: ความทุกข์ใจของแม่ : 8094 November 09, 2007, 03:11:33 PM คุณแม่เป็นคนต่างจังหวัดอยู่แถวๆสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ย้ายลูกมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพ ปรากฎว่าโรงเรียนที่ลูกเรียนไม่เหมือนโรงเรียนเก่าเนื่องจากคุณครูไม่ใคร่จะสอนลูกมีความรุสึกว่าไม่ได้ความรู้จากโรงเรียน แม่ใช้วิธีให้เรียนพิเศษเสริมลูกบอกว่าทางโรงเรียนไม่ได้ให้ความรู้ที่เพียงพอเมื่อไปเรียนพิเศษก็จะไม่เข้าใจ ทำให้ความรู้ไม่เพิ่มพุนอยากจะย้ายกลับมาเรียนที่โรงเรียนเดิม แต่แม่คิดของแม่ว่าลูกต้องการเรียนสาขาการออกแบบผลิตภัณฑ์แต่ความรู้เกี่ยวกับ DRAWING ลูกมีไม่เพียงพอ เมื่อไปสอบจะสู้เด็กที่เรียนตลอดกาลไม่ได้ ลูกจึงตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเรียนที่กรุงเทพ หรือจะกลับไปเรียนต่างจังหวัด แต่ลูกพูดมาประโยคหนึ่งว่าถ้าหากทนเรียนไม่ได้แปลว่าไม่จบ ม6 และจะเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ (ลืมบอกไปว่าลูกย้ายระหว่างปี คือมาเรียน ม5 ในปีการศึกษา2550) แม่มาเยี่ยมลูกทุก 2 อาทิตย์ โดยมาวันศุกร์กลับวันอาทิตย์เพราะแม่ต้องทำงาน และยังต้องดูแลยาย ขณะนี้ลูกมีอาการไม่อยากไปโรงเรียนและไม่ค่อยคุยกับเพื่อน เนื่องจากลูกมีความรู้สึกว่าเพื่อนเห็นแก่ตัว ไม่เอื้อเฟื้อ ลูกทราบได้จาการที่ลูกป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ไม่ได้ไปโรงเรียน 3 วัน โทรศัพท์ถามเพื่อนๆว่าคุณครูสอนอะไร เพื่อนๆไม่บอก ลูกจึงท้อแท้ แม่รบกวนคุณครูไม่ทราบจะแก้ปัญหาอย่างไรดี ขอบพระคุณคะ
: Re: ความทุกข์ใจของแม่ : คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! November 09, 2007, 08:44:49 PM คุณแม่ขา ดิฉันขอแสดงความเห็นใจแกคุณแม่และน้องนะคะ
เด็กคงอึดอัดกับการเรียนที่แกไม่คุ้นเคยและเกิดเป็นความเครียดความกังวล การย้ายกลับคงต้องใช้เวลาใช่ไหมคะ ดิฉันอยากให้เด็กเป็นผู้เลือกและตัดสินใจในสิ่งที่เด็กชอบค่ะ สำหรับเด็กนั้น ความรู้สึกที่ดีคือน้ำทิพย์ชะโลมใจให้แก แต่ก่อนที่เด็กจะตัดสินใจย้ายกลับ(ถ้าเด็กเลือกเช่นนั้น) คุณแม่คงต้องรอเวลาให้แกได้ปรับตัวในครั้งสุดท้าย และให้เด็กได้ยืนยันความรู้สึกของตัวเองว่าเขาได้ตัดสินใจดีแล้ว สำหรับเด็กแล้ว ภาวะที่ขาดความมั่นคงทางจิตใจจะทำให้แกล่าถอยมากกว่าจะก้าวไปข้างหน้า แต่การย้ายกลับก็ควรให้แง่คิดแก่ลูกนะคะว่า "การสอบในปัจจุบันคือการคัดคนที่พร้อมที่สุด ลูกถอยไปอยู่ที่เก่าได้ แต่ลูกต้องก้าวให้ถี่และเร็วมากกว่าเดิม เมื่อลูกกลับไป ลูกต้องแข่งกับความเกียจคร้านของตนเองให้ได้ ลูกต้องอดทน ขยันทำข้อสอบมากๆ และอย่ายอมแพ้ เพราะแม้แต่เด็กตาพิการยังสอบได้คณะดีๆ ทั้งที่เขาบกพร่องทางสรีระ และยังขาดโอกาสทางการศึกษา แต่เขาสอบได้เพราะเขามีความพากเพียร" คุณแม่อย่าแสดงความกังวลให้แกสับสนและขาดกำลังใจนะคะ เข้มแข็งนะคะคุณแม่ เพราะเด็กสามารถรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของผู้เป็นพ่อแม่ได้ดี คุณแม่ควรให้กำลังใจเพื่อแกจะได้ไม่เกิดความขัดแย้งในจิตใจ คงต้องหาซื้อตำรากลับไปอ่านมากๆค่ะ โดยเฉพาะพวกข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ถ้าคุณแม่อยากพูดคุยกับดิฉัน คุณแม่สามารถทรมาที่โรงเรียนและฝากเบอร์โทรกลับโดยกรุณาอ้างอิงสักเล็กน้อยว่า คุณแม่คือผู้ที่ฝากกระทู้ไว้ในบอร์ด จะให้ดิฉันคุยกับน้องเองก็ได้นะคะ ปัจจุบันหนังสือดีๆมีมากมาย เราสามารถศึกษาได้เองเมื่อจิตใจเราพร้อม แต่เท่าที่ดิฉันได้รับเด็กๆจากสามจังหวัดภาคใต้มาเรียนที่โรงเรียนดิฉัน โดยรับผ่านมาจากสตรีวิทย์ 2 ซึ่งเด็กเรียนแล้วพี่ที่คุมห้องบอกว่าเด็กมาทุกครั้ง และดูมีความสุข อีกสองกลุ่มรับมาจากสามเสน และสายปัญญา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆเลย นอกจากนั้น สพฐ ยังไม่ได้นิ่งดูดาย ทางการยังได้จัดสอนเด็กๆก่อนที่จะกลับบ้านที่ปักษ์ใต้นะคะ ไม่ทราบว่าคุณแม่มีอะไรให้ดิฉันช่วยได้บ้าง บอกมาได้เลยนะคะ ดิฉันยินดีช่วยค่ะ อาจจะเป็นเพราะเด็กต้องปรับตัว เลยทำให้แกเครียด ลองให้เเกตั้งสติดูก่อน แล้วค่อยๆถามดีไหมคะ ส่วนวิชา drawing เป็นวิชาทดสอบความถนัด จำเป็นต้องมีทฤษฎีรองรับ ดิฉันสามารถหารุ่นพี่ที่มีน้ำใจเป็นที่ปรึกษาให้เด็กได้ อย่าเพิ่งหมดกำลังใจนะคะคุณแม่ ขอเพียงเรามีความตั้งใจจริงผนวกความเพียร เราต้องมีทางออกค่ะ ดิฉันยินดีเป็นแสงเทียนน้อยๆให้เยาวชนทุกคนบนผืนแผ่นดินไทยค่ะ ดิฉันซาบซึ้งในบทบาทความเป็น "แม่" หรือ "ผู้ให้ที่ยิ่งใหญ๋" คุณแม่เสียสละมากๆเลยค่ะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องไม่ทอดทิ้งคุณแม่ค่ะ เบอร์ติดต่อโรงเรียนนคะ 02 6691401-2 หรือคุณแม่จะฝากเบอร์โทรกลับก็ได้นะคะ ยินดีเสมอค่ะ |