: หนู ท้อมาก ค่ะครู : C2 June 13, 2010, 11:55:18 AM คุณครูคะ หนูท้อมาก ค่ะ :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'(
หนูรู้สึกตัวเอง แย่มาก ไม่ขยันอ่านหนังสือ เรียนก็ไม่เก่ง แต่หนูั้ตั้งใจเรียนนะคะ ตั้งใจเรียนมาก อ่านหนังสือบ้างเป็นครั้งคราวแต่ว่าพักนี้หนูหมดแรงค่ะ รู้สึกเหมือนไม่มีกำลังใจในการอ่าน (หนูอยุ่หอพักค่ะ ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่จึงรู้สึกเหงาๆ) เป้าหมายของหนูคือแพทย์ค่ะ หนูอยากเป็นหมอจะได้ดูแลครอบครัวได้ ช่วยเหลือคนอื่นได้ แต่หนูรู้สึกหมดแรงอย่างบอกไม่ถูกค่ะ เหมือนกับว่า ใจคิดจะสู้ บอกตัวเองตอนจะตื่นนอนเสมอว่า ลุกสิ ลุกขึ้นมาอ่านหนังสือสิ แต่ร่างกายไม่เป็นแบบนั้นค่ะ มันขัดแย้งกันโดยตลอด คนบางคนก็บอกว่าหนูขยันอยู่แล้ว (ซึ่งหนูรู้ว่ามันไม่จริง) แต่คนบางคนกลับคิดว่าหนูคงเข้าไม่ได้หรอกนะ เพราะภายนอกหนูเป็นคนร่าเริงค่ะ ยิ้มตลอดเวลาไม่ว่าสุขหรือทุกข์จนเพื่อนๆคิดว่าหนูเป็นคนไม่จริงจังอะไร แต่จริงๆแล้วหนูเครียดมากๆๆค่ะ คุณครู ขอโทษนะคะที่พิมพ์มายืดยาว แต่ได้ระบายบ้างก็ดีเหมือนกัน ขอบคุณทุกคำแนะนำจากทุกคนค่ะ : Re: หนู ท้อมาก ค่ะครู : pairry June 13, 2010, 03:17:15 PM เอาอย่างนี้นะคะ คนเราอ่ะลองถ้าตั้งใจอะไรมากๆ ก็จะเกิดความคาดหวังสูง
หนูอย่าคิดมากนะคะ คิดว่าเราทำให้ดีที่สุด แล้วผลที่ออกมาพี่ว่าย่อมออกมาดีด้วยเช่นกันค่ะ เป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆ ค่ะ : Re: หนู ท้อมาก ค่ะครู : คุณพ่อ June 14, 2010, 10:40:39 AM ผมกำลังติดตามคำปรึกษาที่ตั้งกระทู้ไว้ เหลือบเห็นกระทู้ของหนูเลยเปิดเข้ามาดู อยากจะบอกว่า "ถ้าผมเป็น พ่อแม่ ของหนู ผมคงรู้สึกดีมากที่ลูกมีความตั้งใจ และ มีเป้าหมายในการเรียน"
ไม่ว่าที่สุดแล้ว หนูจะได้เรียนแพทย์ในครั้งแรกของการสอบหรือเปล่า ไม่สำคัญเท่ากับหนูได้ให้ความสุขทางใจแก่พ่อแม่ที่เป็นเด็กดี อยากจะทำให้ดี พยายามที่จะทำให้ได้ ปัจจุบันผมอายุ 52 ปีแล้ว สมัยก่อนต้นปีสุดท้ายก่อนเอ็นทรานซ์ คุณแม่เสีย+ไม่ได้อยู่ในความดูแลของคุณพ่อ แม้จะเป็นเด็กที่เรียนได้ในระดับกว่า 80 % ผมก็เสียศูนย์ คงจะพอมีบุญเหลืออยู่ ประมาณ 20 วันก่อนเอ็นฯ ผมคิดถึงคำสอน+ความฝันของคุณแม่ จึงยูเทิร์นกลับมาทุมแทอ่านหนังสือ แม้ผมจะมีคุณสมบัติอยู่ในกลุ่มที่จะสามารถสอบวิศวะได้ แต่ด้วยเหตุที่เกิดทำให้ผมต้องประเมิณและเลือกลำดับที่จะสอบ วิศวะ, ถาปัด, เศราฐศาสตร์, วิศวะเกษตรขอนแก่น(เลือกมหา"ลัยที่คะแนนต่ำที่สุดทุกที่) ถึงวันสอบ คณิต+ฟิสิกข์อ่านครบแต่วิชาเคมี ผมยังไม่ได้อ่าน รู้ตัวเลยว่าคณะวิศวะฯไม่ได้เรียนแน่คงลุ้นแต่ 3 อันดับที่เหลือ ผมไปลงทะเบียนเรียนนิติฯรามเพราะคิดว่าคงไม่ได้ แต่ด้วยบุญ+โชค ผมสอบได้ ได้เรียน-ถา"ปัดที่ลาดกระบัง ผมมีเพื่อนรุ่นเดียวกันเรียนในระดับใกล้เคียงกันที่เขาอยากเรียนแพทย์ 2 คนที่อยากจะพูดถึง ทั้งคู่สอบเข้าแพทย์ไม่ได้ คนแรกสอบปีนั้นไม่ได้เลยและกลับมาสอบใหม่ในปีถัดมาปัจจุบันเป็นสูติแพทย์อยู่ที่ ร.พ.ราชวิถี อีกคนสอบติดคณะเภสัชเรียนจนจบเภสัชและไปเรียนต่อแพทย์ที่ต่างประเทศ ปัจจุบันเป็นแพทย์อยู่ที่ ร.พ.ตำรวจ ก็อยากจะบอกว่า เส้นชัยของการเรียนมีทางเลือกและโอกาสหลากหลายในการจัดการ ที่สุดแล้วความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ว่าเราติด "ยี่ห้อ" ว่าเป็นอะไร อยู่ทำอะไรแล้วเป็นที่ยอมรับของสังคม "กลายเป็นยี่ห้อ" (ยกตัวอย่างนะ)แบบ "คุณครูสมศรี" หรือเปล่า : Re: หนู ท้อมาก ค่ะครู : คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! June 14, 2010, 03:50:22 PM หนูน้อยที่รัก
การรเป็นหมอ มิใช่เป็นที่สติปัญญา หากแต่ต้องมีจิตวิญญาณในการรับใช้ผู้คน หมอในพุทธกาลคือ "ผู้ที่ต้องมีมือเปียกอยู่เสมอ" นั่นคือทุกครั้งที่เราจะมอบสิ่งใดให้ผู้อื่น เราจำเป็นจะต้องมอบสิ่งที่ดีที่สุดและสะอาดที่สุดให้แก่เขา จึงเป็นที่มาของแพทย์ในคติโบราณว่า จักต้องเป็นผู้ให้ที่ไม่เคยหยุดยั้ง ถ้าหนูอยากเป็นแพทย์เพื่อช่วยตน ครอบครัว หรือผู้คน หนูคงต้องเสียสละความสุขตั้งแต่วันนี การเตรียมตัวเรียนอย่างหนักหน่วงในวันนี้สำหรับนักเรียนที่จะสอบเข้าแพทย์คือวิถีแห่งการบ่มเพาะให้หนูฝึกความอดทนยามได้เป็นแพทย์อย่างแท้จริง เพราะในความเป็นจริง คงไม่มีใครห้ามผู้ป่วยไม่ให้เจ็บป่วยยามตีสองหรือตีสาม วันนี้ การเตรียมตัวอดหลับอดนอนในสายวิชาชีพนี้ ก็เท่ากับเป็นการฝึกหัดความอดทนในเบื้องต้น คุณครูเคยเข้าโรงพยาบาลตอนตีสาม หมอจบใหม่งัวเงีย ทำท่ารำคาญจาการถูกปลุกมาถามอาการ คุณครูเห็นหน้าหมอคนนี้แล้ว ได้แต่นึกสงสารที่เขาเตรียมรักษาไข้ แต่ไม่ได้รักษา"คนไข้" หากหนูเป็นคนที่เสียสละโดยเนื้อแท้ หนูจะถูกลิขิตจากความเพียรของหนูเองให้หนูเป็น "หมอ" เพราะคนที่เสียสละและกอปรด้วยความรักความห่วงใยผู้อื่น จะไม่มีเวลานึกถึงตนเองแม้ในยามลำบาก หรือแม้ต้องผ่านพ้นความลำบากนั้นไปแล้ว ก็มิได้หวนคิดหรือกล่าวอ้างสิ่งนั้นเพื่อให้เป็นที่ประจักษ์แก่ผู้อื่น เพราะความดีโดยเนื้อแท้ เมื่อกระทำเสร็จ ก็จะได้ความอิ่มใจเป็นผลตอบแทนทันที คนที่จะเป็นแพทย์ได้ ต้องอดทนและเข้มแข็ง เพราะแพทย์ต้องรักษาคนไข้และจิตใจของญาติพี่น้องของคนไข้ด้วยเช่นกัน ขยันเถิดลูก ขยันอย่างม่ต้องตีความว่าขยันแล้วเหนื่อย ขยันแล้วทุกข์ เพราะหนึ่งความเพียรของหนู คือหมื่นแสนการพึ่งพาของผู้คน ถ้าคุณครูขยันแล้ว เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น คุณครูก็จะทำโดยไม่ลังเลและคิดสงสารตนเองเลยค่ะ อ่านหนังสือได้ความรู้ แต่สูงกว่าการได้ความรู้ก็คือ การฝึกให้มีน้ำอดน้ำทน คนเรา ขอเพียงมีความอดทน พากเพียร ไม่ลดละความพยายาม มีปัญญาเป็นเข็มทิศชี้นำทางแห่งจุดหมาย แค่นี้ก็สามารถพาหนูสู่ฝั่งฝันแล้วลูก คนเราที่คิดแต่ตนองย่อมทุกข์ แต่ถ้าคิดถึงคนอื่น พลังแห่งการกระทำจะปริ่มด้วยกำลังแห่งการรังสรรค์ผลงานที่น่าชื่นชม เมื่อถึงวันนั้น หนูก็จะได้กลายเป็น "แพทย์แห่งแผ่นดิน" ขอให้หนูสัมฤทธิในสิ่งที่หนูใฝ่ฝัน ขอเป็นกำลังใจให้นะลูก อดทนไว้นะคะหนูน้อย : Re: หนู ท้อมาก ค่ะครู : เหม่งจ๋าย : ) June 15, 2010, 11:15:26 PM คุณครูคะ หนูท้อมาก ค่ะ :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( :'( หนูรู้สึกตัวเอง แย่มาก ไม่ขยันอ่านหนังสือ เรียนก็ไม่เก่ง แต่หนูั้ตั้งใจเรียนนะคะ ตั้งใจเรียนมาก อ่านหนังสือบ้างเป็นครั้งคราวแต่ว่าพักนี้หนูหมดแรงค่ะ รู้สึกเหมือนไม่มีกำลังใจในการอ่าน (หนูอยุ่หอพักค่ะ ไม่ได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่จึงรู้สึกเหงาๆ) เป้าหมายของหนูคือแพทย์ค่ะ หนูอยากเป็นหมอจะได้ดูแลครอบครัวได้ ช่วยเหลือคนอื่นได้ แต่หนูรู้สึกหมดแรงอย่างบอกไม่ถูกค่ะ เหมือนกับว่า ใจคิดจะสู้ บอกตัวเองตอนจะตื่นนอนเสมอว่า ลุกสิ ลุกขึ้นมาอ่านหนังสือสิ แต่ร่างกายไม่เป็นแบบนั้นค่ะ มันขัดแย้งกันโดยตลอด คนบางคนก็บอกว่าหนูขยันอยู่แล้ว (ซึ่งหนูรู้ว่ามันไม่จริง) แต่คนบางคนกลับคิดว่าหนูคงเข้าไม่ได้หรอกนะ เพราะภายนอกหนูเป็นคนร่าเริงค่ะ ยิ้มตลอดเวลาไม่ว่าสุขหรือทุกข์จนเพื่อนๆคิดว่าหนูเป็นคนไม่จริงจังอะไร แต่จริงๆแล้วหนูเครียดมากๆๆค่ะ คุณครู ขอโทษนะคะที่พิมพ์มายืดยาว แต่ได้ระบายบ้างก็ดีเหมือนกัน ขอบคุณทุกคำแนะนำจากทุกคนค่ะ ตายละ เราฟีลเดียวกัน T T" ตอนนี้พยายามอยากตื่นมาเช้ามากกก เพื่ออ่านหนังสือ แต่ไม่รู้ทำไมตัวเองยังจัดเวลาได้ไม่ดีซะที ตอนดึกก็ดึกตลอดเลย (เช่นตอนนี้เป็นต้น ซึ่งถ้าตื่นมาตี 4 ตามเดิมไปร.ร.ก็จะน๊อค = =) ยังไงเราก็มาพยายามด้วยกันเถอะนะ : )) เราเชื่อว่าเธอได้เป็นแพทย์ที่ดีแน่นอน ^____^// สู้ ๆ |