว่าแปลก ไม่อยากไปแล้วไปสอบทำไม
แน่นอน ทางบ้านบังคับไงละ

ปัญหานี่ เค้าว่าน่าจะมีกันในหลายๆบ้าน เพราะพ่อแม่อยากให้ลูกตัวเองได้สิ่งที่ดีที่สุด
จนบางทีอาจจะลืมมองในแง่ลูกว่า ลูกไม่ชอบ ลูกไม่ถนัด ลูกไม่อยากเรียน
ลูกชอบอย่างอื่น ลูกถนัดอย่างอื่น ลูกอย่างเรียนอย่างอื่น แล้วส่งเสริมแทน

เค้าว่าเค้าโชคดีที่เป็นเด็กกล้าแสดงออก
เค้าเลยได้แสดงให้พ่อแม่และญาติๆเห็นว่า.. เค้าถนัดด้านนี้มากกว่าด้านนี้นะ
เค้าชอบอันนี้มากกว่าอันนี้นะ
เค้าเลยมีสิทธิเลือกทางเดินของเค้าเอง
โดยมีท่านทั้งสองคอยสนับสนุนส่งเสริม แต่ไม่ได้บังคับ
 ส่วนเรื่องในเตรียม
อย่างจากที่เค้ารู้จักรุ่นพี่มานะ
รุ่นพี่เค้าแต่ละคนไป ไม่เจอคนที่เห็นแก่ตัวไรแบบนี้สักคน
และที่เค้าได้พูดคุยกะหลายๆคน ก็ไม่มีใครเป็นแบบนั้น
ไม่แน่ เค้าอาจจะโชคดีเรื่องนี้อยู่ก็ได้ ทำให้ไม่เจอคนประเภทนั้น แหะๆ

สุดท้าย เค้าก็อยากย้ำคำเดิมว่า
เธอไม่ได้โง่

เธอแค่มีความคิดโดดเด่น

เธอคิดที่จะเป็นอย่างอื่น เธอไม่ต้องการตามใคร

เค้าชอบนิสัยแบบนั้นนะ

ก็เป็นกำลังใจให้จ้ะ

แล้วก็..อย่าลืมลองคุยกะท่านนะ คุณพ่อคุณแม่

เอาน้ำให้ท่าน รอท่านอารมณ์ดี กราบเท้าท่านทั้งสองงามๆ

ก่อนจะค่อยๆพูดนะ พูดแบบใจเย็นๆด้วยนะ

เค้าว่าบางทีท่านอาจจะเข้าใจ


เป็นกำลังใจให้นะ

ปอลุย มีไรคุยได้จ้า
อ้อ ตอบป.ล.ด้วย ฮ่าๆ
เชื่อนะ ว่ามีเหตุผล
ใจเย็นๆนะ
ช่วงนี้ นั่งสมาธิสวดมนต์ก่อนดีกว่า จะได้สงบจิตสงบใจ
มันช่วยได้เยอะนะเวลาเราเครียด

สู้ๆจ้ะ

ปอลุย 2
โอ้วว ว ว แอบยาวซะ 

ปอลุย 3
ถ้าตรงไหนแรงไปหรือไม่พอใจก็ต้องขอโทษด้วยนะ
= ="

 

J.JAMM ณ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
: ))
http://littleojamajo.exteen.com
เหม่งจ๋าย : )
ปุกก้า..ตาหยีมาก
Sr. Somsri'S Fanclub
Hero Member
*****
: 1561


+:-:: รักครูสวยย ^^ ::-:+


« #4 : April 10, 2008, 06:15:04 PM »

เพิ่งนึกได้ วันนี้วันที่ 10 นี่หว่า =O=


แล้วสรุปเป็นไงอ่า..
 

J.JAMM ณ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
: ))
http://littleojamajo.exteen.com
: [1]  
:  

+

Sorry, the copyright must be in the template.
Please notify this forum's administrator that this site is missing the copyright message for SMF so they can rectify the situation. Display of copyright is a legal requirement. For more information on this please visit the Simple Machines website.