: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : N' OPEL May 11, 2009, 09:49:05 PM คืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 บารัก โอบามา ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐอเมริกา
ภาพผู้คนทุกทวีปฉลองการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งหมายเลขหนึ่งของอเมริกาของชาย ผู้นี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ดาวเคราะห์ดวงนี้ที่ชาวโลกฉลองเหตุการณ์ ที่เป็นกิจการภายในของประเทศอื่น เหตุผลไม่ใช่เพราะบุคลิกอ่อนโยนของเขา ไม่ใช่วาทะศิลป์ที่โน้มน้าวใจคน ไม่ใช่รอยยิ้ม ไม่ใช่เสน่ห์ แต่เพราะการก้าวไปถึงจุดหมายของเขาเป็นเสมือนออกซิเจนที่ทำให้ไฟแห่งความ หวังของมนุษยชาติที่ริบหรี่จวนดับสว่างโพลงขึ้นอีกครั้ง เป็นการตอกย้ำความคิดที่หลายคนลืมไปแล้วว่า ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เป็นไปไม่ได้หากกล้าฝัน กล้าทำ กล้าลงมือ และไม่ย่นย่อต่ออุปสรรค เมื่อ โรซา พาร์กส์ ปฏิเสธที่นั่งบนรถเมล์ให้คนผิวขาว เมืองมอนต์โกเมอรี รัฐอลาบามา สหรัฐอเมริกา ในปี 2498 ส่งผลให้เกิดการต่อต้านรถเมล์เหยียดสีผิวด้วยการเลิกขึ้นรถเมล์ยาวนานถึง หนึ่งปี ไม่มีใครในโลกเชื่อว่าภาพในคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้จริง เมื่อการต่อต้านความไม่ชอบธรรมของนโยบายเหยียดสีผิวที่เมืองเบอร์มิงแฮม รัฐอลาบามา จบด้วยการที่ตำรวจสลายการชุมนุมด้วยสายน้ำแรงอัดสูงในปี 2506 ไม่มีใครในโลกเชื่อว่าภาพในคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ เมื่อผู้ชนกว่าหกร้อยคนที่เดินข้ามสะพานในเมืองเซลมา รัฐอลาบามาเพื่อประท้วงการเหยียดสีผิวถูกตำรวจทำร้ายในวันที่ 7 มีนาคม 2508 ไม่มีใครในโลกเชื่อว่าจะปรากฏภาพคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 เมื่อนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เอ่ยประโยค "I Have a dream" ที่ ลิงคอล์น เมมโมเรียล กรุงวอชิงตัน ดี. ซี. (อนุสรณ์สถานแห่งลิงคอล์น ประธานาธิบดีผู้เลิกทาส) เมื่อสี่สิบห้าปีก่อนนั้น ไม่มีใครในโลกเชื่อว่าวันหนึ่งจะ I Have a dream จะกลายเป็นจริง ในสุนทรพจน์ของเขาในคืนนั้น บารัก โอบามา เอ่ยถึงหญิงชราคนหนึ่งนาม แอนน์ นิกสัน คูเปอร์ แห่งรัฐแอตแลนตา ในวัย 106 ปี หญิงชราลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง อาจเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิต นางเกิดในยุคที่การเหยียดสีผิวเป็นเรื่องปกติ ในยุคที่สตรียังไม่มีสิทธิเลือกตั้ง นางเห็นการทำร้ายคนดำของกลุ่ม คูคลักซ์แคลน เห็นรถเมล์ที่แบ่งคนผิวขาวกับผิวดำ ร้านอาหารที่ไม่ให้บริการคนผิวสี ฯลฯ โลกคงไม่มีวันเปลี่ยนแปลงหากคนที่อยู่เบื้องล่างยอมรับกติกาของคนที่ยืนอยู่ข้างบน แต่เพราะยังมีคนที่เชื่อว่ามนุษย์สามารถก้าวพ้นจากวังวนของการแบ่งแยก เชื่อว่าอหิงสาเอาชนะความเกลียดชังได้ ภาพคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 จึงเป็นอีกหนึ่งความฝันโง่ๆ ที่กลายเป็นจริง แผ่นดินของเราอยู่ในหัวเลี้ยวหัวต่อของการเปลี่ยนแปลง ในยุคที่ประชาราษฎร์แตกแยกอย่างสุดขั้ว เกลียดชังราวกับเป็นศัตรูมาร้อยชาติ ย้อนหลังไปสักสิบปีย่อมไม่มีใครเชื่อเด็ดขาดว่าเราสามารถแตกแยกได้เพียงนี้ เช่นกันในนาทีนี้ ก็ไม่มีใครอยากเชื่อว่าเราจะสามัคคีกันได้อีกครั้ง แต่ภาพคืนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2551 ถ่างตาเราออกกว้างว่า มนุษย์เรามีศักยภาพที่จะทำเรื่องยากเย็นและดูเป็นไปไม่ได้ I Have a dream คือความฝันว่าคนต่างเชื้อชาติต่างความคิดสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ I Have a dream คือความเชื่อว่ามนุษย์มีความสามารถที่จะแก้ไขจุดผิดพลาด แต่การเดินไปถึงจุดนั้น ต้องอาศัยทั้งความกล้าและการยอมอย่างสูง กล้าที่จะรับความแตกต่าง กล้าที่จะรับฟังความคิดของคนที่เห็นต่าง กล้าที่จะเสียสละประโยชน์ส่วนตนเพื่อส่วนรวม ยอมที่จะเปิดใจกว้าง ยอมที่จะยอมรับความแตกต่างของคนอื่น ยอมที่จะยอมรับความบกพร่องของตัวเอง นี่มิใช่เป็นความกล้าหาญสูงกว่าการใช้กำลังประหัตประหารกันหรือ? เพราะการรักคนที่รักเราเป็นเรื่องง่าย การรักคนที่เกลียดเรายากเย็นกว่าหลายล้านเท่า คนฉลาดคือคนที่ไม่ทำลายตัวเองเพราะอคติและความเกลียดชังท่วมหัวใจ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ผู้คนต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา ต่างความเชื่อ ก็ล้วนเป็นคนของแผ่นดินเดียวกัน - แผ่นดินของเรา ใช่! ชั่วๆ ดีๆ มันก็เป็นแผ่นดินของเรา บทความโดย..วินทร์ เลียววาริณ So let us summon a new spirit of patriotism; of service and responsibility where each of us resolves to pitch in and work harder and look after not only ourselves, but each other... We rise or fall as one nation; as one people. เรามาเพรียกหาความรักชาติอย่างใหม่กันเถอะ การรับใช้ชาติและความรับผิดชอบอย่างใหม่ ที่เราแต่ละคนร่วมกันทำงานหนักและดูแลไม่เพียงเฉพาะแต่ตัวเราเอง แต่กับคนอื่นด้วย... เรารุ่งเรืองหรือล้มสิ้นในสถานะของชาติชาติเดียว ประชาชนกลุ่มก้อนเดียว Barack Obama บารัก โอบามา : Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : -M๐NS๐๐N- May 12, 2009, 03:21:04 PM ขอบคุณ พี่โอเปิ้ล
ที่มีอะไรดีๆ มาให้เสมอครับ^ ^ : Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : &(%$%#$)(*&^%$^&*(* [ME] May 12, 2009, 03:23:00 PM Thax you.
: Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : -M๐NS๐๐N- May 12, 2009, 03:29:59 PM อิอิ^ ^
: Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : &(%$%#$)(*&^%$^&*(* [ME] May 12, 2009, 03:30:55 PM เรปบน
ปั่นเรปเพิ่มอยู่เหรอ : Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : -M๐NS๐๐N- May 12, 2009, 03:32:00 PM ปั่นที่ไหน
โพสต์ ตามปกติ นี่แหละ 555+ : Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : &(%$%#$)(*&^%$^&*(* [ME] May 12, 2009, 03:53:57 PM แบบว่า ปกติสุดๆ
: Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : Unidentified Girl May 12, 2009, 07:31:34 PM ทั้งคู่แหละค่ะ
: Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : NaNToR+ May 12, 2009, 07:42:07 PM ขอบคุณมากมายนะคะ
: Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : N' OPEL May 12, 2009, 08:39:57 PM อีกด้านหนึ่งของชีวิต ที่ใครบางคน..ลืม
แด่ทุกๆคนที่มีชีวิตอยู่ด้วยตัวเองอย่างเข้มแข็ง.............................................. - ในขณะที่คุณกำลังกินข้าวกับครอบครัวที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังในห้าง ข้าวในจานคุณเหลืออยู่ครึ่งหนึ่ง คุณเขี่ยมันทิ้งอย่างไม่สนใจ ในเวลาเดียวกัน แต่ต่างสถานที่กัน เด็กวัยเดียวกับคุณพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ข้าวก้อนนั้นมาหลังจาากที่ไม่ได้กินอะไรมาเป็นเดือน - ขณะที่คุณเดินข้ามถนน คุณเห็นเด็กอายุน้อยกว่าคุณ ใส่เสื้อขาดกะรุ่งกะริ่ง ร่างกายผอมเห็นกระดูกนั่งขอทานอยู่ คุณเหลือบมอง แค่เพียงเหลือบมอง แล้วโยนเศษเงิน 1 บาท...................5 บาท.................ให้ ในขณะที่คุณยอมจ่ายเงินซื้อเสื้อผ้าแพงๆ รองเท้า กระเป๋าแพงๆ เพื่อบูชาความโง่ของตัวเอง ให้คนอื่นรู้ว่า "ฉันมีเงินนะ"...................................................... ใช่........คุณอาจมีเงิน แต่เห็นได้ชัดว่าคุณขาดแคลนสมอง - ขณะที่คุณกำลังกังวลว่าผู้ชายที่เราชอบเค้าจะสนเราไม๊ ผู้หญิงที่เราชอบเค้าจะสนเรารึเปล่า........................ แต่ในสถานที่ใกล้ๆกันก็ยังมีคนรุ่นเดียวกับคุณกังวลว่า เค้าจะสามารถหาเงินมารักษาแม่ที่ป่วยหนักได้รึเปล่า - แม่คุณไม่ให้คุณเล่นเนตคุยกะเพื่อนคืนนี้ คุณโกรธกระฟัดกระเฟียดแม่ของคุณ แม่คุณทำเพราะรัก คุณกลับคิดว่า "ไม่เห็นอยากให้ใครรักเลย"................... อีกด้านหนึ่งที่บ้านสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า............... เด็กๆ โตมาในสภาพที่เค้าไม่มีอะไรเลย เค้าเพียงอยากให้ใครสักคนรักเค้า เค้ายินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มันมา แต่นั่นก็เป็นได้แค่ฝันสำหรับเค้า........ในขณะที่คุณมีทุกอย่าง แต่คุณก็ไม่แม้แต่จะรักษามันไว้ - ตัวละครในจินตนาการของคุณไม่สามารถมีชีวิตอยู่จริงได้ คุณรู้สึกท้อแท้ สิ้นหวัง อยากตาย...................... ต่างสถานที่แต่เวลาเดียวกัน เด็ก อายุเท่าคุณ กำลังพยายามดิ้นรนที่จะมีชีวิตอยู่ เค้าไม่มีอาหาร คุณลองถามเค้าดูสิว่าเค้าจะรู้สึกยังไงถ้าตัวละครในจินตนาการของเค้าไม่ สามารถมีชีวิตอยู่จริงได้......... ลองถามเค้าดูสิ - คุณโดดเรียน............ไม่ตั้งใจเรียน การเรียนสำหรับคุณอาจเป็นแค่เรื่องน่าเบื่อไร้ค่า แต่สำหรับคนที่เค้าไม่มีโอกาส นั่นคือชีวิตทั้ง ชีวิตของเค้า มันคือความฝันของเค้า เป็นได้แค่ฝัน แต่สำหรับคุณมันไม่มีค่า - วันฝนตก อากาศหนาวจับใจ คุณนอนอยู่ในบ้านที่ปลอดภัยและอุ่นสบาย สภาวะเดียวกัน คนที่อายุเท่าคุณ บอบบางยิ่งกว่าคุณกำลังนอนสั่นอยู่ข้างถนน ผจญกับโรคร้าย และท้องที่ว่างเปล่า ลำคอที่แห้งผาก.... เวลาเดียวกัน.. เด็กที่รัฐอะแลสกากำลังจะหนาวตายด้วยอุณหภูมิติดลบอยู่ในท่อระบายน้ำ....... คุณก็ยังไม่เลิกคิดว่าตัวเองเป็นคนโชคร้ายอยู่ดี (เพราะแม่คุณไม่ยอมซื้อนาฬิกาเรือนหมื่นให้คุณ) - พ่อกับแม่คุณไม่ได้จักงานวันเกิดให้คุณเพราะติดงานสำคัญ คุณงอนไม่ยอมออกจากห้องนอน ร้องห่มร้องให้ฟูมฟายว่า "พ่อแม่ลืมฉัน" ลองถามเด็กๆที่ เอธิโอเปียดูสิว่างานวันเกิดคืออะไร?.............................. คุณไม่มีวันได้คำตอบจากเค้าหรอก...........เพราะแม้แต่วันที่ตัวเองเกิดเค้าก็ไม่มีเวลามาจำ - คุณไม่มีวันได้คำตอบจากเด็กๆที่ปาเลสไตน์ว่าพวกเค้าเกิดวันไหน...................... แต่ถ้าคุณถามว่าเค้าจะต้องตายวันไหน..........เค้าตอบคุณได้แน่.... - คุณพร่ำพรรณาว่าพ่อแม่ไม่เข้าใจคุณเพราะท่านไม่ประเคนของที่คุณบอกว่าอยากได้ให้ คุณขู่ท่านวันละ 3 เวลาหลังอาหารว่าจะฆ่าตัวตาย แล้วคุณเคยย้อนถามตัวเองไม๊ว่า คุณเข้าใจท่านแค่ไหน - คุณสิ้นหวังกับชีวิตเพราะแฟนคุณทิ้งคุณ ลืมพาคุณไปเดท..... ทำให้คุณไม่กินไม่นอนจวนจะตายเอา.....เพราะถูกลืม แต่สำหรับคนขอทานตามสะพานพระพุทธฯ......นั่นเรื่องเล็กเลยละ ทำไมน่ะเหรอ...................เพราะเค้าถูกลืมอยู่ตลอดเวลาน่ะสิ.. - คุณอยากได้ของแพงๆ อยากได้มือถือ อยากได้คอมฯ ครอบครัวคุณอาจไม่ร่ำรวยขนาดจะซื้อของพวกนี้ได้ในทีเดียว คุณอาจคิดน้อยใจว่าทำไมชีวิตช่างโชคร้าย คุณอาจล้มเหลวในบางเรื่อง นั่นทำให้คุณคิดท้อแท้ คุณอยากตาย...........อยากหนีปัญหาให้พ้น ๆ คุณคิดว่าคุณโชคร้ายที่สุดในโลก ลองมองกลับไปอีกด้านหนึ่งสิ คนที่เหมือนๆกับคุณ เค้าไม่มี................ไม่มีอะไรสักอย่าง ต้องอยู่ด้วยตัวเอง สู้ด้วยตัวเอง.............. หากเหนื่อยกับชีวิต..........เหนื่อยกับปัญหา........... คุณพักได้ คุณมีกิ่งไม้ให้เกาะ แต่เค้าไม่มี หากหยุด นั่นคือตก..............เมื่อตกก็ตาย คุณมีบ้านให้อยู่..........มีเงินให้ใช้.............มีอาหารให้กิน ส่วนเค้า..............ไม่มีบ้าน ที่นอนคือข้างถนน ไม่มีอาหาร ถ้าหิวก็ไปคุ้ยถังขยะเอา ไม่มีคนหาเงินให้........... อยากได้อะไร.................หาเอาเอง คุณท้อแท้......... มีคนคอยปลอบใจ แต่คุณไม่ฟัง ไปโดดตึก โดดน้ำ กรีดข้อมือ กินยาตาย ฯลฯ เค้าท้อแท้ .....................ใครล่ะ ? ที่จะปลอบใจ มีทางเดียว เค้าต้องเข้มแข็ง "ฉันจะไม่เป็นไร ฉันต้องสู้" - สิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน ต่างกันที่การเลี้ยงดู ต่างกันที่สภาพแวดล้อม มันก็แทบเป็นสิ่งมีชีวิตคนละชนิดไปเลย คนเราเลือกเกิดไม่ได้ เลือกเป็นไม่ได้ เลือกตายไม่ได้ สิ่งเดียวที่เลือกได้คือความเข้มแข็ง เลือกที่จะรับ เลือกที่จะให้ มันทำได้อยู่แล้วไม่ว่าคุณจะอยู่ ในฐานะอะไร เสื้อผ้าที่คุณซื้อราคาเป็นร้อย เป็นพัน ซื้ออาหารได้หลายจาน ขอเพียงเศษผ้าเท่านั้น เพียงเศษเล็กๆที่ไม่มีค่าสำหรับคุณมันช่วยชีวิตคนได้อีกมากมาย ....................................แต่จะมีสักกี่คนกันที่คิดถึงน?................................................... www.tamdee.net : Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : N'PLOY May 13, 2009, 12:05:19 PM โอเปิลนี่จิตใจงดงามจริงๆ
: Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : K0K May 13, 2009, 01:45:04 PM เก๋ๆๆ**
: Re: เอาบทความดีๆมาให้อ่านกัน : -M๐NS๐๐N- May 13, 2009, 01:49:47 PM สุดยอด!!
|