: สู้เพื่อแม่ : Unidentified Girl August 31, 2008, 03:59:37 PM วินาทีประทับใจถ่ายทอดความหวัง ทารกสุดทรหดส่งสัญญาณสู้เพื่อแม่
(http://pics.manager.co.th/Images/551000010917901.JPEG) เสี้ยววินาทีที่กลายเป็นความทรงจำอันมีค่าของครอบครัวอาร์ดิลล์ เดลิเมล์ - ขณะที่นอนป่วยหนักอยู่ในตู้อบด้วยขนาดเท่าลูกนก ทารกน้อยดูเหมือนกำลังจะยอมแพ้เลิกยื้อยุดฉุดชีวิตตัวเอง ดีแลน อาร์ดิลล์ มีเลือดออกในสมอง หัวใจรั่ว และปอดทำงานได้ไม่เต็มที่ เมื่อแรกคลอด เด็กชายมีน้ำหนักตัวไม่ถึง 0.9 กิโลกรัม ขนาดลำตัว จากหัวถึงเท้าเท่ากับฝ่ามือพ่อพอดิบพอดี แต่ 1 สัปดาห์ต่อมา มีสัญญาณที่ทำให้ราล์ฟ และแอนนาเล็กซ์กล้าที่จะหวัง เมื่อดีแลนชูมือน้อยๆ ขึ้นมาเกี่ยวนิ้วแม่ไว้ และสองสามีภรรยา บันทึกเสี้ยววินาทีนี้ไว้ได้ทัน เสี้ยววินาทีที่เป็นดังจุดเปลี่ยนของครอบครัวอาร์ดิลล์ น้ำหนักตัวดีแลนเริ่มเพิ่มขึ้น ปัญหาสุขภาพได้รับการแก้ไข 3 เดือนต่อมา หมออนุญาตให้พ่อแม่พาทารกน้อยกลับบ้านในเวสต์ลอนดอน และตอนนี้ ดีแลนมีอายุ 2 ขวบ สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์น่ารักน่าชังเหมือนเด็กวัยเดียวกันทั่วไป (http://pics.manager.co.th/Images/551000010917902.JPEG) “เราจะเก็บรักษาภาพนั้นไว้ตลอดชีวิต” แอนนาเล็กซ์ วัย 33 ปี ที่เปิดบริษัทออกแบบร่วมกับสามีบอก “มันเป็นเสี้ยววินาทีที่ลูกบอกเราว่าเขาจะสู้และผ่านพ้นไปให้ได้” แรกทีเดียว แอนนาเล็กซ์ตั้งท้องฝาแฝด ทุกอย่างราบรื่นดีจนกระทั่ง การสแกนในสัปดาห์ที่ 21 จึงพบว่าฝาแฝดคนที่ 2 หัวใจหยุดเต้น 6 สัปดาห์ต่อมา แอนนาเล็กซ์คลอดก่อนกำหนด เพราะฝาแฝดคนที่ 2 เคลื่อนลงมาอยู่ที่ช่องคลอด ดีแลนตามออกมาไม่กี่นาทีให้หลัง ด้วยน้ำหนักตัว 1 ปอนด์ 9 ออนซ์ (0.86 กิโลกรัม) แพทย์ต้องช่วยชีวิต และรีบนำทารกน้อยเข้าห้องไอซียูทันที ดีแลนยังต้องรับการถ่ายเลือดอีกหลายครั้ง “ทั้งราล์ฟและฉันกลัวว่าจะต้องเสียเขาไป เพราะเขาคลอดก่อนกำหนด แถมตัวยังเท่าลูกนก มันน่ากลัวมากที่เห็นเขานอนโดยมีท่อและสายระโยงระยางไปหมด” หลังจากดีแลนเริ่มดีขึ้น พ่อแม่ได้รับอนุญาตให้กอดลูกน้อยครั้งแรก “ตัวเขาเบามากจนฉันแทบไม่รู้สึกว่ามีอะไรอยู่ในอ้อมแขน แต่เขาแข็งแรงขึ้นทุกวัน หมอค่อยๆ ถอดท่อและอุปกรณ์ต่างๆ ออกจนในที่สุดเขาสามารถอยู่รอดด้วยตัวเอง ช่างน่าอัศจรรย์มาก” ราล์ฟและแอนนาเล็กซ์หยิบรูปที่ถือเป็นสมบัติล้ำค่าของครอบครัวมาให้ดีแลนดูบ่อยๆ “เขาจะชี้และบอกว่านั่นมือเขาอยู่ในมือแม่ วันหนึ่งเราจะอธิบายให้เขาฟังว่า ภาพนี้สำคัญต่อเราอย่างไร เราจะบอกเขาว่าในช่วงเวลาที่เราสิ้นหวังที่สุด เขาได้ส่งสัญญาณแห่งความหวังให้เรา “คงไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเขาเริ่มต้นชีวิตมาอย่างทรหดอดทนถึงเพียงนั้น” ที่มา : http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000101133 เด็กทารกเขายังสู้เพื่อมีชีวิตรอดเลยนะคะ เราแค่ตั้งใจเรียน อ่านหนังสือ เพื่ออาชีพที่ฝันใฝ่ อ่านข่าวนี้แล้ว ไม่ยากเลยใช่มั้ยคะที่จะอดทนเพื่อความสำเร็จ สู้ๆนะจ๊ะ ลูก...เป็นความชื่นใจของพ่อแม่เสมอ : Re: สู้เพื่อแม่ : N'PLOY August 31, 2008, 05:33:54 PM :D
ขอบคุนค่ะพี่พิม |