: ชีวิต.... ไม่มีสูตรสำเร็จ : คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!! November 21, 2009, 06:45:48 AM สวัสดีค่ะ คุณครูสมศรี หนูมีข้อสงสัยว่าหนูทำถูกหรือคิดถูกหรือเปล่าค่ะ คุณครูช่วยดูให้หน่อยนะค่ะว่า หนูทำอยู่ตอนนี้ มันถูกหรือยังค่ะ -หนูเรียนอยู่ที่โรงเรียนที่หนึ่งที่พูดภาษาอังกฤษเพื่อให้เด็กฝึกค่ะ เป็นโรงเรียนที่เล็ก ทำให้มีสังคมจำกัด หนูพึ่งเข้ามาเรียนปีนี้ปีแรกค่ะ หนูเป็นคนเงียบ ไม่ค่อยพูด เพราะไม่มีเรื่องอะไรจะพูดด้วยอ่ะค่ะ ก็เลยเงียบมากๆๆๆ(คุณแม่บอกว่าเมื่อก่อนไม่พูดเลย หรือไม่ก็นับคำได้ แต่ตอนนี้พัฒนามานิดนึงแล้ว) หนูไม่รู้จะทำไงดี เพราะว่าหนูอยู่กับเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่นิสัยดี แต่หนูรู้สึกว่าเหมือนไม่สนิทเลย ทั้งๆที่อยู่กลุ่มเดียวกันแท้ๆ อาจจะเป็นเพราะหนูไม่มีเรื่องอะไรไปแชร์กับพวกเขามั้งค่ะ หนูรู้สึกว่าเราไม่มีอะไรเหมือนกัน หรือเป็นเรื่องทีทำให้สนิทกันได้เลย วันๆๆหนูก็แทบไม่ได้พูดไรเลย ไม่มีใครอยากจะคุยกับหนูด้วยมั้งค่ะ(หนูก็ไม่รู้จะพูดอะไรตอบด้วย) หนูคืดว่าหนูไปอยู่อีกกลุ่มจะดีกว่า แต่ก็ดูเหมือนจะน่าเกียจที่อยู่ดีๆหนูจะย้ายกลุ่มไปเลย จนกระทั้งเทอม2 หนูรู้สึกว่ากลุ่มนั้นก็ดูจะเหมือนไม่ค่อยต้อนรับหนูสักเท่าไร กลุ่มนี้พูดไทยกันใหญ่เลย แล้วกลุ่มนั้นยังชอบผิดกฏของโรงเรียนอีกด้วย ซึ่งการผิดกฏนั้นอาจทำให้โดนหมดสิทธิ์สอบ ซึ่งก็หมายถึงซ้ำชั้นนั้นเอง หนูเลยตัดสินใจว่า ทำตัวเฉยๆกับทุกสิ่ง อยู่เหมือนเดิม ขอให้จบจากโรงเรียนนี้ที่แม่หวังไว้ก็พอภายใน3ปี หนูคิดถูกไหมค่ะ แต่ถ้าหนูไม่พูดเลยก็จะไม่ได้ฝึกพูดอังกฤษ แล้วหนูจะมาอยู่โรงเรียนนี้เพื่ออะไรค่ะ(หนูไม่รู้) หนูไม่อยากใช้คำว่าเพื่อนกับคนในห้องเลย เพราะพวกเขาเหมือนกับเป็นแค่คนรู้จักที่จะผ่านเข้ามาในชีวิตของหนูแค่3ปี แล้วจะจากไป โดยที่หนูรู้จักแค่ชื่อของพวกเขาเท่านั้น หนูคิดถูกหรือเปล่าค่ะ การที่เราไม่มีเพื่อนสนิทเลย จะเป็นการปิดสังคมไปเลยเปล่าค่ะ โรงเรียนของหนูเป็นโรงเรียนที่ไม่เหมือนทั่วไป เน้นแต่อังกฤษและกิจกรรม ซึ่งอังกฤษนั้นก็สำคัญ หนูก็รู้ แต่คุณแม่ต้องการให้เข้าบัญชี(คุณแม่วางแผนไว้ให้หมดเเล้ว + หนูไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร จะเป็นอะไร เลยทำให้หนูไม่ต้องทำอะไรเลย คุณแม่จัดการทุกอย่างให้) เลยทำให้ต้องรู้เลขด้วย ทำให้หนูเครียดเรื่องการที่จะเข้ามหาลัยมากๆเลยค่ะ เพราะว่าหนูจะต้องไปเรียนข้างนอกหลายอย่างมากเลย ในโรงเรียนนั้นเลขอ่อนมากมากกกกกกก คือโรงเรียนคิดหลักการสอนเองนะค่ะ หนูไปเรียนพิเศษก็ไม่รู้เรื่องเลย หนูจะทำยังไงดีค่ะ -หนูมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง หนูรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่ชอบถามเรื่องส่วนตัวของหนูในบางครั้งและของคนอื่น เช่น เรื่องเพื่อนสนิทหนูกับแฟนของเพื่อนสนิทหนู เป็นต้น เมื่อเขาคิดว่าหนูรู้ ทั้งๆที่หนูไม่รู้ หรือบางครั้งก็ไม่อยากจะบอกเขา เพราะมันดูเหมือนว่าหนูไม่ให้เกียรติเพื่อนสนิทหนู ที่เอาเรื่องของเขาไปเล่าให้อีกคนฟัง(นินทา) ทั้งๆที่เพื่อนสนิทหนูไม่เคยทำกับหนูแบบนี้มาอก่อน แล้วเพื่อนสนิทหนูก็อุตส่าห์วางใจที่จะมาเล่าให้หนูฟัง ถ้าหนูไปบอกคนอื่นก็คงไม่ดีใช่ไหมค่ะ หนูก็ตอบไปว่าไม่รู้ แต่เขาก็ยังตามตื้อๆๆๆ แล้ววันถัดมาก็ยังมาถามๆๆๆอีก จนหลายวัน เขาเบื่อ เขาถึงเลิก แต่หนูยังรู้สึกว่า เขาไม่เชื่อหนูว่าหนูไม่รู้ ทั้งๆที่หนูไม่รู้อะไรเลย แล้วไม่อยากไปถามเซ้าซี้กับเพื่อนสนิทหนูด้วย เพราะกลัวจะเป็นส่วนตัวมากเกินไป ถ้าเพื่อนสนิทหนูอยากบอกเมื่อไรก็เดี๋ยวคงมาบอกหนูเอง -หนูเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร เพราะไม่ค่อยได้ถามด้วย เนื่องจากไม่จำเป็นที่ต้องรู้ แล้วจะถามไปทำไม พอคนอื่นมาถามหนูหนูก็ตอบว่าไม่รู้ ถ้ารู้หนูแต่ไม่แน่ใจหนูก็จะตอบไปก่อนว่าไม่รู้ เพราะหนูไม่อยากให้พวกเขาเข้าใจผิด หรือมีอะไรผิดพลาด แต่คนอื่นนั้นกับรำคาญหนูและไม่ชอบใจที่หนูบอกเสมอว่าไม่รู้ (หนูไม่รู้แต่พวกเขาเหมือนกับบังคับว่าให้ตอบว่ารู้ยังไงก็ไม่รู้) ครอบครัวหนูก็รู้สึกอย่างงั้นกับหนูด้วยเช่นกัน แต่หนูก็คิดไม่ออกว่าจะตอบว่าอะไร นอกเหนือไปจากไม่รู้ หนูทำผิดหรอค่ะ -หนูอยากจะได้สำเนียงแล้วเก่งอังกฤษ ที่อินเดียจะทำให้หนูพัฒนาได้หรือเปล่าค่ะ คุณครูพอทราบไหมค่ะ -คุณครูเก่งจังเลย ที่มีความประสบความสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้ หนูอยากเป็นแบบคุณครูบ้างจัง แต่หนูมีความอดทนน้อย ท่องแปปเดียว เดี๋ยวก็ลืมแล้ว หนูอยากไปต่างประเทศจะได้เก่งอังกฤษอย่างคุณครู เพราะหนูรู้สึกว่า คุณพ่อ-แม่ตั้งความหวังกับหนูมากๆเลย ทั้งๆที่ ท่านก็มีลูกหลายคน แต่ลูกคนอื่นๆกับไปเรียนสายที่ช่วยพวกเขาไม่ได้ หนูไม่อยากให้พวกท่านผิดหวัง และไม่อยากให้ท่านตั้งความหวังกับหนูมากด้วย เหมือนกับที่ตกจากที่สูงเจ็บ แต่ดูเหมือนว่าหนูก็เอาท่านตกลงมาด้วย หนูไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วค่ะ -หนูกลัวอนาคตจังเลย หนูอยากสบาย ไม่ต้องซีเรียสกับชีวิต แต่ก็ไม่อยากลำบาก อยากใช้ชีวิตอบ่างสงบ หนูเป็นคนไม่มีศาสนา เพราะหนูถูกเลี้ยงแบบกึ่งๆ2ศาสนา หนูไม่เชื่อบางแต่ก็ไม่ได้หลบหลู่ เป็นเพราะว่าหนูไม่มีที่พึ่งทางจิตใจหรือเปล่าค่ะ เลยทำให้หนูเป็นคนแบบนี้ หัด "รักคนอื่น" "เข้าใจคนอื่น" และ "อภัยคนอื่น"นะคะ เด็กวัยนี้เวลาทำอะไรไม่คิดซับซ้อน ด่าก็ให้หายโกรธ ถามให้ได้คำตอบจริงบ้างไม่จริงบ้างก็พอใจแล้ว การพูดคุยที่ระวังตัวมากเกินไปก็ทำให้คู่สนทนาอึดอัดเพราะการตอบ"ไม่รู้"เสียทั้งหมดเป็น "การระวังตัวจนเกินพอดี และทำให้คู่สนทนารู้สึกมีกำแพงกั้น" ส่วนเรื่องการเรียน ขยันต่อเนื่อง รู้ลำดับความสำคัญของบทเรียน และทุ่มเทอย่างสม่ำเสมอ ผลการเรียนก็จะออกมาดีเองค่ะ อย่ามัวไปคิดว่าทุกคนจะต้องเหมือนเรา และมีจุดมุ่งหมายหรือคาดหวังผลในทุกการกระทำของเรา ลองปล่อยตัวเองให้สบายๆ ถามก็ตอบ ตอบในสิ่งที่รู้ ที่เป็นความคิดเห็นที่ไม่ทำให้ผู้ใดเสียหาย แสดงอารมณ์ความรู้สึกบ้างก็ไม่ผิดค่ะ จะทำให้อีกฝ่ายก็เรียนรู้ความรู้สึกของเราได้ "ความจริงใจ" และ "การรู้กาละเทศะ" จะทำให้การผูกมิตรราบรื่นค่ะ ปล่อยวางในบางเรื่องได้ก็ดีนะคะ เพราะวัยนี้เป็นวัยที่สดใสค่ะ ลองนำไปปรับใช้ดูนะคะ คุณครูต้องขอชมหนูที่หนูจับอารมณ์ของตนได้เก่งมากค่ะ นี่ล่ะค่ะ "ชีวิต" ที่ไม่มีสูตรสำเร็จค่ะ โชคดีนะคะ http://www.kru-somsri.ac.th/board/index.php?topic=13888.msg130507#msg130507 |