บทกลอนคัดมาจาก หนังสือของ หลวงพ่อจรัญน่ะคราบบบถ้าซ้ำหรือเคยอ่านมาก่อนก็ขออภัยด้วยน่ะครับ ^^~
จดหมายถึงลูก
พ่อแม่ไม่มี เงินทอง จะกองให้
จงตั้งใจ พากเพียร เรียนหนังสือ
หาวิชา ความรู้ เป็นคู่มือ
เพื่อยึดถือ เอาไว้ ใช้เลี้ยงกาย
พ่อกับแม่ มีแต่ จะแก่เฒ่า
จะเลี้ยงเจ้า เรื่อยไป นั้นอย่าหมาย
ใช้วิชา ช่วยตน ไปจนตาย
เจ้าสบาย แม่กับพ่อ ก็ชื่นใจ
ถึงแม้จน ทนได้ ไม่ทุกข์หนัก
เท่าลูกรัก ประพฤติตน เป็นคนชั่ว
ลูกกี่คน ทนเลี้ยงได้ ไม่หมองมัว
ไม่โศกเศร้า เท่าลูกตัว ชั่วระยำ
พ่อแม่ส่ง ให้ลูกเรียน เพียรอุส่าห์
พ่อแม่ฟันฝ่า อุปสรรค์ แสนหนักเหลือ
พ่อแม่ตั้งหน้า หาทุน มาจุนเจือ
พ่อแม่ทำเมื่อ ลูกเจริญ เดินก้าวไกล
พ่อแก่ แม่เฒ่า
พ่อแม่ก็แก่เฒ่า จำจากเจ้าไม่อยู่นาน
จะพบจะพ้องพาน เพียงเสี้ยววานของคืนวัน
ใจจริงไม่อยากจาก เพราะยังอยากเห็นลูกหลาน
แต่ชีพมิทนนาน ต้องร้าวรานสลายไป
ขอเถิดถ้าสงสาร อย่ากล่าวขานให้ช้ำใจ
คนแก่ชะแรวัย คิดเผลอไผลเป็นแน่นอน
ไม่รักก็ไม่ว่า เพียเมตตาช่วยอาทร
ให้กินและให้นอน คลายทุกข์ผ่อนพอสุขใจ
เมื่อยามเจ้าโกรธขึ้ง ให้นึกถึงเมื่อเยาว์วัย
ร้องไห้ยามป่วยไข้ ได้ใครเล่าเฝ้าปลอบโยน
เฝ้าเลี้ยงจนตัวใหญ่ แม้เหนื่อยกายก็ยอมทน
หวังเพียงจะได้ผล เติบโตจนสง่างาม
ขอโทษถ้าทำผิด ขอให้คิดทุกทุกยาม
ใจแท้มีแต่ความ หวังติดตามช่วยอวยชัย
ต้นไม้ที่ใกล้ฝัง มีหรือหวังอยู่นานได้
วันหนึ่งคงล้มไป ทิ้งฝั่งไว้ให้วังเวง
อาจารย์ สุทรเกตุ
พระคุณของแม่
พระ อรหันต์ ชั้นอุดม หรือพรหมเมศร์
คุณ วิเศษ มิได้ใหญ่ ไปกว่าแม่
ของ แม่ใหญ่ ใกล้ชิด ติดลูกแจ
แม่ จ๋าแม่ ลูกนี้คิด เป็นนิตย์เอย
รักของแม่
รักใดเล่า รักแน่ เท่าแม่รัก
ผู้กสมัคร รักมั่น ไม่หวั่นไหว
ห่วงใดเล่า เท่าห่วง ดังดวงใจ
ที่แม่ให้ กับลูก อยู่ทุกครา
ยามลูกขื่น
แม่ขม ตรมหลายเท่า
ยามลูกเศร้า
แม่โศก วิโยคกว่า
ยามลูกหาย
แม่ห่วง ดังดวงตา
ยามลูกมา
แม่หมด ลดห่วงใย
ยามมีกิจ หวังให้เจ้า
เฝ้ารับใช้ ยามป่วยไข้ หวังให้เจ้า
เผ้ารักษายามถึงคราว ล่วงลับ
ดับชีวาหวังให้เจ้า เฝ้าปิดตา
เวลาตาย ไม่มีใครรักเราเท่าแม่
รักของใคร หรือจะแท้ เท่าแม่รัก
ผูกสมัคร สายเลือด ไม่เหือดหาย
คนอื่นรัก ยังประจักษ์ ว่ารักคลาย
จืดจางง่าย ไม่จีรัง ดังมารดา
รักใด
ชูไว้ เหนือรักอื่น
เป็นรักรื่น
ไร้ราคี โลกีย์วิสัย
รักมิใช่
เพื่อนตน หรือสนใจ
คำนึงถึง
กำไร และขาดทุน
รักใด หยัดยืน
เมื่ออื่นล้มรักน่าชม สุกใส
ไม่ข้นขุ่นรักนั้นคือ รักแท้
แม่การุณมอบแก่กุล- บุตร ธิดา
ผู้ยาใจแม่....ผู้ให้กำเนิด
แม่มิเพียง ให้แต่ กำเนิดลูก
จิตท่านผูก เฝ้าถนอม เป็นจอมขวัญ
แม่มิเพียง เลี้ยงลูกให้ ใหญ่เท่านั้น
แม่เพียงสรรค์ สร้างนิสัย ให้ลูกดี
แม่มิเพียง
ให้สมบัติ พัสถาน
ให้ลูกมี
วิชาการ โอฬารศรี
เพื่อลูกได้
ใช้ดำรง ทรงชีวิ
บนวิถี
ของมนุษย์ อันสุดไกล
แม้มิเพียง สุดอาทร
ใจร้อนร้าวเมื่อลูกคราว โรคเบียน
เวียนเจ็บไข้ครั้นลูกหาย คลายโศก
สร้างโรคภัยแม่จึงใจ หายห่วง
บ่วงกังวลรักแท้....เพื่อลูกรัก
แม่จ๋าแม่ ความรักแม่ นี้แน่นัก
คุณแม่รัก ลูกของแม่ มาแต่ต้น
รักของแม่ มิได้มี ราคีปน
มีหรือจน แม่รักอยู่ ไม่รู้จาง
รักของใคร
ไม่เท่าศักดิ์ รักของแม่
รักแม่แท้
แม่รักอยู่ ไม่รู้สร่าง
ศัตรูร้าย
ก้ไม่กราย มากั้นกาง
ถึงรักนาง
รักนาย ก็ไม่เกิน
แม่รักยศ รักศักดิ์
อัครฐานหรือรักงาน สารพัน
รักสรรเสริญรักสนุก ทุกสถาน
สำราญเทอญรักไม่เกิน รักแม่
รักแท้เอยผู้เสียสละอย่างยิ่งใหญ่
เมื่อลูกใหญ่ วัยถ้วน ควรศึกษา
แม่ก็พา ลูกรัก ไปฝากให้
จะเสียทุน หนุนค่า วิชาไป
ถ้ามิให้ แล้วไม่ขัด เป็นสัตย์จริง
ถึงไม่มี
บางที ก็กู้เอา
จะหนักเบา
ยอมลูก ไม่ทุกสิ่ง
สู้ตรากตรำ
ทำการ งานจริงจริง
เพื่อแลกสิ่ง
ทรัพย์ได้ มาให้เรา
เมื่อลูกเสร็จ การศึกษา
วิชาเชี่ยวแม่คนเดียว ดีใจ
ใครจะเท่าพอลูกหา ทรัพย์ได้
ใจท่านเบาเพราะท่านเฝ้า ปลูกฝัง
หวังให้ดีจารึกพระคุณแม่
พระคุณแม่ นั้นประมาณ ไม่สิ้นสุด
แม้สมมติ เอาแผ่นดิน สิ้นแห่งหน
เป็นหมึกก้อน ฝ่อนละลาย ในสายชล
ให้ทั่วหน แห่งสมุทร สุดนที
แล้วเอาเขา
พระสุเมรุ ที่เด่นหล้า
เอาปากกา
จุ่มหมึก บันทีกที่
เอาท้องฟ้า
เป็นกระดาษ วาดคดี
แล้วเขียนชี้
ชมบุญ คุณมารดา
เขียนจนสิ้น ดินฟ้า
มหาสมุทรเขียนจนสุด พระสุเมรุ
ที่เด่นหล้าแต่ไม่สุด สิ้นบุญ
คุณมารดาจึงนับว่า ใหญ่ยิ่ง
สิ่งทั้งปวงปล. เด๋วจาเอา สิ่งดีๆมาให้อีกน่ะคับ
ปล.1 ขอขอบพระคุณ คุณครู สมศรี ที่ทำให้ผมรักแม้มากยิ่งขึ้นครับ
Born ^^~