คุณครูว่าเป็นเพราะเพลงของพี่เวบฯรึเปล่า
เด็กๆเลยพากันเหงากันเข้าไปใหญ่เลย
มีอยู่วันหนึ่งสมัยสาวๆ
คุณครูอยู่รับใช้คุณแม่ชี รศ. ดร.สุภาพรรณ ณ.บางช้าง
ที่2000กว่าไร่ในป่ากว้างที่รถเข้าไม่ถึง น้ำไฟไม่มี มีแต่นายทุนที่บุกรุกทำลายป่า
มีกระต๊อบกับศาลากลางป่าพร้อมบ่อน้ำที่กรมชลฯมาขุดให้
เราสองคนนอนแหงนหน้ามองฟ้ายามค่ำคืนที่ดาวระยิบ
แล้วคุณครูก็พูดขึ้นว่า
"คุณแม่ขา หนูทราบแล้วว่าทำไมพวกเราถึงทุกข์"
"ทำไมล่ะหนู"
"ก็เพราะเรามีภาษาไงคะ ทำให้เราไปถอดรหัสอาการทางจิตว่านี่คือเหงา นี่คือเศร้า นี่คือทุกข์ และฯลฯ
ยิ่งพวกฝรั่งแสนจะมีคำว่าทุกข์เป็นสามสี่สิบคำ เขาคงมีทุกข์หลายแบบ หลายระดับ
เลยทำให้มีอัตตวินิบาตกรรมกันมาก
ของเรามากสุดก็คือทุกข์ กับทุกข์ม๊ากกกมาก
เหมือนพูดภาษาอังกฤษก็มีเศร้าแค่สองระดับคือ sad กับ very sad เพราะแปลไม่ออก"
และแล้วคุณแม่ก็แสดงอาการเห็นด้วยแล้วก็พาเข้าเรื่องสังขารปรุงแต่ง
ยิ่งถ้าเปิดบอร์ดศาลาคนอกหัก คุณครูว่าน้ำตาคงหลั่งรินท่วมบอร์ดนี้แน่เลย
แต่คุณครูคิดว่าพวกหนูอย่าคิดต่อยอดกันเลย
กินสิหนู กินเข้าไป
ขอให้อ้วนพีและมีความสุขก็พอแล้วนะเด็กๆ
วัยหนูวัยสดใส อย่าคิดมากนะคะ
คิดน้อยๆ แล้วอ่านหนังสือมากๆก็พอแล้วค่ะ
อย่างน้อยเวลาเราถูกทอดทิ้ง
ก็ยังมีคนสองคนที่เริมผมหงอกคอยเรียกเราให้ทานข้าว
แล้วยื่นค่าขนมตอนเช้าให้พวกหนูๆนะลูก
เพราะฉะนั้น เรานั่นแหละที่ชอบคิดไปเองว่าเราเหงา
ยังไงก็มีครูคนนี้อีกคนที่อ้วนพีและมีควมสุขคอยปลอบใจยามหนูเหงากันนะคะ
เป็นเรื่องจริงหรอคับ แล้วนายทุนนั่น ได้บุกรุกป่าไปหมดเลยหรือเปล่า ถูกจับไปยังครับ ไม่ควรปล่อยมันไว้นะครับ
สงสารสัตว์ในป่านะครับ อย่างนั้นหนะ