: ความพยายามที่จะไม่เป็นไอ้ขี้แพ้ : JINJU. August 25, 2010, 05:57:12 PM ครูคะ .. หนูพยายามอย่างมากที่จะขยันอ่านหนังสือ
ตอนแรกมันก็ไปได้ด้วยดี - แต่แล้วปัญหาก็เริ่มเข้ามา - ที่บ้านหนูต้องค้าขาย คนจีนอย่างบ้านเราทำงานตัวเป็นเกลียว แม่บอกว่าให้หนูตั้งใจเรียนและอ่านหนังสือมากๆมาตั้งแต่เด็ก หนูไม่เคยทำให้แม่ผิดหวังเลยค่ะ ขณะที่แม่ก็ทำแต่งานของตัวเองมาตลอด ... จนวันนี้ แม่ปวดไหล่มาก เอ็นที่ไหล่ฉีก หรือ ช้ำ หรือมันพลิก อะไรซักอย่างหนูก็ไม่รู้ เพราะแม่ไม่ยอมไปหาหมอเลย ยังเอาแต่ทำงาน แม่บอกว่า 'ถ้าเราหยุดทำ แล้วพวกคนงานจะอยู่กินกันยังไง ?' หนูไม่มีวิธีอื่น จึงตัดเวลาอ่านหนังสือเสาร์อาทิตย์ของตัวเองออก ตัดเวลาที่เขามาติวให้ตามที่ต่างๆออก ตัดเวลานอน เพื่อไปเพิ่มกับการอ่านหนังสือ แต่เดิมหนูสุขภาพไม่ไดอยู่แล้ว ถ้าลองเป็นหวัดก็ต้องรักษาตัวยาว ดันกลายเป็นภาระให้แม่ซะอีก ----- พองานหนักเข้า คนงานลาออกกันหมด เพราะไม่สู้งานหนัก พวกเขาเห็นแก่ตัวทั้งที่แม่เห็นแก่พวกเขา ตอนนี้หนูเลยกลายเป็นว่า กลับจากโรงเรียน ช่วยงานเสร็จ อาบน้ำ กินข้าว ก็ปาไปเกือบสามทุ่ม ทำการบ้านที่โรงเรียนอีก ทั้งที่อยู่ม.6 กันแล้ว แต่อาจารย์ก็ให้งานถล่มทลายจนเด็กอดนอนกันไปหมด กว่าการบ้านจะเสร็จ ห้าทุ่ม ทั้งงานกลุ่มงานเดี่ยว อ่านหนังสือได้ไม่ถึงชั่วโมงตื่นมาอีกทีก็เช้าแล้วค่ะ ให้อดนอนหนูทำได้ แต่สุขภาพหนูไม่อำนวยเลย ทุกวันนี้หนูยังอดทนไว้ได้อยู่ หนูพยายามสู้กับทุกอย่าง เวลาที่เห็นแม่ล้มลงนอนเหมือนหมดแรงทุกวัน หนูจะร้องไห้ทุกที แม่อายุมากแล้ว ทำงานหนักมานานเกินไปแล้ว แม่เคยเปรยๆไม่อยากให้ลูกมาเหนื่อยกับการค้าขายเลย กว่าเราจะมีอย่างทุกวันนี้ อากงอาม่าก็เหนื่อยมามากกว่านี้เป็นสิบเป็นร้อยเท่า .. แม่อยากให้ลูกพาตัวเองไปให้รอด ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่นหรอกนะ หนูตัดสินใจเลือกจะสอบชิงทุนไปเรียนปริญญาตรีที่ต่างประเทศ ถ้าหนูทำได้ ---- แม่ไม่ต้องแลกกับอะไรทั้งนั้น หนูไม่ได้ต้องการอย่างอื่น แค่แม่พูดเหมือนทุกครั้งว่า 'แม่ภูมิใจในตัวลูกเสมอ' ก็พอ...... : Re: ความพยายามที่จะไม่เป็นไอ้ขี้แพ้ : คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! August 25, 2010, 10:21:47 PM คุณครูขอชื่นชมหนุนะลูก เก่งมากค่ะ
ไม่เป็นไรนะลูก ชีวิต ถูกลิขิตมาแล้วให้เราต้องเป็นเช่นนั้น แต่หนูทราบไหมลูกว่ามหาวิทยาลัยชีวิตของหนูที่มี"ความลำบาก"เป็นอธิการบดี มี"ความอดทนอดกลั้น"เป็นคณาจารย์ มีหลายสิ่งหลายอย่างที่สอนวิชา "การสู้ชีวิต"ให้กับหนู กว่าหนูจะจบปริญญาตรีในชีวิตจริง หนูก็คงจะได้รับดุษฎีบัณฑิตกิติมศักดิ์ไปอีกใบแล้วลูก กายเหนื่อยก็ไม่เป็นไร แต่อย่าให้ใจเหนื่อยนะลูก คุณครูเป็นคนทำงานหนักมาก มีพี่ๆเสื้อส้มก็มาก กว่าจะได้นอนก็หนักเอาการ ทั้งๆที่เป็นคนนอนน้อยไม่ได้ มีคนชอบถามว่าเหนื่อยไหม คุณครูก็ถามว่า เหนื่อยเป็นอย่างไรเหรอ ไม่ทราบ ไม่รู้จัก เพราะงานที่คุณครูทำ มันเป็นงานที่คุณครูรัก คุณครูก็เลยมีคววามสุข ส่วนงานที่หนูกำลังทำ ก็เป็นงานที่มีคุณค่าเช่นกัน เพราะเป็นงานที่ทำให้ผู้มีพระคุณของเราได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น คนเรา ถ้าทำความดี ฟ้าดีย่อมมีตา ประทานรางวัลให้โดยไม่ต้องวอนขอนะลูก เชื่อมั่นในความดีนะคะ แต่หนูเองคงต้องฝึกการพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการพยุงลมหายใจให้เนิบช้าและนิ่มนวลตลอดเส้นลมที่เข้าและออก หายใจให้สุดลมอย่างสม่ำเสมอ ออกให้สุดลมอย่างสม่ำเสมอ ระหว่างหายใจ ปล่อยกายให้สบายๆ ไม่เกร็ง ไม่ฝืน ไม่หวัง ถ้าจิตใจของหนูเป็นจิตที่แผ้วใส ลมหายใจก็จะมีคุณภาพ ลมหายใจที่มีคุณภาพ จะเสริมธาตุในกายให้ทำงานได้สมดุลย์ แม้นอนน้อย แต่ก็อิ่มได้นะคะ ระหว่างทำงานก็อย่าขัดแย้งด้วยการคิดน้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาที่ไม่มีเวลาเท่าเพื่อน ความ"ไร้เดียงสา" ไม่คิด ไม่เปรียบเทียบจะทำให้หนุก้าวล่วงแต่ละวันไปอย่างปริ่มสุขนะลูก คนทำความดี และพยายาม ขยัน ไม่ท้อแท้ ในที่สุดจิตของหนูก็จะทรงพลัง หนุจะเข้าใจชีวิต รู้ค่าของเงิน เข้าอกเข้าใจในหัวใจผู้อื่น แม้พระพุทธเจ้ามีปราสาททิพย์วิมาน 4 ฤดูที่น่าอยู่ พระองค์ยังทรงทิ้งทรัพย์ศฤงคารเหล่านั้น เพื่อแสวงหาความทุกข์และการดับทุกข์ แล้วเรา ปุถุชนธรรมดาจะไปกลัวอะไรกับความลำบากของชีวิต มากสุดก็แค่นอนน้อยกว่าเขา แล้วก็ขยันมากกว่าเขา เชื่อคุณครูนะคะ คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่มีใครได้สิ่งเหล่านี้มาง่ายๆ อดทนไว้นะลูก แยกความเหนื่อยกายออกไป อย่าให้มารวมกับใจทำให้หนูสูญเสียพลังไปโดยสูญเปล่า ใจต้องไม่เหนื่อย และต้องไม่ท้อนะคะ คุณครูขอเป็นกำลังใจให้หนูนะลูก ขอพระบันดาลให้ความดีของหนูเป็นแรงผลักดันให้หนูสอบเข้าในคณะและมหาวิทยาลัยที่หนูใฝ่ฝันได้ดังใจปรารถนานะคะ คนที่ลำบากกว่าเรายังมีอีกมาก สู้ๆ นะลูก |