: คุณครูสมศรี หนูมีเรื่องอยากปรึกษาคะ : u July 15, 2008, 08:34:15 PM สวัสดีคุณครูสมศรีคะ
หนูรู้สึกดีมากๆที่หนูได้เรียนกับครู ครูจะคอยห่วงใยทุกคน สังเกตได้จากแต่ละกระทู้ที่ครูได้ตอบให้กับหลายๆคน คือหนูมีปัญหาคือไม่รู้จะเรียนคณะอะไรอ่าคะ ตอน ม.4หนูมุ่งมั่นมาก จะเป็นหมอให้ได้ แต่พอ ม.5หนูได้มีโอกาสไปงานเปิดรั้วพระมงกุฏซึ่งได้ดูอาจารย์ใหญ่ ได้รู้วิธีการฉีดยา วิธีการเย็บแผล และได้ถามรุ่นพี่ถึงชีวิตหมอ ซึ่งทำให้รู้สึกว่า ถ้าหนูเป็นหมอหนูคงไม่มีความสุข หนูก็เลยมองอาชีพอื่นๆ อยากเป็นทูต เพราะได้เป็นตัวแทนประเทศ ถึงแม้ว่าหนูจะไม่มีความเป็นผู้นำ แต่หนูเป็นคนไม่ค่อยชอบวิชาสังคมเท่าไหร่ และคุยไม่ค่อยเก่งด้วยคะ และอาชีพที่สนใจอีกคือนักกฎหมาย เพราะหนูอยากต่อสู้เพื่อความยุติธรรม แต่หนูก็ไม่ค่อยชอบกฎหมายอีก...คนส่วนใหญ่จะมองว่าหนูน่าจะเหมาะกับหมอ เพราะหนูค่อนข้างขรึม เป็นเด็กบ้าเรียน แทบจะไม่ทำกิจกรรม แต่หนูไมค่อยมีน้ำใจอ่าคะ ก็เลยน่าจะไม่เหมาะกับหมอ - -;; อีกอย่างที่หนูห่วงคือ จบนิติที่ไทยแล้วจะสู้ต่างชาติไม่ได้อะคะ ที่จริงโตไปหนูอยากทำงานที่เกาหลี เพราะหนูเป็นลูกครึ่งเกาหลี เกิดที่โน่น ก็เลยอยากทำงานที่ประเทศบ้านเกิด แต่ไม่รู้จบจากไทยแล้วจะทำงานที่โน่นได้รึเปล่า อาจจะฟังดูเหมือนหนูเป็นคนไม่รักประเทศไทย แต่หนูรักคะ เพราะเป็นประเทศของพ่อ แต่อาจจะเป็นเพราะว่าหนูเกิดที่โน่น และผูกพันกับญาติที่โน่นมากกว่า รู้สึกแปลกๆเหมือนกันที่เอาเรื่องนี้มาปรึกษาครูสมศรี แต่หนูไม่รูจะทำไงดี เพราะบ้านหนูก็ไม่ได้รวย ถ้าไปเรียนต่อเมืองนอกก็ต้องชิงทุนลูกเดียว หรือครูคิดว่าจบจากไทย แล้วไปต่อเมืองนอก แล้วค่อยทำงานที่เกาหลี มันจะเป็นไปได้ไหมคะ... หนูเรียนสายวิทย์คะ แต่ที่ร.ร.ไม่ให้ย้ายสายไปศิลป์แล้วอะคะ ที่จริงหนูก็แอบชอบวิชาวิทย์อยู่เหมือนกัน แต่ถ้าอยู่สายนี้แล้วก็ต้องไปเรียนกวดวิชา เคมีชีวะฟิสิกส์ แล้วสมมุติอนาคตหนูอยากเข้านิติจริงๆแล้ว คราวนี้หนูก็เสียเปรียบเด็กศิลป์ใช่ไหมคะ เฮ้อ ทำไมชีวิตมันซับซ้อนจัง ยากที่จะทำความเข้าใจ...;; แล้วหนูจะทำไงดี... ขอความกรุณาจากอาจารย์สมศรีช่วยตอบคำถามให้หนูด้วยนะคะ ขอร้องนะคะ หนูไม่รู้จะทำไงกับชีวิตตัวเอง ขอบคุณมากๆคะ รักครูสมศรีที่สุดเล้ย : Re: คุณครูสมศรี หนูมีเรื่องอยากปรึกษาคะ : คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! July 16, 2008, 09:10:16 PM ตอบน้องU
ชีวิตไม่ซับซ้อนอย่างที่หนูคิดนะลูก แค่ค้นหาความรัก และความถนัดของตัวเองพบ เส้นทางก็จะลัดสั้นขึ้นนะคะ ลองตัดเรื่องเงินๆทองๆทิ้งแล้วหนูจะพบตัวตนที่แท้จริง บ่อยครั้งที่คนเราทุ่มเทกับคำว่า"เงิน"จนกล้าทำลายความดีของตนเองและของผู้อื่น เพราะลืมนึกถึงความสุขฉับพลันที่เกิดขึ้นทุกขณะของการทำความดี อาชีพทุกอาชีพมีทั้งรวยและจน แต่ความจนและความรวยก็ไม่ได้สอดคล้องกับความสุขเสมอไป ความโลภต่างหากที่ทำลายความสุขและมิตรภาพในสังคมได้ ชีวิตนั้นเรียบง่าย และความเรียบง่ายก็ไม่ต้องแอบอิงเงินทอง ไม่ติดสุข ไม่เร่งเร้า ไม่ทำลายทำร้ายกัน ก่อนจะเลือกเรียน ถ้าพะวงแต่เรื่องรายได้ ความสุขในเนื้องานก็จะหายไป แต่ละวันเมื่อเข้าห้องนอน ไม่ว่าห้องจะใหญ่สักเพียงไหน จะมีคฤหาสถ์สักกี่สิบหลัง เวลานอน ก็ใช่ว่าเท้าของเราจะพาดไปยังคฤหาสถ์หลังอื่นๆได้ อย่างมากดิ้นให้ตายก็ได้แค่ไม่กี่ฟุตที่เตียงถูกออกแบบมา กินให้เกินอิ่มอย่างไร ก็ได้ไม่เกินสองสามจาน คิดถึงความดี และความรักในเนื้องานจะดีกว่านะคะ จบออกมาจะได้ไม่ทุกข์ที่ต้องฝืนทำงานเพื่อการแข่งขันและหาเงินอย่างไร้สุขและเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เพียงอยากสะท้อนให้หนูทราบถึงแก่นแท้ของสัจธรรม คนบางคนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งลาภสักการะแม้จะต้องเบียดเบียนคนอื่นด้วยกาย วาจา ใจ อย่างนั้นกับสร้างอกุศลให้ติดตัวไปเปล่าๆ หันกลับมาหาตัวเอง หาความรู้สึก สุขอิสระที่ไม่ต้องอิงวัตถุฟุ่มเฟือย ครั้นแล้ว หนูก็จะพบความรักแท้ๆในอาชีพที่จะผุดขึ้นมาให้หนูได้ชื่นชม ดึงความรักและความถนัดของหนูออกมาใช้ให้สุดศักยภาพ แล้วหนูจะทราบว่า หนูสามารถรังสรรค์งานได้มากมายโดยใช้จินตนาการของตนเอง ไม่ต้องไปคอยลักคอยขโมยความรู้ความคิดของผู้อื่นมาทำมาหากิน จนทำให้ตนต้องขาดศรัทธาและขาดศีลธรรมในตัวเอง ลองดูนะคะ ว่าหนูมีความรักและความถนัดอะไร อย่าเดินทางอ้อมเลยนะคะ เพราะจะกลายเป็น"การศึกษาหมาหางด้วน"เหมือนที่ท่านพุทธทาสเมตตากล่าวเตือนพุทธชนอย่างเราๆ โชคดีค่ะ และขอให้ค้นพบได้ในเร็ววันนะคะ |