: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 23, 2008, 01:39:02 PM วันก่อนไปเจอในเว็บนึงก้อเลยเอามาฝากกันคับ มันมีอยู่60ตอนเลยขอpostทีละตอนนะคับ ใครอ่านแล้วก็ขอโทดด้วยนะคับ :)
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 1 ช่วงนี้มีคนเอาคำถามจากข้อสอบสำนักต่างๆมาถามทางเมลล์อยู่บ่อยๆ ผมเลยคิดว่าน่าจะเลือกเอาคำถามที่น่าสนใจเอามาลงไว้ในนี้เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านท่านอื่นๆด้วย อันที่จริงแล้ว คำถามหลายข้อก็สามารถหาคำตอบได้จากบทความเก่าๆที่ผมเคยเขียนมาแล้ว แต่บางท่านอาจจะไม่มีเวลาคลิ๊กไปค้นหาคำตอบ เพราะเขียนมาปีกว่าแล้ว มันเยอะขึ้นทุกทีๆ จะหาอะไรที่เฉพาะเจาะจงทีก็ต้องใช้เวลา ดังนั้นจึงอยากจะเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ ถือว่าเป็นการทบทวนไปในตัวแล้วกันนะครับ ข้อสอบข้อแรกที่มีคนเมลล์มาถามคือว่า Hemingway was one of those writers who _____ few words but say much. a. who used b. who use c. who uses d. using ท่านผู้อ่านตอบข้อไหนครับ คิดว่าข้อไหนถูกและมีเหตุผลอะไร อย่าเพิ่งบอกออกมานะครับ ลองอ่านที่ผมอธิบายข้างล่างก่อน ไม่แน่อาจจะเปลี่ยนใจก็ได้ครับ ก่อนอื่นเราควรตัดตัวเลือกที่คิดว่าผิดแน่ๆออกไปก่อน ซึ่งแน่นอนคือข้อ d. สาเหตุที่ต้องตัดก็คือ who....อะไรก็ตาม มันเป็น relative clause ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็น clause แล้วจำเป็นต้องมีกริยาที่สมบูรณ์ ไม่ใช่ รูป V-ing ซึ่งจะเป็นโครงสร้างของ phrase ไม่ใช่ clause แล้วครับ ตัวเลือกที่สมควรตัดข้อที่สอง คือ ข้อ a ครับ ตรงนี้อาจทำให้หลายๆท่านแปลกใจว่าทำไม ข้อนี้ผิดในเรื่องของการใช้ tense ครับ โจทย์ประเภทนี้มักจะบอก clue ให้เราทราบว่าควรใช้ tense ไหนกับคำกริยา ซึ่งในกรณีนี้ clue ที่ให้มาคือคำว่า say ซึ่งจำเป็นต้องอยู่ใน tense เดียวกันกับ use เพราะเป็นกริยาที่อยู่ใน clause เดียวกันครับ ดังนั้นการใช้ used เป็นรูปของ past tense จึงไม่ถูกต้อง เหลืออยู่สองข้อครับ ถ้าเป็นเกมส์เศรษฐีคงง่ายขึ้นเพราะขอตอบสองครั้งได้ แต่ในห้องสอบไม่มีตัวช่วยแบบนี้ เราต้องอาศัยหลักการที่ผมเคยพูดไว้นานมากๆแล้วคือ ต้องตอบให้ได้ว่า who-clause นั้นขยายใคร ระหว่าง writers หรือ one จากความหมายของประโยคนี้ Hemingway เป็นหนึ่งในนักเขียนหลายๆคนที่ใช้สไตล์การเขียนสั้นๆกะทัดรัดแต่ได้ใจความ นั่นก็หมายความว่า ไม่ใช่ Hemingway คนเดียวที่เขียนแบบนี้ ดังนั้น who-clause ในที่นี้ต้องใช้ขยาย writers ครับ จึงทำให้คำตอบของข้อนี้คือข้อ b (who use) ครับผม เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองเปรียบเทียบประโยคข้างบนกับประโยคนี้นะครับ Hemingway was the only one of those authors who was a sport fisherman, game hunter, and the tragic figure. ประโยคนี้จะแตกต่างจากประโยคข้างบนก็คือ Hemingway เป็นนักเขียนคนเดียวในบรรดานักเขียนทั้งหลายที่มีคุณสมบัติข้างต้น ดังนั้น who-clause ในกรณีนี้ขยาย one ครับไม่ใช่ authors จุดสังเกตในประโยคโครงสร้างนี้คือ การใช้ only มาเป็น clue บอกให้ผู้อ่านทราบนั่นเอง เอาหล่ะครับวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่กับโจทย์ข้อต่อไปครับ เด่วว่างๆจะมาpostต่อในกระทู้เดิมนะคับ(ถ้ามีคนชอบ) ;D : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : lB a d t z_m a r u March 23, 2008, 02:18:55 PM เราชอบมากๆเลยอ่า ขอบคุณน้าคะ มีประโยชน์มากๆเลย เป็นการฝึกอังกฤษไปในตัวด้วย
จารออ่านเน้อ อิอิ : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 23, 2008, 02:38:33 PM ตอนที่2มาแล้วคับ(อันนี้ยากแฮะ)
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 2 วันนี้ผมมีข้อสอบที่น่าสนใจมาฝากอีกแล้วครับ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเป็นข้อสอบ TOEFL เมื่อหลายปีก่อน แต่ถึงจะนานแล้ว แต่พื้นฐานที่ควรทราบในการทำข้อสอบนี้ให้ถูกต้องนั้นยังเป็นสิ่งที่นักเรียนไทยหลายๆคนควรจะเข้าใจนะครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ขอเริ่มเลยนะครับ __________ , Michael was capable at times of extreme recklessness. (a) He was though an astute businessman (b) Though an astute businessman he was (c) He was an astute businessman though (d) Astute businessman though he was เห็นคำถามข้อนี้แล้ว หลายๆท่านคงจะงงไปเหมือนกันนะครับ เพราะตัวเลือกที่ให้มาแต่ละตัวนั้น มันดูทะแม่งๆแทบทุกข้อเลย โดยปกติแล้ว การใช้ Though เป็น conjunction เชื่อมระหว่าง clause สอง clause ที่มีความหมายขัดแย้งกัน รูปที่เราเรียนมาจากคุณครูสอนภาษาอังกฤษควรจะอยู่ในรูป Though he was an astute businessman, Michael was capable at times of extreme recklessness. แต่ปัญหาก็คือ โครงสร้างประโยคที่เราคุ้นเคยนั้นไม่ได้อยู่ในคำตอบที่ให้มาเลย นั่นก็คือ มันจะต้องมีลูกเล่นอะไรสักอย่างที่เราอาจจะยังไม่เคยทราบมาก่อนก็ได้ คำตอบก็คือ ใช่แล้วครับ ในประโยคที่มีความเป็นทางการ ถ้าเราต้องการจะเน้น ส่วนของ complement ใน though-clause เราสามารถย้าย complement นั้นมาวางไว้หน้า though ได้ เช่น แทนที่เราจะพูดว่า Though he was sick, he insisted on coming to the meeting. เราอาจจะเน้นไปที่ sick โดยเขียนประโยคใหม่เป็น Sick though he was, he insisted on coming to the meeting. ในกรณีที่ complement นั้นเป็น adjective เรายังสามารถใช้ as แทน though ได้เช่นกัน อย่างในประโยคนี้เราก็สามารถเขียนได้อีกว่า Sick as he was, he insisted on coming to the meeting. จากหลักการข้อนี้ ลองกลับไปเปลี่ยนประโยคโครงสร้างปกติเป็นโครงสร้างแบบเน้นก็จะได้ประโยคที่ว่า Astute businessman though he was, Michael was capable at times of extreme recklessness. สังเกตเห็นว่า เมื่อย้าย noun-complement มาวางไว้หน้าประโยคแล้ว เราไม่จำเป็นต้องเอา article "an" มาด้วย และ เนื่องจากว่า complement ในกรณีนี้เป็นคำนาม ไม่ใช่ adjective เราจึงไม่ใช้ as มาแทน though อีกจุดนึงที่อยากจะเน้นคือ โครงสร้างนี้จะใช้กับ though เท่านั้นนะครับ ประโยคที่ใช้ conjunction ตัวอื่น เช่น although , even though ไม่ควรโยกย้ายแบบนี้นะครับ ดังนั้นคำตอบของโจทย์ข้อนี้คือ ข้อ (d) ครับผม ตอบถูกเปล่าครับ แล้วคราวหน้าพบกับโจทย์ข้อต่อไปนะครับ ;D : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : คุณผู้หญิงแห่งแสงสูรย์ March 23, 2008, 05:23:08 PM ขอบคุงนะจ๊ะ
^_______________________________^ : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 23, 2008, 09:08:20 PM ตอน3มาแว้ว
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 3 บางครั้งเรื่องที่ดูเหมือนง่ายๆ แต่เวลาเจอในข้อสอบก็อาจทำให้เรากลายเป็นปลาตายน้ำตื้นก็ได้นะครับ ตัวอย่างของข้อสอบที่ผมนำมาฝากในวันนี้เป็นอีกตัวอย่างนึงที่ถามในเรื่องง่ายๆ แต่นักเรียนไทยหลายคนตอบผิดครับ ลองดูนะครับว่าท่านผู้อ่านจะเป็นเหมือนนักเรียนเหล่านั้นหรือเปล่า ลองดูนะครับว่าประโยคนี้มีที่ผิดอยู่ตรงไหนตัวเลือกตามที่ขีดเส้นใต้เลยนะครับ The Government can only but reiterate its absolute condemnation of Israel's policy of extra-judicial killings. อ่านประโยคนี้แล้วมองออกเปล่าครับว่ามันผิดตรงไหน ถ้าใครตอบข้อ (a) ก็แสดงว่า sense ถูกต้องแล้วครับ แต่มันผิดตรงไหน ถ้ายังไม่ทราบคงต้องติดตามอ่านต่อข้างล่างนี้นะครับ การใช้ adverb สองตัวซ้อนกัน* คือ only กับ but ในกรณีนี้ไม่ถูกต้องครับ เราสามารถใช้ can only หรือ can but ได้ แต่เราจะไม่ใช้ can only but พร้อมๆกัน โดยปกติแล้ว เรามักจะเห็นคนใช้ can only เป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นโครงสร้างที่ไม่เป็นทางการเท่ากับ can but ซึ่งมักพบใน context ที่ค่อนข้างจะเป็นทางการ เช่น It's gone. And I can only wonder who took it. และ There inevitably will be casualties in this war, and we can but hope and pray that such casualties will be minimal. อีกจุดนึงที่อยากจะฝากไว้คือ บางท่านอาจจะเคยเห็นรูป negative form ของ can but คือ can't but แต่เราจะไม่ใช้ can't only นะครับ ความหมายของ can't but ก็จะหมายถึง ไม่สามารถหลีกเลี่ยงที่จะทำอะไรสักอย่างได้ หรือ can't avoid doing something นั่นเอง ลองดูตัวอย่างนะครับ Still, I can't but wonder how this all struck the people who were present. ดังนั้นประโยคในคำถามข้อนี้สามารถที่จะแก้ไขให้ถูกต้องได้คือ The Government can only reiterate its absolute condemnation of Israel's policy of extra-judicial killings. หรือ The Government can but reiterate its absolute condemnation of Israel's policy of extra-judicial killings. _____________ *กรณีนี้อย่าเข้าใจผิดว่า but คือ conjunction นะครับ ความหมายนึงของ but คือ only หรือ just ซึ่งเป็น adverb นะครับ :) : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 24, 2008, 03:59:19 PM ตอนที่ 4 มาแล้วคับ ทำไมไม่ค่อยมีคนตอบเลยง่ะ :'(
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 4 ข้อสอบวันนี้เคยมีคนถามผมนานแล้วครับ บังเอิญไปเห็นไฟล์เก่าๆที่เก็บเอาไว้ เห็นว่ามันน่าสนใจดี เลยคิดว่าน่าจะเอามาฝากกัน และ เป็นเรื่องที่หลายๆคนอาจจะยังไม่ทราบครับ ลองดูนะครับว่าประโยคข้างล่างนี้ มีที่ผิดอยู่ตรงไหน After knowing his assignment, John immediately went to the library and read no matter what he could find about Stephen King. ข้อสอบข้อนี้ต้องการความเข้าใจการใช้ no matter ซึ่งปกติแล้ว no matter จะเป็น conjunction ที่มักจะไปใช้ร่วมกับ who, whose, what, which, where, when แล้วก็ how โดยมีความหมายว่า it doesn't matter who/what/ อะไรก็ว่าไป เช่น Your parents will always love you no matter what you do. ไม่ว่าเธอจะทำอะไร พ่อแม่ก็ยังรักเธอเสมอ No matter where you go, I'll follow you. ไม่ว่าเธอจะไปไหน ฉันจะตามไป การใช้ no matter + wh-word เหล่านี้ บางครั้งสามารถแทนด้วย whoever, whatever แล้วแต่ wh-word ตัวไหนได้ เช่น No matter what band you use, you will need four times as many teaspoonful as before.เราสามารถเขียนประโยคนี้ใหม่ได้ว่า Whatever band you use, you will need four times as many teaspoonful as before. แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรทราบก็คือ คำจำพวก whoever, whatever และ whichever สามารถทำหน้าที่เป็น ประธาน หรือ กรรม ของ clause อื่นได้ แต่การใช้คำเหล่านี้ในกรณีนี้ เราไม่สามารถใช้ no matter + wh-word มาแทนได้ เช่น I'll believe whatever you say. ไม่สามารถเขียนใหม่เป็น I'll believe no matter what you say. เมื่อทราบหลักข้อนี้แล้ว ทำให้เราตอบคำถามข้อนี้ได้ไม่ยากเลยครับ ในกรณีนี้ no matter what ไปทำหน้าที่เป็นประธานของ noun clause ซึ่งเป็น กรรมของกริยา read ดังนั้น การใช้ no matter what ในประโยคนี้จึงไม่ถูกต้อง ที่ถูกต้องควรแก้ไขเป็น After knowing his assignment, John immediately went to the library and read whatever he could find about Stephen King. วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่คราวหน้าครับ : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : เหม่งจ๋าย : ) March 24, 2008, 05:18:04 PM ขอบคุณค่า เพิ่งอ่านตอนแรกจบ..
แอบพิมพ์ผิดเปล่าอ่า ช้อย a, b, c เพราะถ้าเป็นงั้น มัน who who ซ้ำซ้อนนา... : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : lB a d t z_m a r u March 24, 2008, 07:35:07 PM งืมๆ ในที่สุดก้ได้อ่านแระ ขอบคุนมากมายจ้า
: Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 24, 2008, 08:48:31 PM อืมข้อ1ผิดจิงๆด้วย ในโจทย์จิงๆไม่มีwhoนะคร้าบ ยังไงถ้าโจทย์ผิดก็บอกๆกันมานะคับ
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 5 ข้อสอบที่จะเอามาฝากกันวันนี้น่าสนใจเหมือนเคยครับ ผมคิดว่าคงจะเป็นเรื่องที่ท่านผู้อ่านหลายๆท่านคงจะเคยเห็นคนใช้กัน แต่ถึงเวลาที่เราจะต้องใช้เองกลับไม่ค่อยมีความมั่นใจกับกฏการใช้เท่าไหร่ ผมคิดว่าหลังจากทำโจทย์ข้อนี้แล้วคงจะมีความมั่นใจเรื่องนี้ขึ้นนะครับ The cost of repairs to the nation's public transportation facilities is an expenditure that cannot be delayed much longer if the system ________. a. survived b. survives c. will survive d. is to survive จะทำโจทย์ข้อนี้ได้ ต้องตีโจทย์ให้แตกออกมาเป็นสองประเด็นครับ ประเด็นแรกคือ ประโยคในโจทย์ข้อนี้ มีโครงสร้างเป็น factual conditional sentence ซึ่งก็หมายความว่า ถ้าเหตุการณ์ดังกล่าวจะมีคความหมายเป็น fact คือ เมื่อเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้น เหตุการณ์หนึ่งต้องเกิดขึ้นมาแน่นอน ถึงตรงนี้ท่านผู้อ่านอาจจะงงว่า ผมทราบได้อย่างไรว่ามันเป็น if-clause แบบที่ 1 ง่ายมากครับ มีจุดสังเกตก็ที่ if ซึ่งเป็นตัวแสดงความเป็น conditional clause ไปใช้อยู่กับประโยคที่มีโครงสร้างเป็น present simple tense ซึ่งในกรณีคือ ...cannot be delayed much longer เมื่อตีประเด็นแรกออกแล้ว เราก็จะมองออกว่า โครงสร้างของประโยคใน if-clause นั้นควรเป็น present simple tense ด้วย ซึ่งทำให้เราสามารถตัดตัวเลือกที่ไม่น่าเป็นไปได้คือ ข้อ (a) และ (c) ออกไปได้ ประเด็นที่สองที่ต้องตีให้แตกคือ เรื่องของโครงสร้าง be + to infinitive ซึ่งเป็นโครงสร้างที่เรียกว่า modal idiom คล้ายๆกับพวก had better, would rather หรือ have got to เป็นต้น โดยทั่วไปโครงสร้าง be + to infinitive จะสื่อความหมายไปถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต บางบริบทจะสื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องเกิด บางบริบทจะสื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่ต้องการให้เกิดขึ้น บางบริบทจะเป็นเหตุการณ์ที่ถูกวางแผนไว้ให้เกิด หรือ เป็นเหตุการณ์ที่ถูกกำหนดไว้ให้เกิดเปลี่ยนแปลงไม่ได้ ซึ่งจะใช้ความหมายได้ก็ขึ้นอยู่กับบริบทนั้นๆ เช่น You are to be back by noon if you want your money back. (ถ้าคุณต้องการเงินของคุณคืน คุณต้องกลับมาให้ทันก่อนเที่ยงพรุ่งนี้) If he's to succeed in his new profession, he must try harder. (ถ้าเค้าต้องการจะประสบความสำเร็จในงานใหม่ของเค้า เค้าต้องพยายามมากขึ้น) สำหรับความหมายของโจทย์ข้อนี้ เมื่อนำมาวิเคราะห์กันดูจะเห็นว่า ในขณะที่พูดนั้น system มันยังไม่ survive เพราะว่า public transportation facilities มันยังไม่ได้รับการซ่อมแซม ดังนั้นความหมายใน if-clause จึงสื่อไปว่า ถ้า system ต้องการที่จะ survive หล่ะก็ public transportation facilities เหล่านั้นต้องรีบจัดการซ่อมแซมทันที ดังนั้นตัวเลือกที่ถูกต้องคือข้อ (d) ซึ่งได้ความหมายชัดเจน ในขณะที่ ข้อ (b) ความหมายที่ออกมาจะไม่ได้ตามบริบทที่ให้มา พบกันใหม่คราวหน้าครับ :) :) :) : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 25, 2008, 02:08:41 PM ตอน 6 คับ
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 6 เหมือนเช่นเคยครับ วันนี้ผมมีข้อสอบที่น่าสนใจมาฝากให้ท่านผู้อ่านลองทำกันนะครับ เพื่อไม่ให้เสียเวลา มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ Sufferers believed their condition was caused by exposure to electrical appliances, despite _________ no scientific evidence linking the two. a. there are b. there is c. there being d. the fact that เห็นตัวเลือกแล้ว คิดว่าข้อไหนน่าจะเป็นคำตอบของโจทย์ข้อนี้ครับผม ก่อนอื่นเรามาตัดตัวเลือกที่ไม่น่าเป็นไปได้ก่อนนะครับ สิ่งแรกที่เราควรทราบก็คือ evidence เป็นคำนามประเภท uncountable ซึ่งเมื่อมันนับไม่ได้แล้ว เราจะไม่ใช้กริยาพหูพจน์กับคำนามคำนี้ ดังนั้น การใช้ there are ในตัวเลือกที่หนึ่งจึงตัดออกไปได้ก่อนเลยครับ สิ่งที่ควรทราบต่อไปก็คือ Despite นั้นดูเหมือนกับจะทำหน้าที่คล้ายๆกับ conjunction ที่ทำหน้าที่เชื่อม clause ที่มันขัดแย้งกัน แต่ในความเป็นจริงนั้น Despite ไม่ได้เป็น conjunction แต่เป็น preposition ครับผม ซึ่งเมื่อทราบความจริงข้อนี้แล้ว สิ่งที่จะเป็นข้อห้ามสำหรับ preposition ก็คือ ห้ามนำ clause มาตามหลังมัน เมื่อมองไปที่ตัวเลือกข้างบนแล้ว จะเห็นว่าคำตอบข้อ (b) เป็น clause อย่างเห็นได้ชัดเจนคือ ...there is no scientific evidence linking the two. ดังนั้น ตัวเลือก (b) ตัดทิ้งไปได้เช่นกัน วิธีการแก้ไขให้ Despite สามารถนำมาใช้เชื่อม clause ได้นั้น ก็คือการใส่ phrase ที่ว่า the fact that ลงไป ซึ่งรูปที่ออกมาจะเป็น Despite the fact that + clause นั่นเอง แต่เมื่อพิจารณาตัวเลือก (d) รูปที่ออกมาจะเป็น ...despite the fact that no scientific evidence linking the two. จะเห็นว่า สิ่งที่ตามหลัง that มานั้นไม่ได้มีโครงสร้างที่เป็น clause (เนื่องจากขาดกริยาหลักไป) แต่กลับเป็น phrase หรือ วลี ซึ่งทำให้ตัวเลือกข้อ (d) ไม่ถูกต้องเช่นกัน จากการตัดตัวเลือกออกไป จะเห็นได้ว่า คำตอบที่ถูกต้องคือ ข้อ (c) ซึ่งจะได้ประโยคเต็มๆที่ว่า Sufferers believed their condition was caused by exposure to electrical appliances, despite there being no scientific evidence linking the two. จากหลักการที่ว่า despite เป็น preposition ดังนั้นสิ่งที่ต้องตามหลังมาจะต้องมีโครงสร้างเป็น noun groups หรือไม่ก็ -ing phrase อย่างเช่นแสดงให้เห็นในข้อสอบข้อนี้นั่นเอง แต่ถ้าต้องการใช้ despite the fact that กับประโยคนี้ ควรแก้ไขประโยคเป็น Sufferers believed their condition was caused by exposure to electrical appliances, despite the fact that there is no scientific evidence linking the two. วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่คราวหน้าครับ : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 26, 2008, 12:53:28 PM ตอน 7 ง้าบ ;D
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 7 ข้อสอบที่จะเอามาพูดถึงวันนี้ หลายๆท่านอาจจะบอกว่าหมูมากๆ แต่ผมคิดว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับอีกหลายท่านเหมือนกัน ที่ยังไม่ค่อยคล่องเกี่ยวกับการใช้ transition ในประโยคนะครับ ลองทำโจทย์ข้อนี้ดูนะครับว่าคำตอบน่าจะเป็นข้อไหน She has a talent as a painter, and _______ has a sharp eye for detail. a. by and large b. by the same token c. by all means d. by the way อ่านโจทย์แล้วคิดว่าข้อไหนคือคำตอบครับ ถ้ายังไม่แน่ใจลองอ่านดูบทวิเคราะห์ข้างล่างนี้ก่อนนะครับ วิเคราะห์จากประโยคที่เป็นคำถามของโจทย์ข้อนี้จะเห็นว่า ตัวที่อยู่ในช่องว่างจะต้องเป็นตัวที่จะเน้น เพื่อที่จะ reinforce สิ่ง หรือ information ที่อยู่ข้างหน้ามัน ในกรณีนี้ information ที่ต้องการจะไป reinforce ก็คือ เธอคนนี้เป็นนักศิลปะระบายสีที่มีพรสวรรค์มากๆ (และนอกจากนั้น) เธอมีสายตาที่เฉียบคมในการเห็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้ ทีนี้จากตัวเลือกที่ให้มา มีตัวไหนที่จะพอตัดทิ้งไปได้ ตัวแรกที่ผมคิดว่าน่าจะตัดทิ้งไปก่อนเลยคือ ข้อ d : by the way หลายๆท่านคงทราบแล้วว่า by the way เป็นกลุ่มคำที่ใช้ในกรณีที่ผู้พูดต้องการจะเปลี่ยนเรื่องพูดในบทสนทนา หรือ ขึ้น topic ใหม่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับ information ที่ให้มาก่อนหน้านั้นเลย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่คำตอบที่เหมาะสม ตัวที่สองที่น่าจะตัดทิ้งได้คือ ข้อ c : by all means กลุ่มคำนี้จะนิยมใช้ในการเน้น ที่มักพบบ่อยๆจะอยู่ในรูปของประโยคที่ผู้พูดต้องการเน้นการอนุญาต หรือ permission ให้ทำอะไรสักอย่าง เช่น If your baby likes water, by all means give it to him. ซึ่งจะเห็นว่า context ของการใช้ by all means ใช้ไม่ได้กับประโยคในข้อนี้ ตัวที่สามที่ต้องตัดทิ้งไปคือ ข้อ a: by and large ความหมายของกลุ่มคำนี้คือ in general หรือ on the whole ซึ่งจากความหมายแล้วก็พอจะเดาได้ว่า เรามักจะเห็นคนใช้กลุ่มคำนี้ในกรณีที่พูดถึงอะไรสักอย่างในเชิงทั่วๆไป คือพยายามเลี่ยงที่จะพูดถึงอะไรแบบจำเพาะเจาะจง เช่น By and large, the broadcasters were free to treat this material very much as they wished. นั่นก็หมายความว่า คำตอบที่ถูกต้องของโจทย์ข้อนี้ก็คือ ข้อ b : by the same token ซึ่งกลุ่มคำนี้มีความหมายคล้ายคลึงกับ moreover หรือ furthermore ซึ่งเป็น transition ที่จะใช้ในกรณีที่ผู้เขียนต้องการจะ ให้ information อะไรเพิ่มเติมเสริมให้กับ information แรกที่เกริ่นนำขึ้นมาแล้ว ดังนั้นประโยคที่ถูกต้องจึงเขียนได้เป็น She has a talent as a painter, and by the same token has a sharp eye for detail. เอาหล่ะครับวันนี้พอแค่นี้ก่อน แล้วพบกันใหม่ครับ : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 26, 2008, 05:59:18 PM ตอน 8 คับ ;D :D ;) :) ??? :( >:( :'( >:( :( ??? :) ;) :D ;D
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 8 พบกันอีกแล้วนะครับ กับข้อสอบภาษาอังกฤษที่ผมคิดว่าน่าจะมีประโยชน์สำหรับท่านผู้อ่านที่ต้องการทบทวนความรู้ภาษาอังกฤษ หรือ ท่านที่ต้องการจะศึกษาภาษาอังกฤาเพิ่มเติมนะครับ ข้อสอบที่ผมจะเอามาฝากกันวันนี้เป็นเรื่องง่ายๆครับ แต่คนออกข้อสอบมักจะเอาโจทย์ยาวๆ มาทำให้คนสอบตกใจ ที่หลายๆท่านอาจคิดไม่ถึงครับว่ามันยากอย่างที่คิด The nations with nuclear capabilities have restrained the proliferation of nuclear weapons less by reaching military understandings than ________ associated technologies. a. by the refusal to sell b. by refusing to sell c. refusing to sell d. not selling อ่านโจทย์ข้อนี้แล้ว อย่าเพิ่งตกใจนะครับ คนออกข้อสอบพยายามใช้ศัพท์ยากๆ หรือ ประโยคยาวๆ มาทำให้เราสับสนนะครับ อันดับแรกลองค่อยๆอ่านประโยคไปนะครับ เจอคำศัพท์ไหนยากก็ข้ามไปเลยครับ เมื่อลองแกะโครงสร้างประโยคนี้ดูแล้วจะเห็น backbone ของประโยคเป็น ... less ...A... than ...B... โดยจากโครงสร้างนี้หลัง less และ than คือ A และ B จะต้องเป็นโครงสร้างที่ parallel กัน ทีนี้เราลองมาดูโครงสร้าง A ที่โจทย์ให้มา คือ by reaching military understandings ซึ่งจะอยู่ในรูปของ preposition (by) + V-ing (reaching) นั่นเอง ดังนั้นเมื่อมองไปที่ตัวเลือก ที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นโครงสร้างของ B ได้ก็คือ b : by refusing to sell นั่นเองครับ สำหรับตัวเลือกอื่นๆนั้น ถึงแม้ว่าจะทำให้ประโยคอ่านรู้เรื่อง แต่โครงสร้างที่เป็น parallel ของประโยคนั้นไม่ได้เลย ข้อ a. ถึงแม้จะมี preposition คือ by แต่ตัวที่ตามมาไม่ได้อยู่ในรูปของ V-ing เหมือนกับในโครงสร้าง A ข้อ c มี V-ing แต่ขาด preposition ไป ซึ่งก็ไม่ครบอีกเช่นกัน ข้อ d ยิ่งไม่ได้เลยครับ ทั้ง preposition และ V-ing หายไปหมด ดังนั้น สรุปง่ายๆก็คือ เจอโจทย์ยาวๆ ศัพท์ยากๆ อย่าเพิ่งตกใจนะครับ หาอะไรที่เป็น key ของประโยคนั้น ข้อสอบนี้ก็จะหมูมากๆเลยครับผม : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 29, 2008, 12:33:50 PM โทดทีที่มาช้าง้าบ เมื่อวานไปเชงเม้งกับงานหนังสือมา ;D
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 9 ข้อสอบที่ผมเอามาฝากวันนี้ มีคนเอามาถามนานเหมือนกันแล้วครับ แต่เพิ่งค้นเจอ วันนี้ได้โอกาสเลยเอามาลงไว้เป็นคำถามประจำวันนี้นะครับ ลองทำดูนะครับว่าจะตรงกับคำเฉลยหรือเปล่านะครับ After Giotto's death, the fresco was completed by an apprentice whose skills were not quite up to the task, and both the perspective and the colors are convincing. a. After Giotto's death b. whose skills c. up to the task d. both the perspective and the colors อ่านประโยคนี้แล้ว เห็นที่ผิดตรงจุดไหนในตัวเลือกทั้งสี่ข้อข้างบนครับ ก่อนอื่นขอแนะนำคำว่า fresco ก่อน สำหรับท่านที่อาจจะไม่รู้จักคำนี้ เรามักเห็นคนใช้คำนี้ว่า หรือ buon fresco หรือ true fresco ซึ่งเป็นศิลปะการวาดรุป ระบายสีแบบนึงมักจะใช้วาดรูปเหมือนของคนโดยใช้สีพลาสเตอร์ หรือ สีน้ำมัน ดังนั้น จากประโยคนี้ก็จะหมายถึง หลังจากที่ Giotto จากไป ก็มีการวาดรูปเหมือนของเขาขึ้นมา แต่ดันไปให้มือสมัครเล่น ที่ฝีมือยังไม่เข้าขั้น (up to the task) เลยทำให้รูปออกมาไม่เหมือนจริง เมื่อเข้าใจความหมายของประโยคนี้แล้ว พอจะมองออกมั้ยครับว่า ประโยคนี้บกพร่องตรงไหน ประโยคนี้มี keyword อยู่ที่คำว่า and ครับ ซึ่งเป็นคำที่จะแสดงความเกี่ยวเนื่องของ idea แบบคล้อยตามกัน สำหรับในกรณีนี้ idea ที่นำหน้า and มานั้น มีความหมายค่อนข้างจะ negative คือ an appentice's skill is not up to the task ดังนั้น idea ที่จะตาม and มาจึงควรจะมีความหมายที่เป็น negative ด้วยเช่นกัน แต่จากในประโยคนี้ ใช้ว่า both the perspective and the colors are convincing ซึ่งมีความหมายเชิงบวก ทำให้ประโยคนี้ไม่สมเหตุสมผล ทีนี้จะทำให้สมเหตุสมผลก็ต้องเปลี่ยนรูปประโยคให้มีความหมายเชิงลบ โดยการเปลี่ยน both...and เป็น neither...nor คือ After Giotto's death, the fresco was completed by an apprentice whose skills were not quite up to the task, and neither the perspective nor the colors are convincing. ดังนั้นคำตอบของข้อสอบข้อนี้คือ ข้อ d. ครับ : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : ฺBon March 29, 2008, 04:08:18 PM โอ้ววว
ขอบคุณมากๆน่ะคราบบบบ สำหรับอารัยดีๆหยั่งงี้ ^^~ : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : เหม่งจ๋าย : ) March 29, 2008, 05:52:31 PM เพิ่งอ่านจบตอนที่ 3..
คือๆๆ.. ขีดเส้นใต้มันหายไปเปล่าอ่าคะ ?? : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี March 29, 2008, 08:57:53 PM จริงด้วยครับจาพยายามแก้ไขละกันนะ ;D
: Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : เหม่งจ๋าย : ) March 30, 2008, 09:39:34 AM เหมือนรู้สึกว่า..
พอตัวเองจะตอบ.. จะมี 2 ช้อย ช้อย อ้างอิง GM กะ sense อย่างเดียว - - และข้อที่ถูกเป็นข้อ sense ทุกครั้งเลยง่ะ... แป่วววว : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : ๛ิ•*•ตึ๋งหนืด•*•๛ March 30, 2008, 07:56:16 PM เยอะจัด ตาลายยยยยยยยย
: Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : Fatal Frame March 31, 2008, 12:21:09 AM มีประโยชน์มากครับ ว่าง ๆ อยู่เลยทำมันซะเลย งิ
: Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี April 03, 2008, 09:02:13 PM แหะๆ โทดทีที่มาช้าคับ ไปดูกันเลยคับตอน10 ;D
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 10 ข้อสอบที่ผมเอามาฝากวันนี้จะแตกต่างจากข้อสอบของวันก่อนๆนี้นิดหน่อย คือ ส่วนใหญ่ข้อสอบที่คนไทยจะถนัดคือ ประเภทที่ทดสอบความรู้ทางไวยากรณ์โดยตรง แต่ ถ้าเป็นข้อสอบที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาแล้ว บางทีหลายๆคนจะมึนและเริ่มลังเลว่ากรณีที่ให้เป็นตัวเลือกในแต่ละข้อนั้น มันถูกหรือผิดกันแน่ มาลองดูข้อสอบในวันนี้เป็นตัวอย่างกันนะครับ ___________ prevents the spread of infectious diseases, such as cholera, typhoid, and thyphus, that are prevalent in areas of the world that lack proper sanitation. a. Vaccination is important because it b. An important reason to be vaccinated is because it c. You should be vaccinated and this d. An important reason to be vaccinated would be that vaccination ก่อนที่จะเฉลยว่าข้อไหนเป็นคำตอบที่ถูกต้อง มาลองตัดตัวเลือกกันดีกว่านะครับ ตัวเลือกแรกที่ควรตัดออกเลยคือ ข้อ (b) สาเหตุก็คือ การใช้โครงสร้าง The reason...is because เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำในภาษาอังกฤษครับ นักไวยากรณ์มองว่าโครงสร้างแบบนี้ เป็นโครงสร้างที่ redundant คือ ใช้คำฟุ่มเฟือย โดยไม่จำเป็น ถ้าต้องการจะใช้ reason อยู่ในประโยค ควรเขียนให้อยู่ในรูปของ The reason ... is that นะครับ ตัวเลือก (c) ก็ไม่สมควรเป็นคำตอบของโจทย์ข้อนี้ สาเหตุที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือ การใช้ pronoun "this" ในกรณีนี้ไม่ชัดเจนว่า ผู้เขียนต้องการสื่อว่า this ในกรณีนี้หมายถึงอะไร ตัวเลือก (d) ใช้ โครงสร้าง the reason ... is that ถูกต้องครับ แต่สิ่งที่ไม่ถูกต้องคือ การใช้ would be มาแทน is ซึ่งไม่ถูกต้อง ถ้าเราพิจารณาการใช้ การใช้ tense ของประโยค ( prevents) จะพบว่าประโยคจะอยู่ใน present simple tense ดังนั้น การใช้ would be ในตัวเลือกนี้จึงไม่ถูกต้อง สรุปว่า ตัวเลือก (a) เป็นคำตอบที่ดีที่สุดของ โจทย์ข้อนี้ครับ บางคนอาจจถามต่ว่า ถ้าในข้อ (d) ใช้ is แทน would be จะผิดหรือไม่ คำตอบคือ ไม่ผิดไวยากรณ์ครับ แต่อาจจะไม่สมควรใช้ เมื่อเทียบกับ (a) เพราะประโยคนั้นสั้น กะทัดรัด กว่า โครงสร้าง (d) ที่แก้แล้ว อย่าลืมว่า ข้อสอบประเภทนี้ (พบบ่อยใน GMAT) จะทดสอบความสามารถในการเขียนด้วย ซึ่งหัวใจของการเขียนคือ สั้น กะทัดรัด ชัดเจน นะครับ พบกันใหม่คราวหน้าครับ : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี April 05, 2008, 02:11:28 PM วันนี้มี3ตอนรวดเลยนะครับ ;D
เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 11 ข้อสอบวันนี้ ผมจำไม่ได้แล้วว่าไปได้มาจากไหนแต่เห็นว่ามันน่าสนใจดี เลยอยากเอามาฝากให้ท่านผู้อ่านลองทำดูนะครับ To restore fishing grounds damaged by pollution, marine engineers can create an artificial reef by towing old barges to an offshore location and ________ to the sandy bottom. a. sinking b. sinking them c. sink them d. having sunk them โจทย์ข้อนี้เหมือนกับหลายๆข้อก่อนหน้านี้ครับ คือ เราสามารถใช้เทคนิคการตัดตัวเลือกมาหาคำตอบได้ ครับ ตัวเลือกไหนที่คิดว่าน่าจะตัดไปก่อนข้ออื่นดีครับ ผมเลือกตัดข้อ (a) ออกไปก่อนครับ สาเหตุก็คือ to sink ในกรณีนี้เป็น transitive verb หรือ กริยาที่ต้องการกรรมมารองรับ ซึ่งสามารถมองได้ง่ายๆจากประโยคเลยครับว่า กรรมที่จะต้องมารองรับคือ barges ซึ่งต้องใช้ pronoun เป็นพหูพจน์คือ them นั่นเอง ตัวเลือกตัวต่อไปที่ผมอยากจะตัดคือ ข้อ (c) โดยใช้ and เป็น key word ในการตัดตัวเลือกนี้ เมื่อเราเจอ and ในประโยคนี้ เรามักจะเจอโครงสร้างเป็นแบบ parallel structure ซึ่งพบได้ในกรณีนี้เช่นกัน สังเกตดีๆจะเห็นว่า by towing...and (by) sinking... เป็นโครงสร้างที่ต้องใช้ในประโยคนี้ เนื่องจาก by สามารถถูกละออกไปได้ แต่ โครงสร้างที่ตาม and มาต้องเป็น V-ing เหมือนกับ towing ดังนั้นการใช้ sink แบบในข้อ (c) จึงไม่ถูกต้อง ตัวเลือกข้อสุดท้ายที่ควรตัดคือ ข้อ (d) ซึ่งถึงแม้จะใช้โครงสร้างเป็น parallel structure ที่ถูกต้อง แต่สิ่งที่ผิดสำหรับตัวเลือกข้อนี้คือ เรื่องของตรรกะ การใช้โครงสร้าง having sunk them นั้น จะหมายความว่า engineers sunks the barges ก่อนที่จะ towing them ซึ่งผิดตรรกะ และ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้เขียนต้องการจะสื่อ สรุปได้ว่า คำตอบที่ถูกต้องของโจทย์ข้อนี้คือ ข้อ (b) ครับผม ซึ่งถูกต้องทั้งการใช้ pronoun และ การใช้โครงสร้าง parallel structure ที่เหมาะสมครับ ซึ่งประโยคที่ถูกต้องเขียนออกมาได้ว่า To restore fishing grounds damaged by pollution, marine engineers can create an artificial reef by towing old barges to an offshore location and sinking them to the sandy bottom. : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี April 05, 2008, 02:12:10 PM เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 12
โจทย์ที่ผมเอามาฝากวันนี้เป็นข้อสอบของ GMAT ครับ คือ เข้าจะมีประโยคอยู่สี่แบบที่พูดเรื่องเดียวกันแต่มีการนำเสนอที่แตกต่างกันไป หน้าที่ของผู้สอบก็คือ เลือกประโยคที่คิดว่าสื่อสารได้ดีที่สุด ลองดูนะครับว่า เราจะเลือกถูกหรือเปล่า A). Young female ballet dancers and gymnasts sometimes fail to maintain good eating habits caused by the desire to be as thin as possible. B). Good eating habits sometimes fail to be maintained by young female ballet dancers and gymnasts caused by desiring to be as thin as possible. C). Because they desire to be as thin as possible, good eating habits are sometimes not maintained by young female ballet dancers and gymnasts. D). Because they desire to be as thin as possible, young female ballet dancers and gymnasts sometimes fail to maintain good eating habits. อ่านประโยคในตัวเลือกทั้งสี่ข้อแล้ว คิดว่าข้อไหนน่าจะเป็นประโยคที่ดีที่สุดครับ ถ้าคิดออกแล้ว มาวิเคราะห์ตัดตัวเลือกกันครับว่า ตรงกับที่คิดไว้หรือเปล่านะครับ ประโยค (A) มีปัญหาอยู่นิดหน่อยนะครับ อ่านประโยคนี้แล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่าตกลง อะไรกันที่แน่ที่ caused by the desire to be as thin as possible การที่ผู้เขียนประโยคนี้ นำ phrase นี้ไปวางตามหลัง good eating habits จึงทำให้การตีความของประโยคผิดความหมายที่ต้องการสื่อไปนะครับ ซึ่งความผิดพลาดของประโยคนี้คือ วาง modifier ผิดตำแหน่งนั่นเอง ประโยค (B) มีปัญหาคล้ายๆกับประโยค (A) เลย กรณีนี้ caused by desiring to be as thin as possible ไปวางไว้ข้างหลัง young female ballet dancers and gymnasts ซึ่งไม่ใช่ modifier ที่ถูกต้อง และ ตรงกับความหมายที่ต้องการจะสื่อ ประโยค (C) บกพร่องเรื่องของการใช้ pronoun ครับ ประโยคนี้สื่อว่า they จะหมายถึง good eating habits ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆแล้ว ก็จะผิดตรรกะ เพราะ good eating habits ไม่สามารถ desire to be as thin as possible ได้ครับ นั่นก็หมายความว่าประโยคที่ดีที่สุดก็คือ ประโยค (D) ครับ ประโยคนี้ใช้ they แทน คำนามที่ถูกต้องตามตรรกะของประโยค และไม่มีการใช้ modifier ที่ผิดที่ผิดทางเหมือนในประโยคข้ออื่นๆครับ เป็นไงบ้างครับ ตกลงเลือกข้อถูกหรือเปล่าครับ ;D : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี April 05, 2008, 02:12:58 PM เก็บตกจากข้อสอบตอนที่ 13
วันนี้มีข้อสอบมาให้ทำอีกแล้วครับ ข้อสอบสไตล์นี้เจอบ่อยครับในข้อสอบ GMAT ที่ผู้สอบจำ ลองดูประโยคข้างล่างนี้นะครับ แล้วทายซิว่าคำตอบที่ถูกต้องควรจะเป็นข้อไหนครับ Recent surveys indicate that, contrary to popular belief, total abstinence from alcohol does not coorelate _________. A). as strongly with good health as does moderate drinking B). strongly with good health as does moderate drinking C). as strongly with good health as with moderate drinking D). as strongly with good health as moderate drinking อ่านโจทย์ข้อนี้แล้ว พอจะมองออกมั้ยครับว่า คำตอบที่ถูกต้องคือข้อไหนครับ ก่อนอื่นมาวิเคราะห์โจทย์ตัดตัวเลือกกันก่อนนะครับ ก่อนอื่นเราต้องสังเกตว่า ประโยคนี้มีการเปรียบเทียบ หรือ comparison กันเกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือ การเปรียบเทียบกันนั้นถูกต้องตรงตามตรรกะหรือไม่ จากการวิเคราะห์ประโยคแล้ว จะเห็นว่าสิ่งที่โจทย์ต้องการจะเปรียบเทียบกันคือ "how strongly total abstinence from alcohol correlates with good health" กับ "how strongly moderate drinking correlates with good health" คำตอบในข้อ C) เป็นคำตอบแรกที่ควรตัดทิ้ง เพราะว่าคำตอบข้อนี้เปรียบเทียบผิดไปจากความหมายที่ต้องการจะสื่อ คำตอบในข้อ D) เป็นคำตอบที่ไม่ถูกต้อง เพราะประโยคต้องการ กริยา ซึ่งในกรณีนี้คือ "does" เพื่อที่ต้องการจะสื่อความหมายว่า การเปรียบเทียบนั้นระหว่าง how one "correlates" และ how the other "correlates" กริยา does นั้นจึงจำเป็นต้องมีไว้แทน "correlates" นั่นเอง คำตอบในข้อ B) บกพร่องในเรื่องของโครงสร้างครับ การเปรียบเทียบกันในระดับขั้นที่เท่าๆกัน จะต้องอยู่ในรูป as....as ซึ่ง as ตัวหน้าหรือตัวหลังจะขาดหายไปไม่ได้ ดังนั้นการที่ตัด as ตัวหน้าออกไปในตัวเลือกนี้จึงไม่ถูกต้อง นั่นคือ คำตอบที่ถูกต้องของโจทย๋ข้อนี้คือข้อ A) ครับ โครงสร้างถูกต้อง และ การเปรียบเทียบกันก็ถูกต้องตรงตามตรรกะเช่นกัน ตอบถูกกันหรือเปล่าครับ ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี April 10, 2008, 11:02:25 PM สวัสดีครับ พบกันอีกเหมือนคยกับข้อสอบภาษาอังกฤษฝึกสมองที่ผมพยายามหามาฝากกัน อาจจะมีง่ายบ้าง ยากบ้าง สลับกันไป ถ้ามันยากเกินไปก็อย่าเพิ่งท้อ และ ถ้ามันง่ายเกินไปก็อย่าเพิ่งเบื่อนะครับ เอาเป็นว่าเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาเริ่มทำข้อสอบประจำวันนี้เลยดีกว่านะครับ
A study shows that boys who were fed a low-saturated-fat diet from infancy through their first 10 years had lower cholesterol levels, healthier arteries, and a lower risk of stroke than those feeding normal diets. a. shows b. low-saturated-fat c. healthier d. feeding e. no error อ่านประโยคคำถามวันนี้แล้ว คิดว่าพอที่จะวิเคราะห์หาที่ผิดเจอมั้ยครับ หลายคนเห็นการใช้ parallel structure ในประโยคนี้แล้วคงคิดว่า มาอีกแล้วประโยคนี้ต้องการทดสอบความเข้าใจเรื่องของ parallel structure อีกแล้ว ยังไม่ทันได้อ่านประโยคดีๆก็ลงมือตอบ ข้อ c ซึ่งเป็นคำตอบเดียวที่ดูเหมือนว่าจะต้องมีอะไรผิดเกี่ยวกับโครงสร้างนี้ การคาดคะเน เดาใจคนออกข้อสอบแบบนี้อันตรายครับ อย่าผลีผลามใช้หลักสถิติที่ว่าเรื่องไหนออกบ่อยแล้วเรื่องนั้นต้องเป็นคำตอบ เพราะไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ลองนำ parallel structure ในประโยคนี้มาดูชัดๆอีกทีนะครับ ...had lower cholesterol levels, healthier arteries, and a lower risk of stroke... จะเห็นว่า ผู้เขียนใช้ comparative adjective เป็นลูกเล่นในการสร้าง parallel structure ได้อย่างถูกต้องสวยงาม ซึ่งแน่นอนใครที่เลือกข้อ c ถูกโจทย์หลอกแล้วหล่ะครับ คำตอบที่ถูกต้องของข้อสอบข้อนี้ก็คือ ข้อ d ครับ หลายๆท่านอาจจะยังคงสงสัยว่าเป็นข้อนี้ได้ยังไง ไม่ยากครับ Hint อยู่ตรงที่ว่า ผู้เขียนใช้คำว่า ...boys who were fed... นำมาในตอนต้นของประโยค ซึ่งเมื่อไม่มีการขีดเส้นใต้ เราก็ถือว่าส่วนนี้ถูกต้อง แต่พอมาถึงจุดที่ต้องใช้โครงสร้างเดียวกันในตอนท้ายของประโยค ผู้เขียนกลับใช้โครงสร้างที่แปลกไปคือ those feeding normal diets ซึ่งย่นย่อมาจาก those boys who were feeding normal diets ซึ่งจะเห็นว่าเป็นโครงสร้างที่ไม่ถูกต้อง สามารถทำให้ถูกต้องโดยการเขียนให้สอดคล้องกับโครงสร้างที่นำมา ซึ่งก็คือ those boys who were fed normal diets ย่นย่อได้เป็น those fed normal diets นั่นเอง ดังนั้นจะเห็นว่า คำตอบที่ถูกต้องของข้อสอบข้อนี้คือ ข้อ d และ ประโยคที่ถูกต้องเขียนใหม่ได้ว่า A study shows that boys who were fed a low-saturated-fat diet from infancy through their first 10 years had lower cholesterol levels, healthier arteries, and a lower risk of stroke than those fed normal diets. วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ แล้วพบกันใหม่คราวหน้าครับ ;D : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! April 11, 2008, 10:29:44 PM แปะ แปะ แปะ เก่งจริงๆ ปรบมือให้
ลูกใครหนอ พ่อช่างปั้น ขาวเป็นนวล อ้วนจ้ำม่ำ ;D : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : ขี้เกียจ*เก่ง April 11, 2008, 10:31:50 PM งง
อ่านไม่เข้าใจ ทำไมเราเป็นคนเข้าใจไรยากจิ๊ง คงไม่มีใครงงกะเราเหะ : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : หนึ่งในสาวกครูสมศรี April 11, 2008, 10:32:18 PM แปะ แปะ แปะ เก่งจริงๆ ปรบมือให้ อะไรกันครู ผมไม่ได้สะสมไขมันซะหน่อย ;Dลูกใครหนอ พ่อช่างปั้น ขาวเป็นนวล อ้วนจ้ำม่ำ ;D : Re: เก็บตกจากข้อสอบคับ : โสภิดา แก้วเขียว December 23, 2009, 07:06:54 PM อยากรู้คำตอบเรื่อง neither-nor
|