: เมื่อเรากิดความทุกข์-ใกล้สอบเอน ขอความกรุณาคุณครู"แนะหนทางสว่างด้วยนะคะ" : ufuggugu June 19, 2008, 06:28:29 PM หนูเรยนอยู่ ม.6 แล้วค่ะคุณครู เรียนกันครูมาแล้วรู้สึกว่านี่แหละครุที่พิเศษของฉัน หนูมีเรื่องอยากระบายค่ะครู หนูมีเพื่อนในกลุ่มอยู่ 3 คน เพื่อนสองคนนี้เป้นเพื่อนที่เคยเรียนกับหนูมาแต่ทั้งสองคนนี้ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เมื่อเราได้มาอยู่ห้องเดียวกัน ก็สนิทกันแล้วบางทีเขาทั้งสองก็สนิทกันจนลืมหนู บางทีหนุต้องเดินตามพวกเขา หรือบางทีมีอะไรอีกคนก็มักจะแคร์อีกคนหนึ่งมากกว่าที่จะแคร์หนู บางทีหนูก็รู้สึกน้อยใจ ที่ไม่ค่อยเห็นความสำคัญ หนูให้คำปรึกษาและทำดีกับเพื่อน แต่บางทีก็ไม่ค่อยเห็นความสำคัญ ครูบอกหนูหน่อยได้ไหมคะ เราควรคิดอย่างไรให้ไม่ทุกข์ ถ้ามีเพื่อนที่เราสนิท แต่กลับอิจฉาเราอยู่ลึกๆ เวลาเราอ่านหนังสือก็กลับว่าเรา บางทีก็ไม่เห็นความสำคัญของเรา หนูอยากเอนติด แต่ไม่อยากเครียดเรื่องเหล่านี้เลย ขอคำปรึกษาคุณครูอีกเรื่องค่ะทำอย่างไรไม่ให้เกิดความน้อยใจคะ :)
: Re: เมื่อเรากิดความทุกข์-ใกล้สอบเอน ขอความกรุณาคุณครู"แนะหนทางสว่างด้วยนะคะ" : คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! June 19, 2008, 09:18:03 PM ก่อนที่จะเรียกใครว่าเพื่อน
หนูควรให้นิยามความหมายของเพื่อนก่อนนะคะ เพื่อนไม่ได้หมายถึงคนที่เราใช้เวลาอยุ่กับเขามากที่สุด เพื่อนไม่ใช่คนที่ไปทานข้ากับเราทุกมื้อ เพื่อนไม่ใช่คนที่เราไปเที่ยวด้วย คำว่าเพื่อนหมายถึงคนที่ไม่จำเป็นจะต้องอยู่ใกล้ชิดกับเราตลอดเวลา แต่จะอยู่เคียงข้างเรา เมื่อเราตกทุกข์ได้ยาก เพื่อนจะอภัยและพยายามเข้าใจเราได้เสมอ เพื่อนคือคนที่เราโทรหาหลังเที่ยงคืนได้ โดยไม่ด่าเรา เพื่อนคือคนที่ไม่คอยซ้ำเติมเราเมื่อเราผิดพลาด เพื่อนทนฟังเราร้องเพลง แม้เสียงหลง เพื่อนคือคนที่ด่าเพื่อให้สติ แม้จะฟังไม่เข้าหู เพื่อนอาจพูดไม่เพราะแต่ก็ไม่เคยหลอกเรา บางครั้ง เรากลับชอบคิดว่าคนที่เราไปไหนมาไหนด้วย เรียกว่าเพื่อน คนที่ติดสอยห้อยตามเราคือ เพื่อน สุดท้ายก็แอบคาดหวังว่าเขาน่าจะเข้าใจเราและน่าจะเป็นอย่างที่เราคิด แบบนี้อันตรายมาก ??? ไม่ใช่นะคะ ;) หนูแค่คบกับ"คนรู้จัก"คนหนึ่งเท่านั้น ถ้าหนูเข้าใจคำจำกัดความเช่นนี้ หนูก็จะไม่เสียใจกับการกระทำของเขา เพราะเขาก็แค่"คนที่เรารู้จัก " และเผอิญสวรรค์เขียนบทให้ชีวิตเรา โดยให้เขาเข้ามาในฉากหนึ่งของชีวิต ทีนี้หนูคงไม่เสียใจแล้วใช่ไหมคะ ;D ยามเขาอยู่ เราก็ต้อนรับขับสู้ตามมรรยาทที่ดี :D แต่ถ้าเขาอาจมีน้ำใจกับเราน้อยไปหน่อย ก็ไม่ต้องถือโทษโกรธเขา ::) ถือว่าที่เราทำดีนั้น "แถมให้" เพราะเราเป็นแม่ค้าขายความดี โดยรับความดีเป็นเบี้ยตอบเเทน เขาไม่ดีกับเรา เราก็แถมให้ ไม่มีทางขาดทุน เพราะทำความดี ไม่มีต้นทุน ฟังแล้วสบายใจแล้วหรือยังคะ หยุดคิดถึง"คนที่เรารู้จัก"สองคนนี้ได้แล้ว แล้วคิดถึงเพื่อนแท้ทรหดที่อยู่กับเรามาตั้งแต่เเรกเกิด "พ่อกับแม่"ไงคะ เตรียมความเพียรใส่กล่องของขวัญ ใช้ความขยันเป็นริบบิ้น ส่งผ่านด้วยรอยยิ้มให้เพื่อนผู้มีพระคุณของเรานะคะ ไม่มีเพื่อนแท้ก็ไม่เห็นเป็นไร เพราะพ่อกับแม่คือเพื่อนตายของเรา เลิกคิดมาก แล้วขยันได้แล้วนะคะ อย่างน้อยก็มีคุณครูเป็นเพื่อนอ้วนๆอีกหนึ่งคน แม้จะไม่ค่อยอยู่ใกล้ชิดกัน แต่ก็ยืนยันว่าเป็นเพื่อนที่แท้จริงยามหนูทุกข์ใจได้นะคะ ภูมิใจเถอะคะ หนูมีเพื่อนตั้งหลายคนแล้วนะ คุณครสมศรีค่ะ |