Kru Somsri's English School

ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี => คุยกับคุณครูสมศรี => Topic started by: กะทิเทียม on May 04, 2007, 08:19:43 AM



Title: ขอคำแนะนำหน่อยครับ
Post by: กะทิเทียม on May 04, 2007, 08:19:43 AM
สวัสดีครับ
รบกวนเวลาสักนิดหน่อยนะครับ
ผมเป็นเด็กต่างจังหวัดที่มาเรียนที่นี่
ผมได้เห็นความแตกต่างมากในด้านต่าง ๆ ระหวางที่ กทม และตจว
แต่ผมก็พยายามไม่เปรียบเทียบ เคยอ่านว่า
"จำไว้ว่าอย่าเสียเวลากับการเปรียบเทียบระหว่างตนเองกับคนอื่นที่ดีกว่า" ความจริงมันยาวกว่านี้
เป็นเวลา เกือบ 2 เดือนที่นั่งเรียนถึงแม้จะไม่ใช่รอบสด แต่ก็ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติบ
ครูมีจิตวิญญาณความเป็นครูครับ

เริ่มเข้าสิ่งที่ผมสงสัยครับ
คือผมเป็นคนที่ค่อนข้างหัวช้า ผมยังไม่เข้าใจจุดประสงค์ของการหา ประธาน กับกริยา ครับ
เราหา S  กับ V แท้ทำไมเหรอครับผมไม่เข้าใจ

อีกอย่างครับผมเป็นคนหัวช้า
เวลาฟังผมก็จำไม่ค่อยได้ จดผมจดรอบแรกใช้ดินสอ แล้วกลับบ้านไปก็ตดอีกรอบ
ยังจำไม่ได้เลยอะครับ

ตรงนี้แหละครับที่ผมต้องการคำตอบมากที่สุด
คือผมจำอะไรไม่ค่อยได้ครับ ไม่ได้ความจำเสื่อม
แต่เวลาท่องอะไร หรือเรียนอะไร เมื่อตอนแรก ๆ ยังจำได้อยู่แต่พอผ่านไปสักพักก็จำไม่ได้ครับ
ทั้งเนื้อหาเรียน และคำศัพท์ก็เป็ฯเช่นนี้เหมือนกัน เหมือนว่าจะจำได้ระยะสั้น ๆ ครับ
รวมถึงการอ่าน
ผมเป็นคนที่อ่านไปเรื่อยครับ จะทำอย่างไรให้จำได้  เหมือนผมจะอ่านแบบเรื่อยเปื่อยครับ
หรืออ่านไปแล้วสรุปไปทีละเรื่องครับ ผมก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
ก็เป็นเช่นเดิมไม่นานก็ลืม
ผมอยากรู้เกี่ยวกับวิธีที่จะทำให้จำได้อะครับ

สรุปคำถามนะครับ
1.ทำไมต้องหา  S  กับ V
2.วิธีการจำ

ผมยังมีคำถามอีกเยอะครับ
แต่จะเป็นการรบกวนเวลาในแต่ละรอบมากเกินไป
วันหน้าผมจะขอมาถามอีกครั้งครับ


Title: Re: ขอคำแนะนำหน่อยครับ
Post by: หน่วยสืบราชการลับ on May 04, 2007, 10:13:28 AM
พี่เป็นลูกศิษย์ครูคนหนึ่งขอตอบในฐานะที่อยากแบ่งปันประสบการณ์นะ
คือที่ครูเขาสอนให้หา S กับ V น่ะเพราะเขาต้องการให้เรารู้ว่าใครทำอะไรเพื่อจะได้อ่านเนื้อเรื่องและตอบคำถามได้ไง
คือประโยคภาษาอังกฤษเนี่ยะ มันประกอบด้วยประธาน กริยา (s + V) หรือ ประธาน กริยา และ กรรม กับส่วนขยาย
ทีนี้ถ้าประโยคยาวๆ ที่มีส่วนขยายเยอะๆ คุณครูจึงสอนโครงสร้างประโยคเพื่อให้เราแยกแยะได้ว่าอันไหนเป็นประธาน อันไหนเป็นกริยา และอันไหนเป็นส่วนขยายเพื่อให้เราสามารถอ่านเนื้อเรื่องและตอบคำถามได้
วิธีจำเหรอเราก้อเข้าไปทำความเข้าใจกับemphatic sentence structure ที่คุณครูสอนและฝึกหาบ่อยๆก็ชำนาญเองแหละ สู้ๆนะ  พี่เป็นกำลังใจให้
Felix the cat


Title: Re: ขอคำแนะนำหน่อยครับ
Post by: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! on May 04, 2007, 11:18:16 AM
น้องกะทิฯครับ

การจำมี 2 ประเภทครับ คือ

การจำช่วงสั้น และการจำช่วงยาว

ต่อแต่นี้การอธิบายจะใช้ประสบการณ์ของตัวครูเองนะครับ ไม่เกี่ยวกับทฤษฎี

การจำช่วงสั้นคือการจำฉาบฉวย จำครั้งละมากมาย จำเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะกิจ เช่นจำก่อนเข้าห้องสอบสิบนาที

จำครั้งเดียวแล้วไม่ได้ทบทวน

จำตอนเบื่อ จำโดยมีทัศนคติต่อเรื่องที่จำไปในทางลบเช่น ไม่อยากจำแต่ก็ต้องจำ

จำขณะที่มีสิ่งรบกวน จำไปทำกิจกรรมอื่นที่ชอบไป เช่นฟังเพลงจนมัวแต่ร้องเนื้อจนข่มเรื่องที่อ่าน ฯลฯ

ถ้าหนูจำในลักษณะนี้

ก่อน ระหว่างและหลังการจำ  หนูก็จะไม่มีความสุข หรือที่เด็กชอบพูดว่า"จำไปทำไมหว่า"

นั่นละครับเราจะไม่ค่อยจำ

คุณครูมักบอกเด็กๆว่าที่เราป้อนข้อมูลเข้าไปในสมอง ความจริงไม่น่าเรียกว่า"จำ"

มันน่าจะเรียกว่า"จึ้ก"หรืออะไรสักอย่าง

เวลาคุณครูท่องเสร็จหรือ"จึ้ก" วิธีจำก็คือ พยายามดึงออกมาใช้

ครูก็จะปิดสมุดหนังสือแล้วก็ทำตัวเหมือนกำลังสอนหรือถ่ายทอดให้ใครสักคนฟัง

ถ้าหนูจำได้ ครูจะชอบพูดว่าให้เอาความรู้ที่ครูสอนไปไปสอนเพื่อนที่ห้อง

ไม่ต้องกลัวว่าเขาจะรูเท่าเรา ดีเสียอีกยิ่งทำให้เราต้องรู้มากขึ้น

เราก็จะมีสังคมที่ทุกคนมีความรู้ มีเพื่อนฉลาดด้วยกัน

นั่นแหล่ะคุณครูกำลังจะสอนให้หนูพัฒนาความจำช่างสั้นมาเป็นความจำช่วงยาวไงครับ

การท่องซ้ำๆ ท่องบ่อยๆ เห็นซ้ำๆ เห็นบ่อยๆ ก็เท่ากับเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมในการจำ

น้องกะทิฯครับ ถ้าหนูเห็นประโยชน์และมีเจตคติที่ดีต่อสิ่งที่หนูอ่าน

หนูจะรู้สึกว่าทุกครั้งที่ลูกตาสัมผัสความรู้ที่หนูอ่าน

มันดื่มด่ำ มีค่ายิ่ง เพราะสิ่งที่หนูอ่านจะกลับมาเลี้ยงดูเราวันข้างหน้าได้นะครับ

ไม่ใช่เลี้ยงเราคนเดียวนะครับ เลี้ยงคนที่เรารักก็ได้ครับ

เพราะฉะนั้นคุณครูขอแนะนำการอ่านแล้วให้ลืมน้อยหน่อย

1. ก่อนอ่านต้องมีทัศนคติที่ดีต่อสิ่งที่กำลังจะอ่าน

education ตามรากศัพท์แปลว่า "นำความไม่รู้ออกไป"

คุณครูไม่เคยขยะแขยงอะไรเท่ากับการกลัวความโง่ โง่ในที่นี้ไม่ใช่โง่เพราะ stupid นะ

คือ"โง่" แบบ ignorant น่ะคือเพิกเฉย ละเลย ไม่ใส่ใจนะครับ

2.ทวนของเดิมก่อนอ่านเรื่องใหม่ก่อนเล็กน้อย  เพื่อให้มีสมาธิควรขีดเขียนไปด้วย

สมัยเรียนที่เตรียมฯคุณครูจะ top ฝรั่งเศสนะแม้จะโง่อังกฤษ เพราะเวลาอ่านไปก็จะเขียนไป

ทำไงได้ เรามันสมองไม่ดี ก็ต้องทำแบบนี้แหล่ะจะได้ไม่ลืม

ทุกครั้งที่อ่านคำศัพท์ก็จะทวนศัพท์เก่า

เด็กที่เรียนต่างประเทศจะจดจำได้เร็วเพราะสิ่งรอบตัว คิด พูด ทำ เป็นภาษาอังกฤษหมด

เราก็ไม่ต้องกลัว เราก็หยิบบ่อยๆ เห็นบ่อยๆ ออกเสียงบ่อยๆ ก็เก่งได้เองแหล่ะ คุณครูรับรอง

3. พัฒนาการจำศัพท์เป็นกลุ่มมาสู่การอ่านpassage เหมือนคุณครูเจะเจอเด็กๆหลายๆคนจนนึกว่าจำได้แล้ว

แต่พอเด็กทำผมแปลกออกไปจากที่เคยเห็นคุณครูก็เริ่มงง เพราะชีวิตเจอนักเรียนเยอะจนจำแทบไม่ได้

ก็ทำนองเดียวกัน เราอ่านศัพท์แล้ว เรานึกว่าเราแม่น แต่พอไปเจอในเรื่องเรากลับจำไม่ได้

เทคนิคก็คือเมื่อหนูจดจำคำศัพท์ได้แล้ว หนูควรพบเขาในที่แปลกๆ ลักษณะแปลกๆ เมื่อเราพบเขาหลายครั้ง แม้จะไม่อยู่ในโครวสร้างเดิม

หนูก็เริ่มจำได้แล้ว

และนี่คือความจำช่วงยาวล่ะคือพบซ้ำๆ พบบ่อยๆ พบในขณะที่อยากรู้จัก  พบเมื่อเห็นว่าเขามีประโยชน์ ฯลฯ

และแล้วหนูก็จะเก่งขึ้นเองครับ

ลองไปทำตามดูนะครับ

โชคดีครับ

ขอให้สนุกกับการอ่านนะครับ........



Title: Re: ขอคำแนะนำหน่อยครับ
Post by: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! on May 07, 2007, 11:23:00 AM
ถ้าหนูอ่านแล้ว

ใจไม่อยู่กับหนังสือ หนูต้องอ่านออกเสียงสับกับการจดโน้ตย่อ

เพื่อเป็นการแปรความคิดฟุ้งโดยเราไม่รู้ตัวให้กลายเป็น"สติ"

"สติ"ก็คือตัวรู้นั่นเอง

หนูอย่ากังวลนะครับ ถ้าอ่านแล้วไม่รู้ว่าอ่านอะไรอยู่

ขอเพียงให้หนูรู้ตัวเเละมีสติเบี่ยงความฟุ้งนั้นออกมา

ที่หนูทำอยู่ถูกต้องแล้วครับ การอ่านออกเสียง ไม่จำเป็นต้องออกเสียงทั้งบท

ขอเพียงออกเสียงเพื่อให้ฟื้นสติและความรู้ตัว

หรือแม้แต่วิ่งไปล้างหน้า

หายใจเข้าออกเนิบๆยาวๆโดยนับเข้าหนึ่ง ออกหนึ่ง ตามลมหายใจไปจนสุด

เหมือนเวลาเครื่องจักรร้อน เราต้องพักเครื่องเพื่อจะเริ่มทำงานใหม่

ชีวิตมนุษย์เหมือนเครื่องบินนะครับ

เครื่องบินที่ดีห้ามจอดแช่ เขาถึงบอกว่าเที่ยวบินยิ่งสูงยิ่งดีนะครับ

คุณครูขอเป็นกำลังใจให้หนูนะครับ

มีอะไรก็ถามมาได้นะครับ

ถ้าการตอบของครูเป็นประโยชน์ต่อหนู

คุณครูยินดีและเต็มใจอย่างยิ่งครับ

พยายามต่อไปนะครับ

คุณครูสมศรีเองครับ