ขอถามคำถามคอร์ส Grammar ครับ

[arunnon]

ขอถามคำถามคอร์ส Grammar ครับ
หน้า 156 :
She is difficult/easy to please. (ห้ามใช้ to be pleased)
ทำไมใช้ไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อ -ing=น่า -ed=รู้สึก
to be pleased ก็แปลว่า หล่อนยากที่จะรู้สึกพึงพอใจ
เค้าไม่ใช้กันค่ะ น้องคงต้องตั้งใจฟังดี ๆ ในห้องเพราะคุณครูย้ำทุกข้อที่น้องถามค่ะ
หน้า 157 :
3 ประโยคแรก ที่ทำเป็น passive ไม่ต้องมีกรรมหรอครับ เห็นที่คุณครูให้จด มันคือ
Active  = S     +    V    + S.o. + to do S.th.
Passive = S.o. + be V3 +   S   + to do S.th
แบบนี้ครับ ประธานของ AV จะเป็น กรรมของ PV
 

หน้า 159 : ข้อ 15 :
At this time, much more concern ..........
ทำไม much more concern ถึงเป็นเอกพจน์ล่ะครับ เข้ากฏไหนครับ
กฏทั่วไปค่ะ concern เป็นนามนับไม่ได้คะ
;our concern for human rights
หน้า 78 :
Nนับได้เอกพจน์ มีด้วยหรือครับ
เคยเห็นแต่
- Nนับไม่ได้เอกพจน์
- Nนับได้พหูพจน์

นามนับได้มีทั้งเอกพจน์และพหูพจน์แต่ขึ้นอยู่กับคำบอกปริมาณที่นำหน้ามันค่ะ

หน้า 79 :
ตรงหัวข้อ the sun, the moon,... ครับ
ที่มี แต่ > I walked....
          > .......
          > ..........
          > ............
ทั้ง 4 ประโยคนี้ มีเหตุผลหรือไม่ครับ ที่ทำไมใช้ articleแปลกๆ อย่างนั้นครับ หรือว่าต้อง จำ!!! เท่านั้นครับ

น้องต้องมีสมาธิในห้องนะคะ เพราะคุณครูพูดทุกอย่างโดยละเอียดค่ะ

หน้า 80 :
The + Nชี้เฉพาะเจาะจง (well-defined)
แล้วทำไม South America
             Northern Beazil
                      .
                      .
ทำไมไม่ใช้ the หรือ a ครับ เพราะมันก็ชี้เฉพาะแล้วนิครับ เช่น ทิศใต้ของอเมริกา ก็มีอยู่แค่ที่เดียวในโลกที่นั้น มันไม่เฉพาะยังไงครับ มี of หรือไม่มี of มันก็เหมือนกันนะครับ (ความหมาย)

น้องต้องมีสมาธิในห้องนะคะ เพราะคุณครูพูดทุกอย่างโดยละเอียดค่ะ


สีแดงคือพี่ตอบให้นะคะ

พี่หน่วยไล่ล่าค่ะ

[arunnon]

ขอถามเพิ่มอีกนะครับ
ในหน้า 149 และ 152 มีคำว่า People know that S + V +O เหมือนกันเลยครับ
แต่ป.ย. Passive ทั้ง 2 หน้านั้น ไม่เห็นเหมือนกันเลยครับ มันต่างกันอย่างไรครับ

[เสือน้อย...คอยครูสมศรีสุดสวยจร้า!!]

หน้า 80 ประเทศมันเป็นชื่อเฉพาะไง มันต่างจากการชี้เฉพาะ ก็เลยไม่ต้องมีอาร์ติเคิล เหมือนกับชื่อพระราชวังที่ไม่ต้องมีอาร์ติเคิล

[arunnon]

***ผมเข้าเรียนเต็มเวลาทุกครั้งนะครับ ไม่เคยยืมชีเพื่อนไปลอก***

หน้า 156 :
She is difficult/easy to please. (ห้ามใช้ to be pleased)
ทำไมใช้ไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อ -ing=น่า -ed=รู้สึก
to be pleased ก็แปลว่า หล่อนยากที่จะรู้สึกพึงพอใจ
คือ ทำไมเค้าไม่ใช้กันล่ะครับ



หน้า 159 : ข้อ 15 :
At this time, much more concern ..........
ทำไม much more concern ถึงเป็นเอกพจน์ล่ะครับ
"much" คุณครูยังไม่เคยสอนเลยนะครับ

หน้า 78 :
Nนับได้เอกพจน์ มีด้วยหรือครับ
เคยเห็นแต่
- Nนับไม่ได้เอกพจน์
- Nนับได้พหูพจน์
ในเรื่อง Agreement of S,V ไม่ได้กล่างถึง Nนับได้เอกพจน์เลยนะครับ

หน้า 79 :
ตรงหัวข้อ the sun, the moon,... ครับ
ที่มี แต่ > I walked....
          > .......
          > ..........
          > ............
ทั้ง 4 ประโยคนี้ มีเหตุผลหรือไม่ครับ ที่ทำไมใช้ articleแปลกๆ อย่างนั้นครับ หรือว่าต้อง จำ!!! เท่านั้นครับเห็นคุณครูบอกเฉยๆครับ ว่าใช้อย่างนั้น เพราะมันเป็นตัวยกเว้น แต่ไม่ได้บอกที่มาครับ ว่ามีเหตุผลอย่างไร


หน้า 149 และ 152
มีคำว่า People know that S + V +O เหมือนกันเลยครับ
แต่ป.ย.ที่เป็น Passive ทั้ง 2 หน้านั้น ไม่เห็นเหมือนกันเลยครับ มันต่างกันอย่างไรครับ แล้วจะใช้ต่างกันอย่างไรครับ

ขอแบบกระจ่างหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ

[BabySisteR]

ถ้างั้นน้องทิ้งเบอร์โทรให้พี่เลย เดี๋ยวพี่จะขอให้คุณครูช่วยอธิบายให้เองค่ะ

[Doctor Doggy]

***ผมเข้าเรียนเต็มเวลาทุกครั้งนะครับ ไม่เคยยืมชีเพื่อนไปลอก***

หน้า 156 :
She is difficult/easy to please. (ห้ามใช้ to be pleased)
ทำไมใช้ไม่ได้ล่ะครับ ในเมื่อ -ing=น่า -ed=รู้สึก
to be pleased ก็แปลว่า หล่อนยากที่จะรู้สึกพึงพอใจ
คือ ทำไมเค้าไม่ใช้กันล่ะครับ

ข้อนี้เป็นกฏเลยค่ะ วึ่งคุณครูยกตัวอย่างว่าน่าจะใช้แบบที่น้องบอกแต่เค้าไม่ใช้กันค่ะ ข้อนี้ต้องจำนะคะ พี่ตอบเองเพราะพี่เข้าไปนั่งเลคเชอร์ด้วย แต่ที่น้องถาม คุณครูอธิบายในห้องแล้วนะคะ แถมยังย้ำด้วย น้องต้องมีสมาธิมาก ๆ นะคะ



หน้า 159 : ข้อ 15 :
At this time, much more concern ..........
ทำไม much more concern ถึงเป็นเอกพจน์ล่ะครับ
"much" คุณครูยังไม่เคยสอนเลยนะครับ

อันนี้ไม่ใช่เรื่อง much ค่ะ  เรื่องขั้นกว่าค่ะ มากกว่ามากเราใช้ much more/far more ค่ะ
concern เป็น uncountable noun ค่ะ

หน้า 78 :
Nนับได้เอกพจน์ มีด้วยหรือครับ
เคยเห็นแต่
- Nนับไม่ได้เอกพจน์
- Nนับได้พหูพจน์
ในเรื่อง Agreement of S,V ไม่ได้กล่างถึง Nนับได้เอกพจน์เลยนะครับ

พี่ไม่ทราบทั้งประโยคค่ะ

หน้า 79 :
ตรงหัวข้อ the sun, the moon,... ครับ
ที่มี แต่ > I walked....
          > .......
          > ..........
          > ............
ทั้ง 4 ประโยคนี้ มีเหตุผลหรือไม่ครับ ที่ทำไมใช้ articleแปลกๆ อย่างนั้นครับ หรือว่าต้อง จำ!!! เท่านั้นครับเห็นคุณครูบอกเฉยๆครับ ว่าใช้อย่างนั้น เพราะมันเป็นตัวยกเว้น แต่ไม่ได้บอกที่มาครับ ว่ามีเหตุผลอย่างไร

อันนี้คุณครูให้ดอกจันทน์และบอกเหตุผลชัดเจ๊นนนนชัดเจน
พี่ว่าน้อง log in แล้วส่งเบอร์โรมาที่ข้อความส่วนตัวพี่ดีกว่านะคะ เพราะน้องต้องจดไม่ทันแน่ ๆ เพราะไม่อย่างนั้นก็ต้องมานั่งอธิบายเรื่องที่สอนไปแล้วอย่างละเอียดในห้องตลอดไป

ส่งเบอร์มาเลยนะคะ  อธิบายด้วยคำพูดแป๊บเดียว ปิ๊งเลยค่ะ


หน้า 149 และ 152
มีคำว่า People know that S + V +O เหมือนกันเลยครับ
แต่ป.ย.ที่เป็น Passive ทั้ง 2 หน้านั้น ไม่เห็นเหมือนกันเลยครับ มันต่างกันอย่างไรครับ แล้วจะใช้ต่างกันอย่างไรครับ

ขอแบบกระจ่างหน่อยนะครับ
ขอบคุณครับ