Kru Somsri's English School

ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี => คุยกับคุณครูสมศรี => Topic started by: เด็ก NW on August 21, 2011, 03:59:51 PM



Title: คุณครูครับ ผมสับสนกับอนาคตตัวเอง คุณครูช่วยผมทีนะครับ
Post by: เด็ก NW on August 21, 2011, 03:59:51 PM
ผมต้องขอเกริ่นก่อนว่ากว่าจะมาตั้งกระทู้นี้ได้ ก็คิดไว้นานแล้วเหมือนกันว่าจะปรึกษาใครดี ก็เห็นมีคุณครูเนี่ยแหละ ที่ผมอยากจะขอคำปรึกษา ได้โปรดอ่านให้จบนะครับเรื่องมีอยู่ว่า

ตอนนี้ผมอยู่ม.5 แล้วครับ เรียนอยู่รร.ประจำจังหวัด เป็นเด็กสายวิทย์ห้องโอลิมปิก(คือห้องต้นๆนั่นเอง ผมอยู่ห้อง 2) ซึ่งเหลือเวลาไม่นานก็จะสอบแล้วครับ อาจารย์ที่สอน พ่อแม่ หรืออาจารย์ติวเตอร์ก็แนะนำให้เริ่มอ่านหนังสือได้แล้ว และกำลังใจในการอ่านหนังสือก็มีมานานแล้วด้วย แต่ผมจะเริ่มอ่านได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่มีเป้าหมายในชีวิตที่แน่นอนเลย ผมกำลังสับสนว่าตัวเองอยากเป็นอะไรกันแน่ ผมจะแบ่งเป็นอาชีพที่คิดว่าอยากเป็น ให้เข้าใจง่ายๆ แบบนี้นะครับ

1.หมอ เป็นอาชีพที่เคยคิดอยากจะเป็นแต่เด็ก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองชอบจริงหรือเปล่า ทำให้เมื่อตอนม.4 ผมได้สมัครค่ายแพทย์ของวชิระ เมื่อปีที่แล้วนั่นเอง ซึ่งคุณครูเองก็มาบรรยายในวันปิดค่ายด้วย(จำได้ใช่มั้ยครับ?) คืนก่อนวันสุดท้ายมันจะมีพิธีผูกด้ายของพี่ให้น้อง ซึ่งผมจะต้องวนจนเจอพี่เกือบทุกคน แล้วพี่แต่ละคนก็ถามประมาณว่า "เป็นไง หลังจากเข้าค่ายแล้ว น้องยังอยากเป็นหมออีกหรือเปล่า?" ตอนนั้นผมก็ตอบอย่างมั่นใจว่า "อยากครับ อยากมาเป็นรุ่นน้องพี่ๆด้วย" เพราะระหว่างที่เข้าค่ายนั้น ผมเห็นพี่ๆทุกคนเป็นกันเอง เรียนก็ช่วยกันเรียน บางครั้งก็รั่วสุดๆ ไม่ค่อยดูจะเครียดเหมือนที่ตัวเองคิดไว้เลย ทำให้ตอนนั้นผมอยากจะเป็นหมอมากขึ้นโดยทันที แต่แล้ว มีวันหนึ่งที่ผมลองมานั่ง search เรื่อยเปื่อยเกี่ยวกับการเรียนหมอ บวกกับคำพูดของอาจารย์หลายท่าน และความคิดส่วนหนึ่งของผม มากมายว่า "เรียนหมอมันหนักนะ จบมาทำงานก็หนักอีก" "ในเมื่อเราเรียนเก่งจริง ทำไมเราต้องเป็นหมอ ทำไมไม่เป็นอะไรที่จบมาสบายกว่าล่ะ" "ในต่างประเทศคนเป็นหมอไม่ได้เก่งที่สุดนะ จะเป็นคนหัวระดับกลางๆ นักเศรษศาสตร์ต่างหากที่เด็กเก่งเค้าเลือกกัน เมื่อไหร่หนอค่านิยมคนไทยที่ให้ลูกเรียนหมอจะหมดไปสักที" อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ซึ่งผมคิดว่ามันก็จริงหลายอย่าง ผมถามตัวเองหลายครั้งมากว่า ถ้าตัวเองได้เรียนจริง จะเรียนไหวมั้ย จบมาจะเป็นแพทย์ที่ดีได้มั้ย? คำตอบของผมก็คือ ผมต้องเรียนผ่านไปได้อย่างแน่นอน ด้วยนิสัยที่มีความอดทนสูงของผมและไม่ปล่อยให้ตัวเองโง่ และคิดว่าจบมาจะเป็นแพทย์ที่ีดีด้วย ด้วยนิสัยส่วนตัวที่ชอบช่วยเหลือคน พูดจาดี ไม่โมโหง่าย และเคยคิดด้วยว่าถ้าทำงานแล้วจะไม่อยากเข้าเอกชนด้วยซ้ำ ไม่อยากหาเงินเพิ่มทางลัดอ่ะครับ อยากจะอยู่รัฐบาล หรือถ้าไปอยู่ชุมชนก็ทำได้ เพราะอยากเห็นคนไทยมีสุขภาพดีครับ

แต่มันก็มีความคิดบางอย่างแทรกเข้ามาว่า ถ้าเกิดเราไปเที่ยวพักผ่อนอยู่หรือนอนอยู่ แล้วมีคนโทรมาให้ไปรักษาด่วน เราจะรับได้มั้ย หรืออุตส่าห์พากเพียรตั้งใจสอบให้ติดได้แล้ว จะได้สบายหน่อย ทำไมต้องลำบากเรียนหมอให้เหนื่อยอีก จบมาก็ยังเหนื่อยอีก เป็นอาชีพที่ต้องเสียสละอย่างมาก อีกทั้งเงินเดือนที่ใครหลายคนคิดว่าเยอะ แต่ถ้าเอาเงินเดือนมาหารจำนวนเวลาทำงานทั้งหมด ผมคิดว่ามันก็ไม่ได้มากมายเลย เผลอๆ ครูบางคนเงินเดือนดีกว่าด้วยซ้ำ แบบผมชอบคิดว่า ในเมื่อเราเรียนมาหนักกว่าทำไมได้เงินเดือนไม่คุ้มค่าเท่าไหร่เลย(ถ้าไม่เปิดคลีนิก หรืออยู่เอกชนนะครับ)

ผมลืมบอกไปว่า ผมเป็นคนมีบุคลิก และนิสัย 2 อย่างในตัว คือ ไม่ใช่คนเครียดกับการเรียน ไม่ได้เรียนเองอะไรมาก แต่จะไม่ปล่อยปะตัวเองให้โง่หรือเรียนไม่รู้เรื่อง เป็นคนที่ปรับตัวได้เร็ว สบายๆ ง่ายๆ และที่สำคัญชอบดูหนังเอามากๆ ฟังเพลงหรือเต้นก็ด้วย ซึ่งไอ้นิสัยที่ตัวเองชอบดูหนังมาก หนังมาเมื่อไหร่อยากดูก็เข้าโรงไปดูเลย ซึ่งผมตั้งใจว่าเข้ามหาลัยในกรุงเทพเมื่อไหร่จะดูแหลกเลย หรือไม่ก็เช่าซีดีมาดูบ่อยๆ ที่หอ ซึ่งถ้าเรียนหมอผมจะมีเวลาขนาดนั้นเชียวหรอ ?

ต่อไปผมจะพูดถึงอาชีพที่คิดไว้ว่าอยากจะเป็นเหมือนกัน คือ
2.อาชีพที่ใช้ภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะอาชีพอะไรก็ตาม เช่น บัญชี เศรษศาสตร์ อักษรศาสตร์ รัฐศาสตร์ เป็นต้น บัญชีนี่ผมว่าถ้าผมตั้งใจจะเข้าจริง ผมคิดว่าต้องเข้าได้แน่นอน เพราะวิชาหลักคือ คณิต และอังกฤษ ซึ่งเป็นวิชาที่ชอบทั้งคู่ อีกอย่างเคยอ่านเจอว่าบัญชีเรียนแล้วไม่ตกงานเป็นอันดับ 1 แต่คิดว่าตัวเองจะก้าวหน้าแค่ไหน เศรษศาสตร์ก็ไม่เคยศึกษาว่าแต่ละปีเรียนอะไรบ้าง อีกอย่างเพิ่งอยากจะเป็นได้ไม่นาน เลยรู้สึกเอาชนะใจอย่างหมอไม่ได้ อักษรนี่ได้ใช้ภาษาอังกฤษที่ตัวเองชอบอย่างจริงจัง ซึ่งยากแค่ไหน ผมก็คิดว่าต้องผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอน แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะไปเป็นไร ถ้ามันไม่ดังเหมือนคุณครูอ่ะครับ มาเป็นล่าม นักเขียนก็คงไม่มั่นคงมั้งครับ(ผมคิด) รัฐศาสตร์นี่ อยากเข้าเพราะก็อยากเป็นทูต แต่เพื่อนบอกว่ามันต้องมีเส้นสายเยอะๆ ถึงจะก้าวหน้าได้เร็ว(ไม่รู้จริงเปล่า) อีกย่างถ้าได้ไปเป็นทูตต่างประเทศจริง วันๆนึงจะทำอะไรบ้าง ชีวิตจะสนุกไหม อยากบอกว่าภาษาอังกฤษนี่ชอบมากที่สุดและ และยิ่งได้มาเรียนกับครูสมศรีตั้งแต่เด็กตั้งแต่คอร์ส PH1 ตอนนี้เหลือแค่ Talui-GAT เอง

เพื่อนสายวิทย์หลายคนในห้องผม ใจศิลป์ ก็เยอะนะครับ บางคนมั่นใจแล้วว่าจะเบนสายแน่ แต่ก็มีผมและอีกบางคนไม่แน่นอน ผมก็เคยปรึกษาเพื่อนนะ ว่าอยากเรียนด้านภาษาว่ะ แต่มันก็คอยเตือนว่าเราอุตส่าห์เรียนสายวิทย์มาแล้วนะ ซึ่งตัวผมเอง ผมว่าผมได้ทั้งวิทย์และศิลป์อ่ะครับ เลยทำให้คิดหนัก ผมเคยปรึกษาพ่อแม่เหมือนกัน พ่อแม่ก็ถามว่าชอบอะไรที่สุดล่ะ ผมก็ตอบเสมอว่า "ไม่รู้ มันอยากเป็นหลายอย่างไปหมด" แต่ลึกๆแล้วผมว่าแม่ผมคงอยากให้เป็นแพทย์ ไม่ก็เภสัชอ่ะครับ

ผมเคยคิดนะว่าถ้าเรียนแพทย์จนจบ แล้วมาเรียนพวกบัญชีต่อ แล้วถ้าเกิดชอบบัญชีขึ้นมา แล้วอยากทำงานด้านบัญชี แล้วเวลาที่เสียไปกับการเรียนแพทย์ล่ะ ? มันไม่คุ้มค่าเลยนะ

ลึกๆ แล้วผมอยากเรียนต่อต่างประเทศมากที่สุดละ มากกว่าเรียนหมออีก เคยสอบติด AFS ตอนม.3 แล้วอยากไปมาก พ่อกับแม่ก็ไม่ว่าถ้าอยากไปจริง รร.ผมก็ฮิตไปกันด้วย แต่กลับมาต้องเรียนซ้ำอีก 1 ปีเนี่ยสิ ทำให้ไม่อยากไป เพราะจะตามเพื่อนไม่ทัน เลยเกิดความคิดว่าอยากเรียนระดับอุดมศึกษาที่ต่างประเทศ ซึ่งมันก็มีทุนก.พ.เนี่ยแหละ แต่ก็ยากซะเหลือเกิน ถ้าผมติดทุนก.พ.อะไรผมก็ไม่อยากเป็นอีกแล้ว แค่ได้ไปเรียนต่างประเทศ แล้วกลับมาพัฒนาประเทศก็ดีใจที่สุดละครับ แต่ถ้าเป็นหมอเรียนจบมาผมก็ต้องใช้ทุน แล้วทำงานอีก ผมจะได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างประเทศกับคนอื่นมั้ยเนี่ย แม่ก็บอกนะ ว่าสอบให้ติดก่อนเถอะ เวลาน่ะ เดี๋ยวมันก็ต้องมีอยู่แล้ว

สุดท้ายแล้ว
ผมแพร่ม และเวิ่นเว้อมานานมาก ก็ขอคำแนะนำจากคุณครูสมศรีหน่อยครับว่า ผมควรทำอย่างไรกับชีวิตข้างหน้าของผม ถ้าถามตัวเองตอนนี้อีกรอบก็ยังไม่มั่นใจ พอดีผมเห็นว่าคุณครูมีพี่ชายเป็นหมอด้วย เลยน่าจะให้คำปรึกษาได้ และขอกราบขอบคุณที่เสียเวลามาอ่านเรื่องที่อาจจะดูไร้สาระ แต่มันมีความหมายกับผม และขอบคุณสำหรับคำตอบด้วยครับ