Kru Somsri's English School

ห้องพักผ่อน พักเหนื่อยกับคุณครูสมศรี => ข้อคิดสะกิดใจจากคุณครูสมศรี => : คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! August 19, 2008, 11:22:36 AM



: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! August 19, 2008, 11:22:36 AM
 ทำไงดีคะคุณครู หนูอ่านหนังสือได้ไม่นานก็ง่วงนอนทุกทีเลย แย่มากเลยค่ะ
? เมื่อ: สิงหาคม 17, 2008, 03:15:52 PM ?     

--------------------------------------------------------------------------------
ทำไงดีคะคุณครู หนูอ่านหนังสือได้ไม่นานก็ง่วงนอนทุกทีเลย เซ็งตัวเองมากๆ
อีกไม่นานก็จะสอบแล้ว
หนูยังอ่านได้ไม่เต็มที่เลยค่ะ
 

ช่วงนี้ไม่ได้เรียนกับคุณครูสมศรี
คิดถึงคุณครูจังเลยค่ะ   





คุณครูตอบว่า


ถ้าเราวางจุดหมาย

แบ่งเวลาพักเป็น

กำหนดปริมาณงานต่อหนึ่งการนั่ง

เมื่อถึงเวลาที่กำหนด

ก็แถมให้อีกสักนิด

แล้วค่อยลุกไปพัก

ทำแบบนี้ซ้ำๆ เดี๊ยวก็ติดเป็นนิสัยค่ะ

ถ้าไม่ฝึก ไม่ฝืน  แล้วเมื่อไหร่จะชนะกิเลสล่ะคะหนูๆ

สู้สิคะ

แค่นี้ยังไม่เท่า 6480 ชั่วโมงที่แม่แบกเราอย่างต่อเนื่องจนคลอดเลยนะ

ลองเทียบกันดูสิลูก

ฮึกเหิมแล้วยังคะ

งั้น...สู้สุดชีวิตเลยนะ

คุณครูคอยให้กำลังใจอยู่นะคะ



: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: N'PLOY August 21, 2008, 11:41:02 AM
 :D

ขอบพระคุณค่ะคุณครู


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: namajung August 26, 2008, 08:08:09 PM
หนูจะสู้เพื่อแม่คะ  คุณครู


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: PRAEWSMILE August 26, 2008, 11:54:26 PM
ค่ะ!

ขอบคุณมากๆค่ะ
=]


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: Gigiie September 11, 2008, 07:45:09 PM
ขอบคุณค่าคุณครู  ^^


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: destroy & develop September 14, 2008, 06:43:52 PM
ขอบคุณมากครับคุณครูสุดสวย  ที่นำข้อความดีๆมาให้อ่านครับ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: *Marie* September 15, 2008, 05:27:04 PM
ขอบคุณค่ะคุณครู หนูพยายามแบ่งเวลาอยู่ จะทำให้ได้ค่ะ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: lB a d t z_m a r u September 23, 2008, 07:23:32 PM
อ่านแล้วมีไฟขึ้นเยอะเลย


ขอบคุณครูมากนะคะ


อีกเดือนกว่าๆ จาสอบความถนัดแร้ว


สู้ตายค่า ~


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: PieK_PorN October 15, 2008, 10:16:57 PM
รักครูสมศรีจัง  ^^

หนูจะตั้งใจอ่านหนังสือค่ะ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: Boom_2536 October 15, 2008, 11:16:25 PM
ขอบคุณครูมากๆเลยนะคะ
สู้ค่ะ


: คุณครูช่วยพ่อของหนูหน่อยนะคะ
: primmyka January 07, 2009, 10:26:21 PM
การบเรียนคุณครูที่เคารพค่ะ


วันนี้เป็นวันที่หนูได้เปิด veb ของครูและสมัครเป็นสมาชิกวันแรกค่ะ เพราะในปิดเทอมที่จะถึงนี้หนูต้องขึ้นกรุงเทพไปเรียนพิเศษค่ะ ไปอยู่บ้านของป้า  เพื่อนหนูที่เคยเรียนมาบอกว่าครูสอนดีค่ะ  หนูเลยมาดูว่ามีเรียนอะไรบ้าง  แต่หาเวลาลงไม่ได้เพราะหนูลงเรียนคอร์สอื่นๆไว้แล้ว  หนูดูไปเรื่อยๆจนมาเจอที่นี่แหละค่ะ  ครูรู้ไหมคะว่าหนูทึ่งมากเลยกับความคิดของครูบวกกับธรรมะที่สอนเด็กไปได้ในเวลาเดียวกันซึ่งเรียนวิชาพระพุทธในโรงเรียนสำหรับบางคนก็น่าเบื่อแต่ครูมีวิธีที่ทำให้เด็กมีความสุขในคำสอนของครูเช่นหนูเลยค่ะ  หนูเจออะไรที่เป็นบทความที่น่าเก็บไว้ก็ก็อบมาปริ้นเลยค่ะ  และส่งให้เพื่อนๆของหนูด้วย  หนูคิดวามันเป็นประโยชน์มากๆเลย เข้าเรื่องเลยนะคะ  ที่บ้านของหนูมีอาชีพค้าขาย ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดีเลยต้องรัดเข็มขัดกันสุดๆ   ร้านของพ่อก็โดนไปด้วย  ยอดขายตกลง บวกกับกำลังสร้างบ้านพ่อเลยเครียดค่ะ  ซึ่งตัวหนูเองก็เป็นเด็กดีของครอบครัว ตั้งใจเรียนและ เป็นลูกที่ดีมาตลอด พ่อเครียดกับเรื่องที่บอกไปข้างต้น แต่พ่อก็เข้าวัดถือศีลค่ะ ไปทำบุญ  บวชธุดงค์กับแม่ที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี วึ่งตรงนี้หนูก็ซึมซับจากพ่อแม่มาด้วย ไม่ทราบว่าครูรู้จักหรือเปล่าคะ พ่อรู้คำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างดีแต่ทำไมพ่อถึงไม่ปล่อยวางเลยคะ ซึ่งครูปล่อยวางได้ดีกว่าอีก เพราะพ่อเป็นเสาหลักของครอบครัวใช่ไหม  เลยเก็บไปเครียดคนเดียว บางครั้งหนูไม่รู้เลยด้วยซ้ำวาพ่อเครียดอะไร  แม่ก็บอกให้พ่อปลอยวางบ้าง บางครั้งอารมณ์ก็ขึ้นๆลงๆ แม่บอกว่าที่พ่ออยู่ในช่วงวัยทองเยเป็นแบบนี้ ซึ่งหนูก็เข้าใจค่ะ หนูก็เคยบอกพ่อว่า "พ่อ บางครั้งถ้าเครียดๆไม่รู้จะพูดกับใครก็ลองเขียนใส่สมุดเป็นไดอารี่ดูว่าวันๆนึงพ่อทำหรือเครียดอะไรบ้าง อยากเขียนอะไรเขียนไปเลย มันช่วยให้พ่อหายเครียดได้ครึ่งนึงเลยนะ" ที่หนูแนะนำพ่อไปอย่างนี้เพราะอ่านเจอในนิตยสารเล่มหนึ่งมาค่ะว่าวิธีนี้ช่วยระบายความเครียดได้ แต่ครูใช้วาดรูปใช่ไหมคะพอดีหนูอ่านเจอมาที่ครูตอบคำถามเด็กอ่ะค่ะ

สุดท้ายหนูอยากจะรบกวนอาจารย์ว่าพอจะมีคำสอนหรือข้อคิดดีๆมาช่วยเตือนพ่อซักนิดนึงหน่ะค่ะ หนูจะปริ้นไปให้พ่ออ่านด้วย หนูกลัวว่าถ้าพ่อเครียดมากๆจะทำลายสุขภาพกายและใจของพ่อ หนูยังอยากอยู่กับพ่อนานๆค่ะ 

กราบขอบพระคุณคำตอบล่วงหน้านะคะ


สวัสดีค่ะ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! January 08, 2009, 01:06:31 PM
หนูสามารถเขียนที่อยู่ให้คุณครูนะคะ

แล้วคุณครูจะจัดส่งแก่นธรรมไปให้คุณพ่อ

ตัวหนูเองก็อย่างเพิ่งคาดหวังว่าเราจะเปลี่ยนใครได้นะลูก

งูพิษนั้นมีพิษอยู่ในตัว แต่พิษกลับไม่เคยทำลายอสรพิษเลย



ก่อนที่คุณพ่อจะปล่อยวาง หนูควรเริ่มศึกษาธรรมะก่อนนะลูก

ธรรมะไม่ได้มาจากการอ่าน หรือการฟัง

แก่นคำสอนของพระพุทธองค์คือ "ดับทุกข์"


แม้เราจะอยู่ท่ามกลางกระแสแห่งความวุ่นวาย

แม้พายุร้ายที่หมุนสะบัด แต่ใจกลางพายุกลับนิ่งสงบ


เปลี่ยนความฟุ้งทางความคิดให้เป็น"การเห็น"หรือรู้เท่าทันแทน

การเห็นจะทำได้ต้องเริ่มจากนำสิ่งหนึ่งมาจูงจิตให้พลิกความคิดไปเป็น"การรู้สึกตัว"

อธิบายไม่จบในบอร์ดนี้ เพียงกระทำบ่อยๆ เนืองๆจนเป็นลูกโซ่ที่คล้องติดกันอย่างต่อเนื่อง จึงจะเห็น"สภาวะธรรม"

กลั่นเป็นภาษาได้ยาก แต่ง่ายต่อการสัมผัสเมื่อเราลงมือกระทำ


ถ้าชอบท่องมนต์ ถ้าชอบรำลึกถึงพระคุณสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าชอบการเคลื่อนไหว ฯลฯ

ก็สามารถกระทำได้ตามสภาวะที่ชอบของจิต เหมือนหลอกให้ติดในการฝึกสติ แล้วต้องตบเข้าถึงตัวธรรมในภายหลัง



ธรรมะ ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเราขยันเจริญ หรือทำให้มากขึ้นทุกวัน

แม้คิด ก็อย่ากลัวความคิด เพราะนั่นก็คือหนึ่งในสภาวะธรรมของการมีตัวตนที่กอรปขึ้นมาเป็นตัวเรา


ปฏิบัติธรรมไม่ควรหวังผล

และผลที่ได้ก็ไม่ใช่อภินิหารอะไร


ผู้ที่เห็น"ธรรม" จึงขึ้นชื่อว่า "เห็นพระพุทธองค์"

แสดงว่า พระพุทธองค์ทรงปรากฏอยุ่ในเราทุกคนที่พร้อมจะ"เห็น" แต่ไม่ใช่พร้อมจะ"เป็น"


ทุกรอยเท้าจึงจบลงที่รอยเท้าช้าง สัตว์ที่ใหญ่ที่สุด

ธรรมะทั้งผองจึงจบลงที่การมี"สติ"


เมื่อ"สติ"เฉีบยบคมมากก็จะกลายเป็น"มหาสติ" อันนำไปสู่การลดทุกข์

จนในที่สุดทุกข์ก็ไม่สามารถเข้ามายึดครองเนื้อนาบุญของเราได้

เพราะเรามียามคือ"สติ"ขวางทางไว้อย่างแน่นหนาและมี"ปัญญา"คอยไล่ล่าดักกันให้พ้นไปอีกหนึ่งด่าน


คุณครูขอขอบคุณที่หนูได้ทิ้งข้อความที่กระตุ้นให้คุณครูได้นำส่วนหนึ่งของมวลประสบการณ์มาถ่ายทอดให้หนูได้ฟัง


ส่งที่อยู่มานะคะ

เราจะได้ช่วยให้สังคมนี้เป็นสังคมที่น่าอยู่

เริ่มต้นง่ายๆที่"บ้าน"ของเรา

ยินดีช่วยเหลือค่ะ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: NaxKunGz January 10, 2009, 09:17:05 PM
ขอบคุณมากเลยครับ

ที่หั้ยวิธีการอ่าน

ถึงแม้ผมจะรู้ช้าไปหน่อย

แต่ผมคิดว่าคงไม่น่าจะสายเกินไปนะครับ

เพราะ กุมภาฯ นี้ ผมต้องสอบ

O-Net และ A-Net ละครับ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: ไปเจอมา January 12, 2009, 12:05:30 PM
27 ตุลาคม
บทความดี ของครูสมศรี
ก่อนที่เราจะหยิบหนังสือ ถ้าเราคิดว่า เราไม่พร้อม ยังไม่ทันอ่านเลย สมองก็ปฏิเสธ เนื้อหาในหนังสือแล้ว พออ่านได้สักหน่อย ก็เกิดวิญญาณดำเข้ามาสิงในความคิดพร้อมสั่งการว่าา " อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง พอดีกว่า " ว่าแล้วก็หยิบการ์ตูนขึ้นมาอ่าน
    ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เด็กกลุ่มดังกล่าว เรียนหนังสือด้วย " หน้าที่ " มิใช่ด้วย " ฉันทะ " เรียนตามหน้าที่ คือสักแต่ให้ได้เรียน ให้ได้จดตามอาจารย์ พอจบชั่วโมง ก็ไม่เคยคิดที่จะหยิบขึ้นมาทวน ใกล้สอบก็ค่อยอ่าน เพราะพวกเรียนตาม " หน้าที่ " ต้องการจะเรียนเพื่อสอบให้ผ่าน หรือได้คะแนนดี หารู้ไม่ว่า " คะแนน " คือมายาตัวหนึ่ง ซึ่งบางครั้งหลอกให้เราขยัน หลอกให้เราหายุทธวิธี แผนการที่ไม่บริสุทธิ์ หรือแม้แต่พยายามลอกข้อสอบ เพียงเพื่อ " คะแนน " ฉะนั้นเด็กกลุ่มนี้จะไม่ขยันเลย ถ้าไม่มี " คะแนน " หรือ " การสอบ " มาล่อให้อ่านหนังสือ
    ผิดกับพวกที่ เรียนด้วย "ฉันทะ" หรือ "ความรัก" รักในบิดา มารดา รักในชีวิต รักที่จะสร้างพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อไปในอนาคต นักเรียนกลุ่มนี้รักการอ่าน เพราะ ถ้าเขาอ่าน เขารู้ว่าเขาจะได้ความรู้ และ คะแนนคือตัวประเมินสิ่งที่อ่าน และจดจำมา ในการอ่าน แม้นเด็กเหล่านี้จะได้คะแนนไม่ดี แต่สิ่งที่จะติดตัวพวกเขาไปคือ " ความเพียรพยายาม การรู้จักประเมินตน แก้ไข และปรับปรุง " แม้นไม่เป็นเลิศทางวิชาการ แต่หาลดละความพยายามไม่ เด็กกลุ่มนี้อาจถูกกลุ่มแรกสบประมาทว่า " ควาย " " เรียนหนังสืออย่างบั่กอึ้ด " สู้พวกเขาไม่ได้ ใกล้สอบอ่านยังทันเลย หารู้ไม่ว่าเป็นการหล่อหลอมพฤติกรรม " ขายผ้าเอาหน้ารอด " ไว้กับตัว 
    สังคมจะเป็นอย่างไร ถ้ามีเยาวชนมากๆ ลุกขึ้นมาศึกษาหาความรู้ เพราะความใฝ่รู้ อยากตอบคำถามทางวิชาการที่ปลุกเร้ากระบวนการในการให้ได้มาซึ่งคำตอบ คำตอบที่ถูกหรือผิดอาจไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ที่สำคัญ การบ่มเพาะนิสัย ผู้ชนะแห่งจิตใจของตน
    หรือสังคมจะเป็นเช่นไร ถ้าเยาวชนส่วนใหญ่ต่างหาความรู้ เพียงเพื่อการสอบ เมื่อเทศกาลเหล่านี้หมดไป ก็ใช้ชีวิตอย่างประมาท
    อุปมาดั่งคำภาษิต "ฝนทั่งให้เป็นเข็ม" บางคนหัวเราะ แล้วบอกว่า ทั่งไม่มีทางเป็นเข็มได้หรอก แต่ภาษิตนี้ อาจใช้ย้อมใจ คนที่ไม่ใช่เป็น "ไอ้ขี้แพ้" เพื่อเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจว่า " ทั่งยังกลายเป็นเข็มได้ด้วยความเพียร แล้วนับภาษาอะไรกับการเรียนที่ดูจะง่าย และเป็นไปได้มากกว่า มันก็ต้องสำเร็จได้ด้วยความเพียรด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะความเพียรที่ประกอบด้วยปัญญา " 
    ศิลปะของการก้าวไปสู่ความสำเร็จที่สำคัญก็คือ การฝืน หยุด หรือเลื่อนกิจกรรมที่ไม่สำคัญ ในตอนนี้ และ เพียรอย่างไม่ลดละความพยายามเพื่อความสำเร็จ หรือแปลง่ายๆว่า "การทำให้เสร็จ" ในแต่ละวัน อย่าเป็น " ไอ้ขี้แพ้ " ที่ตั้งใจจะอ่านหนังสือ แต่เพราะ ขาดความเพียร จึงยอมตกเป็นทาสของ "ความสนุก" โดยไม่ได้คำนึงถึง "ปัจจัยทางเวลา" ที่ส่งผลกระทบต่อเราแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว

                         ลุกขึ้นต่อสู้สู่ฝัน อดทนเพียรทำเพื่อความสำเร็จเถิดคะเด็กๆ
                                                คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ
                                             (เขียนเมื่อ 14 กรกฏาคม 2543) 
17:57 | ดูการติดตามข้อมูล (0) | จัดทำบล็อก



27 ตุลาคม
บทความดี ของครูสมศรี
ก่อนที่เราจะหยิบหนังสือ ถ้าเราคิดว่า เราไม่พร้อม ยังไม่ทันอ่านเลย สมองก็ปฏิเสธ เนื้อหาในหนังสือแล้ว พออ่านได้สักหน่อย ก็เกิดวิญญาณดำเข้ามาสิงในความคิดพร้อมสั่งการว่าา " อ่านไปก็ไม่รู้เรื่อง พอดีกว่า " ว่าแล้วก็หยิบการ์ตูนขึ้นมาอ่าน
    ที่เป็นเช่นนี้เพราะ เด็กกลุ่มดังกล่าว เรียนหนังสือด้วย " หน้าที่ " มิใช่ด้วย " ฉันทะ " เรียนตามหน้าที่ คือสักแต่ให้ได้เรียน ให้ได้จดตามอาจารย์ พอจบชั่วโมง ก็ไม่เคยคิดที่จะหยิบขึ้นมาทวน ใกล้สอบก็ค่อยอ่าน เพราะพวกเรียนตาม " หน้าที่ " ต้องการจะเรียนเพื่อสอบให้ผ่าน หรือได้คะแนนดี หารู้ไม่ว่า " คะแนน " คือมายาตัวหนึ่ง ซึ่งบางครั้งหลอกให้เราขยัน หลอกให้เราหายุทธวิธี แผนการที่ไม่บริสุทธิ์ หรือแม้แต่พยายามลอกข้อสอบ เพียงเพื่อ " คะแนน " ฉะนั้นเด็กกลุ่มนี้จะไม่ขยันเลย ถ้าไม่มี " คะแนน " หรือ " การสอบ " มาล่อให้อ่านหนังสือ
    ผิดกับพวกที่ เรียนด้วย "ฉันทะ" หรือ "ความรัก" รักในบิดา มารดา รักในชีวิต รักที่จะสร้างพื้นฐานของความรับผิดชอบต่อไปในอนาคต นักเรียนกลุ่มนี้รักการอ่าน เพราะ ถ้าเขาอ่าน เขารู้ว่าเขาจะได้ความรู้ และ คะแนนคือตัวประเมินสิ่งที่อ่าน และจดจำมา ในการอ่าน แม้นเด็กเหล่านี้จะได้คะแนนไม่ดี แต่สิ่งที่จะติดตัวพวกเขาไปคือ " ความเพียรพยายาม การรู้จักประเมินตน แก้ไข และปรับปรุง " แม้นไม่เป็นเลิศทางวิชาการ แต่หาลดละความพยายามไม่ เด็กกลุ่มนี้อาจถูกกลุ่มแรกสบประมาทว่า " ควาย " " เรียนหนังสืออย่างบั่กอึ้ด " สู้พวกเขาไม่ได้ ใกล้สอบอ่านยังทันเลย หารู้ไม่ว่าเป็นการหล่อหลอมพฤติกรรม " ขายผ้าเอาหน้ารอด " ไว้กับตัว 
    สังคมจะเป็นอย่างไร ถ้ามีเยาวชนมากๆ ลุกขึ้นมาศึกษาหาความรู้ เพราะความใฝ่รู้ อยากตอบคำถามทางวิชาการที่ปลุกเร้ากระบวนการในการให้ได้มาซึ่งคำตอบ คำตอบที่ถูกหรือผิดอาจไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ที่สำคัญ การบ่มเพาะนิสัย ผู้ชนะแห่งจิตใจของตน
    หรือสังคมจะเป็นเช่นไร ถ้าเยาวชนส่วนใหญ่ต่างหาความรู้ เพียงเพื่อการสอบ เมื่อเทศกาลเหล่านี้หมดไป ก็ใช้ชีวิตอย่างประมาท
    อุปมาดั่งคำภาษิต "ฝนทั่งให้เป็นเข็ม" บางคนหัวเราะ แล้วบอกว่า ทั่งไม่มีทางเป็นเข็มได้หรอก แต่ภาษิตนี้ อาจใช้ย้อมใจ คนที่ไม่ใช่เป็น "ไอ้ขี้แพ้" เพื่อเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจว่า " ทั่งยังกลายเป็นเข็มได้ด้วยความเพียร แล้วนับภาษาอะไรกับการเรียนที่ดูจะง่าย และเป็นไปได้มากกว่า มันก็ต้องสำเร็จได้ด้วยความเพียรด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะความเพียรที่ประกอบด้วยปัญญา " 
    ศิลปะของการก้าวไปสู่ความสำเร็จที่สำคัญก็คือ การฝืน หยุด หรือเลื่อนกิจกรรมที่ไม่สำคัญ ในตอนนี้ และ เพียรอย่างไม่ลดละความพยายามเพื่อความสำเร็จ หรือแปลง่ายๆว่า "การทำให้เสร็จ" ในแต่ละวัน อย่าเป็น " ไอ้ขี้แพ้ " ที่ตั้งใจจะอ่านหนังสือ แต่เพราะ ขาดความเพียร จึงยอมตกเป็นทาสของ "ความสนุก" โดยไม่ได้คำนึงถึง "ปัจจัยทางเวลา" ที่ส่งผลกระทบต่อเราแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว

                         ลุกขึ้นต่อสู้สู่ฝัน อดทนเพียรทำเพื่อความสำเร็จเถิดคะเด็กๆ
                                                คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภณ
                                             (เขียนเมื่อ 14 กรกฏาคม 2543) 
17:57 | ดูการติดตามข้อมูล (0) | จัดทำบล็อก


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: o.Obookka January 16, 2009, 10:57:46 PM
สู้ตายเลยเนี่ย!!
รั๊กครู ;D


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: boss April 05, 2009, 08:26:56 PM
สู้เพื่อตัวเองและเพื่อความภูมิใจของพ่อแม่


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: Dorapear April 06, 2009, 11:25:54 AM
บางครั้งกลับมาหนูก็สับสนกับตัวหนูเอง ว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้

มีคนเคยบอกหนูว่า คนเราเกิดมา

เพื่อ แสวงหาความสุขที่แท้จริงของชีวิต

แต่ต้องเริ่มจากการเรียน ตั้งใจเรียนเพื่ออนาคตจะได้มีอนาคต

ทางการงานที่ดี

แต่ยางครั้งชีวิตขิงตัวหนูก็มีปัญหามากมาย

ทั้งเรื่องเรียน หนูสับสนว่าตกลงสายไหนในม.ปลาย

ที่หนูควรจะเลือกเรียน

ซึ่งจะมีผลต่ออาชีต อนาคต ทางการเรียน

และการงานนของหนู

อีกทั้ง

ยังมีเรื่องคอบครัว

ที่หนูเข้าไปเจอรูปโดยบังเอิญ

รวมทั้ง

เรื่องเพื่อนสนิทของหนู

เค้าไม่ชอบหนู

เพราะว่า

เค้าบอกว่า

หนูโทรไปหาเค้าแล้วพูดเหมือนกับว่า

หนูพบายามเรียนแล้วแต่ได้ไม่เท่าเค้า

หนุไม่เคยคิดแบบยั้น

เคยพยายามอธิบายแล้ว

แต่เค้าไม่ยอมฟัง

แล้วหลังจากนั้น

ความเป็นเพื่อนที่เคยมีมา

ในกลุ่มเดียวกัน

ก็ลดลง

บางครั้ง

เวลาเรียน

อ่านหนังสือ

ทบทวนบทเรียน

เรื่องเหล่านี้เข้ามาวนเวียนในสมองและจิตใจ

มันส่งผลต่อสุขภาพจิต และสุขภาพกายของหนู

หนุสับสนมากเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

สำหรับพื่นที่ในบอร์ด

ที่ให้หนูได้ระบายค่ะ

ขอบคุณคุณครูสมศรีค่ะ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: Kamingajii May 11, 2009, 11:29:34 PM
ฟิตโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!!


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: INDY May 12, 2009, 09:43:28 AM
ขอบคุณค่ัะ สำหรับเทคนิดดีดี


?ร๊กคุณครู(คนสวย)


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: K0K May 14, 2009, 10:33:03 AM
สู้ๆสู้ตาย...ย??

รักครู


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: Dorapear May 14, 2009, 11:21:04 AM
ขอบคุณค่า


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: J-crow May 14, 2009, 05:49:20 PM
สู้ๆๆ สู้ตาย!!!!!

^^


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: &(%$%#$)(*&^%$^&*(* [ME] May 14, 2009, 05:59:22 PM
ไฮ๊!!!!!!!!!!!!!!!!


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: fluteGirl May 18, 2009, 09:27:35 PM
ครูขา  ..  หนุก็เป็นคะ  แต่ทุกครั้งที่หนูขี้เกรียจ หนู เห็ฯหน้า พ่อกับแม่ เวลาท่านทำงานขึ้นมาทุกทีเลย เพราะบ้านหนูไม่ได้ร่ำรวยมาก  และอีกสิ่งหนึ่งคือ คุณครูสมศรีนี่แหละค่ะ หนูเรียนวิดิโอ แต่ทุกครั้งที่ครูเตือน หนูก็ได้สติขึ้นมาทันทีเลย  หนูไม่ได้เรียนกับคุณครูแล้ว (สาขาขอนแก่น --- อุบลฯไม่มีอ่า) คิดถึงคำเตือยสติของคุณครูจังเลยค่ะ    ยังไงหนูก็จะสู้  ครูเป็ฯกำลังใจให้หนูด้วยนะคะ


ขอบคุณคุณครูมากค่ะ


ส้มโอ  *-*


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: Bell_SFC May 21, 2009, 04:13:55 PM
รักครูสมศรีมากเลยครับที่เป็นเหมือนแม่อีกคนที่ช่วยเตือนเมื่อเราเคลิ้มไปกับสิ่งที่จะหยุดเราไป


Bell_SFC


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: ลูกศิษย์ที่เคารพครุ August 12, 2009, 08:19:42 PM
สวัสดีค่ะครู คือหนูไม่รู้จักครูหรอกนะคะหนูเข้ามาเว็บนี้เพราะความบังเอิญแต่ครูรู้หรื่อเปล่าคะว่าทำให้หนูมีกำลังใจในการเรียนมาก[ขึ้นเพราะช่วงนี้คะแนนหนูตกมากๆเลยค่ะเพราะช่วงนี้หนูติดเกมส์แล้ววิชาคณิตศาสตร์ก็จะทดสอบเวลาจบบทแล้วและหนูเรียนทั้งคณิตศาสตร์พื้นฐานและเพิ่มเติมและคะเเนนหนูไม่ดีเลยเพราะหนุติดเกมส์หนูรู้สึกท้อมากเลยค่ะเพราะช่วงที่ติดเกมส์ก็ไม่ได้ทำงานส่งเลยแต่ตอนนี้คะแนนออกมาในเทอมแรกหนูคะเเนนไม่ค่อยดีเลยค่ะหนูก็เริ่มปรับปรุงตัวเองแล้วนะคะหนูพยายามมากจนเกิดเป็นความเครียดและกดดันจนเพื่อนทักว่าหนูเปลี่ยนไปจากที่เคยร่าเริงก็กลายเป็นเย็นชาไปเลยค่ะเพื่อนก็เลยเตือนให้หนูอย่าเครียดเกินไปหนูพยายามแล้วนะคะพยายามไม่เย็นชาแต่ทำไม่ได้แล้วค่ะตอนแรกหนูกลัวมากเลยค่ะตอนที่หนูได้คะแนนน้อยกลัวพ่อกับแม่จะเสียใจแต่ตอนคะแนนออกมาพ่อกับแม่บอกว่าไม่เป็นไรเทอมหน้ามีเริ่มใหม่ก็ได้หนูก็เริ่มหายเครียดแล้วค่ะเเต่ตอนนี้หนูมีปัญหาค่ะครูคือตอนนี้หนูเรียนแล้วไม่ค่อยเข้าใจเลยค่ะหนูลองไปถามครูคุยกับครูส่วนตัวก็ไม่เข้าใจเลยค่ะหนูลองกลับมาทบทวนลองถามเพื่อนหนุก็ไม่เข้าใจเลยค่ะหนูควรทำยังไงดีคะครู  รักและเคารพนะคะ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: yaryajung September 26, 2009, 10:28:50 PM
ยิ่งอ่าน
ยิ่งมีกำลังใจ

ฮึบ !
สู้โว่ยยยย !!!
>O<


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: phetkaploy September 28, 2009, 09:24:53 PM
หนูจะสู้ ๆๆๆๆๆ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: AuMeen_Kru Somsri January 15, 2010, 11:36:40 AM
ขอบคุณค่ะ คุณครู

ร๊ากกกกครูสมศรีที่สุด


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: lollipoplover February 17, 2010, 06:52:53 PM
ขอบคุณค่ะคุณครู....อ่านแล้วฮึด....ฮึดแล้ก็ไปอ่านหนังสือต่อ

ปิดเทอมนี้เจอกันที่สยามนะคะคุณครู^^


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: Rungung February 18, 2010, 07:38:50 PM
ค่ะ หนูจะสู้ต่อ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: FaFaFreedom February 19, 2010, 10:32:54 PM
 ;)


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: ลูกศิษย์ทางไกล March 13, 2010, 09:24:43 PM
ถึงคุณครูสมศรี

สวัสดีค่ะคุณครูสมศรี สิ่งที่หนูจะกล่าวต่อไปนี้ เป็นความคิดที่อยู่ในใจของหนู ...หนูโชคดีที่ได้มาเรียนกับคุณครู
จากที่ไม่คิดจะท่องศัพท์ เพราะคิดว่า ท่องไปก็ไม่มีวันหมด
ตอนนี้ ...เวลาว่าง หนูเอาศัพท์ของคุณครูมาท่องเสมอ ๆ
เพราะได้แรงบันดาลใจมาจาก "การพบศัพท์ของคุณครูตอนทำข้อสอบ"
...เฮ่ย ! ศัพท์นี้ท่องมาตรงด้วยอ้ะ...  ตอนนั้น หนูก็นึกถึงคำพูด ๆ หนึ่ง
...ท่องเลยลูก ท่องสักหน่อย ถ้าท่องก็ยังเจอในข้อสอบบ้าง ถ้าลูกไม่ท่อง ลูกจะ ไม่เจอ ไม่รู้ความหมายศัพท์สักคำในข้อสอบเลยนะ... ...นี่เป็นคำพูดของคุณแม่หนูเอง คุณแม่พูดไว้เมื่อนานมาแล้วหนูเพิ่งจะเข้าใจ หนูโง่จริง ๆ
...จากที่ดำผุดดำจมกับ Reading
ตอนนี้ Reading เป็น part ทีหนูทำคะแนนได้ดีที่สุดในข้อสอบภาษาอังกฤษ
เพราะจดจำวิธีของคุณครูที่สอนในห้องมาใช้ เช่น ให้เดาความหมายของศัพท์แปลก ๆ ว่า "แมว" ไปก่อน อยากน้อยก็ได้แปล เป็นต้น
หนูชอบนะคะ ... อย่างน้อยก็ได้แปล รู้สึกดีมากค่ะ (กับคำว่าแมว ฮ่าๆ พูดเล่นค่า ^^)
หากไม่เข้าใจ Grammar หมวดไหน เรียนจาก รร ไม่เข้าใจ หนูก็จะมาเปิดหนังสือ Lifelong Grammar ที่ได้เรียนมากับคุณครูทบทวนเอา เนื้อหาหนังสือของคุณครูมีครบถ้วนมากเลยนะคะ สมกับชื่อ Lifelong จริงๆเลย ^^ เปิดหาอะไรก็เจอ

...จากที่เรียนอังกฤษแบบขอไปที ตอนนี้ หนูรักวิชาภาษาอังกฤษมาก เป็นเพราะหนูได้มาเรียนกับคุณครู ... วิชาอังกฤษ เป็นวิชาที่หนูรักที่สุด หนูท่องศัพท์ด้วยความรักในวิชา ทำให้หนูไม่ลำบากในการฝืนใจท่องศัพท์เหมือนเมื่อก่อน...

ในเวลานี้ (ขึ้นม.4) เหลืออีกไม่ถึง 3 ปี หนูก็จะสอบเข้ามหาลัยแล้ว...ขอให้คุณครูสมศรีที่รักของหนู เป็นกำลังใจของหนูนะคะ

รักคุณครูค่ะ

จาก...ลูกศิษย์ทางไกล



: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: lazyidle March 20, 2010, 01:55:46 PM
รักคุณครูครับบบ     อ่านแล้วยิ่งเข้มแข็ง


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: JameSmart April 26, 2010, 02:27:56 PM
ขอบคุณมากคร๊าบ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: khonmanrak April 26, 2010, 03:58:31 PM
ขอบคุณครูมากๆเลยครับ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: mm April 26, 2010, 06:10:29 PM
ขอบคุณค่าคุณครู


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: NAN E D02 May 02, 2010, 01:35:29 PM
อบอุ่นจริงๆๆๆ เมื่อได้รู้จักกับครู


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: coffeeprince May 22, 2010, 10:49:49 AM
ขอบคุณค่ะหนูจะทำตามนะคะ


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: Nu*Maiiz May 22, 2010, 07:11:54 PM
ขอบคุณมากๆเลยนะค่ะ ^__^


: Re: อ่านอย่างไรไม่ให้ง่วง
: leeyangshim June 09, 2010, 07:12:34 PM
ขอบคุณค่ะ คุณครูหนูสมัครสมาชิกวันนี้เป็นวันแรกหนูยังไม่เคยได้เรียนกับครูเลยสักครั้ง
หนูเข้ามาในที่แห่งนี้ หนูรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ครูมอบให้ทุกๆคน

ขอบคุณค่ะ จะตั้งใจอ่านหนังสือมากๆค่ะ เพื่อแม่


Sorry, the copyright must be in the template.
Please notify this forum's administrator that this site is missing the copyright message for SMF so they can rectify the situation. Display of copyright is a legal requirement. For more information on this please visit the Simple Machines website.