Kru Somsri's English School

ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี => คุยกับคุณครูสมศรี => : เด็กหญิง April 29, 2009, 10:20:52 PM



: หนูควรทำอย่างไรดีคะT^T
: เด็กหญิง April 29, 2009, 10:20:52 PM
สวัสดีค่ะคุณครูสมศรี หนูเป็นเด็กนักเรียนทีเคยเรียนภาษาอังกฤษกับครูมา แล้วรู้สึกว่า ตัวเองมีปัญหาในใจที่ไม่สามารถปรึกษาใครได้ หนูพยายามจะปรึกษาคนที่เขาน่าไว้ใจแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเข้าใจหนูเลย

ปีนี้หนูอายุ สิบเก้า ปีแล้ว กำลังรอศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยรัฐบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่หนูเป็นคนต่างจังหวัดค่ะ

ตลอดระยะเวลา สิบเก้าปี มานี้ หนูรู้สึกว่า พ่อแม่ รักหนูมากเกินไปค่ะ คุณครูอาจจะยังสงสัยว่า ไม่ดีหรือที่พ่อแม่เค้ารักเรามาก
แต่ สิ่งที่หนูอยากจะบอกคุณครูก็คือว่า วิธีแสดงความรักของแม่ บางที ทำให้หนูรู้สึกว่า แม่กำลังรังแกหนูทางอ้อม

คือ หนูเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัวค่ะ ทุกอย่างเลยเหมือนถูกตามใจมาแต่เด็ก จะทำอะไรก็ต้องอยู่ในสายตาของแม่ตลอด
ตอนหนูยังเด็กก็เข้าใจนะคะว่า เพราะแม่รักเรา เพราะแม่เป็นห่วงเรา แต่ยิ่งนานวันไป หนูเริ่มโตเป็นวัยรุ่น เริ่มมีภาวะของความเป็นผู้ใหญ่ขึ้น หนูจะต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น ใช่มั้ยคะ
แต่แม่หนูยังมองว่าหนูเป็นเด็กไม่เกินป.หกอยู่ดี หนูไม่ได้กล่าวหาว่าแม่อย่างนั้นนะคะ แต่ทุกพฤติกรรมที่แม่แสดงออก มันทำให้หนูคิดอย่างงั้นจริงๆ ไม่ว่าหนูจะอยู่ที่ไหน ไปทำอะไร แม้กระทั่งไปรร. แม่จะโทรเช็คหนูตลอด ครึ่งชั่วโมง โทรมาทีนึง ซึ่งอันนี้เป็นความจริงค่ะ เหมือนแม่เขาไม่ไว้ใจหนูเลย กลัวว่าหนูจะเถลไถล ทั้งๆที่แม่ก็รู้อยู่ว่าหนูเป็นคนยังไง แม่ต้องการอะไรหนูให้แม่ได้หมด แม่ต้องการให้หนูตั้งใจเรียน คาดหวังให้หนูสอบได้ที่หนึ่งของระดับชั้น หนูก้อทำให้ท่าน แต่มาถึงมัธยม การเรียนหนูเริ่มตก ไม่ใช่เพราะหนูไม่พยายามนะคะ แต่บางทีคนเราก้อต้องยอมรับว่า ไม่มีใครเป็นที่หนึ่งได้ตลอดหรอก ซึ่งหนูเข้าใจกฏนี้ดี แต่แม่หนูดูเหมือนจะไม่ยอมรับมันเลย แต่หนูก็ไม่ได้มีการเรียนแย่มากมายนะคะ ได้เกรด 4.00 เหมือนกันแต่ไม่ใช่ได้คะแนนมากที่สุดของห้อง หนูอยากเรียนสายศิลป์ภาษานะคะ แต่แม่อยากให้หนูทำงานสายวิทย์สุขภาพ ซึ่งหนูก็พยายามเรียนสายวิทย์เพื่อให้ท่านสบายใจ ทั้งๆที่ตัวเองรู้ทั้งรู้ว่า ไม่ชอบเลย
หนูเบื่อมากกับการเรียนสายวิทย์แต่ก็ต้องทำใจชอบให้ได้ มันทรมานมากเหมือนกันนะคะ กับการต้องทนทำอะไรที่เราไม่ชอบถึง สามปีเต็มๆ เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย หนูสอบได้ทั้งสายวิทย์และสายศิลป์ค่ะ คะแนนก้อไม่ได้ขี้เหร่ไรมาก สามารถเรียนสายวิทย์สุขภาพได้สบาย แต่หนูคิดว่า หนูทำตามใจแม่มามากพอแล้ว จึงอยากเลือกเส้นทางชีวิตของตัวเองบ้าง หนูจึงตัดสินใจเลือกลง คณะสายศิลป์ซึ่งถือว่ามีชื่อเสียง ในมหาวิทยาลัยดังแห่งหนึ่ง แต่จะด้วยประการใดๆแม่คงไม่ส่งหนูเรียนแน่ถ้าหนูลงสายศิลป์ หนูจึงดิ้นรนหาทุนเต็มให้เข้าเรียนคณะนี้ให้ได้แล้วหนูก็ทำสำเร็จ ทีนี้แม่จะค้านหนูก็ไม่ได้ แต่่ท่านก็เหมือนยังไม่ชอบใจอยู่ดี เป็นครั้งแรกที่หนูรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมาก ที่ได้มีโอกาสตัดสินใจด้วยตัวเอง (ปล.ขนาดเสื้อผ้า หนูยังไม่เคยเลือกซื้อด้วยตัวเองเลยค่ะ เพราะต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของแม่ตลอด) ความรักที่แม่ให้มาหนูเข้าใจนะคะ แต่ตอนนี้หนูอายุ สิบเก้าปีแล้้ว อีกปีเดียวก้อจะ บรรลุนิติภาวะแล้ว หนูแค่อยากให้แม่มองว่า หนูสามารถรับผิดชอบอะไรในชีวิตได้บางแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างที่หนูสามารถทำก็เพื่ออยากให้แม่ไม่ต้องกังวลในตัวหนูมาก เพราะหนูจะอยู่ในกรอบของความดี และไม่ทำให้แม่เสียใจแน่นอน หนูทำอย่างนี้เพราะอยากให้แม่มีความสุขที่เห็นว่าลูกสาวของแม่ สามารถจะยืนได้ด้วยตัวเองถ้าไม่มีใครดูแลแล้ว แต่ความคิดของแม่หนูไม่เหมือนกับคนอื่น การแสดงความรักของแม่ บางทีรุนแรงและเกรี้ยวกราด จนบางทีก็มีบ้างที่ใช้คำพูดไม่สุภาพและลงโทษหนู โดนที่หนูไม่รู้ว่า หนูทำอะไรผิด หนูยอมรับนะคะว่าเคยเถียงแม่ แต่ก็จบด้วยการโดนลงโทษทุกครั้งแล้วหนูก็เสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น คิดว่า เราเป็นลูกอกตัญญูมากที่เถียงแม่ และหลังจากนั้นเวลามีเรื่องทะเลาะกัน หนูจะพยายามเดินออกมาจากสถานการณ์นั้นเพราะรู้ว่าตัวเองเป็นคนไม่ยอมคนเหมือนกัน การหลีกเลี่ยงการประจันหน้าน่าจะดีที่สุด แต่แม่กลับโกรธมากขึ้น จนบางที ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพซึ่งเป็นอะไรที่หนูไม่ชอบที่สุด จะดุด่าว่ากล่าวอะไรก็ได้ แต่ขออย่าใช้ถ้อยคำที่กรีดใจหนูเลย หนูรู้สึกว่า นี่หรือ ความรักของแม่ แม่มอบให้หนูอย่างนี้หรือ และบางทีเวลาพ่อทะเลาะกับแม่ เรื่องทุกอย่างก็จะมาจบลงที่แม่ระบายใส่หนู ซึ่งบางทีหนูก็อยู่ของหนูดีๆ แต่ต้องมาเป็นแพะรับบาป มีหลายครั้งที่หนูปรึกษากับพ่อ พ่อบอกให้ทำใจเพราะแม่เราเป็นคนนิสัยอย่างนี้ สิ่งเดียวที่คนเป็นลูกอย่างเราทำได้คือ ทำใจยอมรับ เพราะเขาก็คือผุู้ให้ชีวิตแก่เรา แล้วอีกเรื่องหนึ่งก็คือ หนูยังไม่เคยมีแฟนเลยค่ะ เพราะสาเหตุอะไรคุณครูก็คงจะเดาออก แม่หนูเป็นแบบนี้แหละค่ะ จนหนูไม่กล้าจะมีใครเลย กลัวว่า ตัวเองจะซึมซับนิสัยจากแม่มาแล้วไปทำกับคนอื่น หนูกลัวจริงๆค่ะ แต่ยิ่งหนูเกลียดการกระทำบางอย่างของแม่ มันก็เหมือนถูกถ่ายทอดมานิสัยหนูมากขึ้นเรื่อยๆ หนูไม่อยากเป็นอย่างนี้เลยค่ะครู หนูพยายามทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองหนีจากสภาพแบบนี้ หนูจึงหันหน้าเข้าทางธรรม ให้ธรรมะช่วยกล่อมเกลาจิตใจ หนูไปนั่งปฏิบัติธรรมแล้วอ่านหนังสือธรรมะมาได้ช่วงหนึ่งแล้วค่ะ แล้วคิดว่า ได้ผลดีเลยทีเดียว อันอาจจะไม่เปลี่ยนการกระทำของหนูได้ทั้งหมดแต่อย่างน้อย มันก็ทำให้หนูตะหนักได้ถึง การกระทำที่ไม่สมควรของตัวเอง หนูอยากจะขอคำแนะนำของคุณครูว่า หนูควรทำอย่างไรดี แล้วการปฏิบัติธรรมของหนูแม่ก็ไม่เห็นด้วย อยากให้เรียนอย่างเดียว หนูคิดว่าอยากจะไปนั่งสมาธิที่วัดซักแห่ง อยากจะให้ครูแนะนำด้วยค่ะ

ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบนะคะ

(ปล.หนูรักครูเหมือนแม่คนที่สองนะคะ ฉะนั้นขอขอบพระคุณคุณแม่ที่ช่วยหาทางออกให้ลูกสาวคนนี้ค่ะ ขอบคุณค่ะ


: Re: หนูควรทำอย่างไรดีคะT^T
: &(%$%#$)(*&^%$^&*(* [ME] April 30, 2009, 12:19:18 PM
ซ้ำรึเปล่าคะ

ไม่รู้ดิมันคุ้นๆ


Sorry, the copyright must be in the template.
Please notify this forum's administrator that this site is missing the copyright message for SMF so they can rectify the situation. Display of copyright is a legal requirement. For more information on this please visit the Simple Machines website.