Kru Somsri's English School
July 18, 2025, 01:52:23 PM
:
191147
46430
16718
:
Michaelreedo
Kru Somsri's English School
ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี
คุยกับคุณครูสมศรี
(
สมองดีต้องทานอะไร
)
:
:
:
:
: August 09, 2008, 07:46:52 PM
: Jahreszeiten
ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำดี ๆ
: August 09, 2008, 07:26:33 PM
: N'PLOY
โอเครจ้า
: August 09, 2008, 07:25:03 PM
: Magnifique Gussy
อ่านะคะ
พยายามลดสิคะ
จะได้หุ่นดีเหมือนน้องสวยกับคุณแม่
เดี๋ยวคุณณน้องสวยไปทานข้าวก่อนนะคะ
เดี๋ยวมาปั้นกระทู้ใหม่ค่ะ
อิอิ
: August 09, 2008, 07:23:30 PM
: N'PLOY
555
มันอ้วนอยู่แล้วอ่ะจ่ะน้องสวย
-*-
: August 09, 2008, 07:21:49 PM
: Magnifique Gussy
แหมน้องแบ๊วคะ
ทานไม่กวนอ่วนเลยมั้งค่ะ
รักษาหุ่นบ้างค่ะ
อิอิ
: August 09, 2008, 07:17:13 PM
: N'PLOY
ของหวานหลังอาหารไม่ค่อยทาน
ชอบทานก่อนอาหาร 5555
: August 09, 2008, 07:15:51 PM
: ..Phoenix..
ที่ชัวร์ๆที่ผมทำได้คือ ดื่มน้ำวันละ8แก้ว
เช้ามาก่อนหยิบแว่นเดินไปหาน้ำก่อนเลย
ดือมไปแล้ว 3 แก้ว
: August 09, 2008, 05:16:37 PM
: Magnifique Gussy
ทำเกือบหมดนะ
แต่ข้อ4กับ6นี่ไม่ค่อยเท่าไหร่อ่ะ
: August 09, 2008, 03:44:06 PM
: BOS
น้องๆหลายคนห่วงเรียนจนไม่ห่วงเรื่องสุขภาพ
ไม่ได้นะครับ เพราะ O-NET สอบได้ครั้งเดียวในชีวิต(แย่จัง)
ฉะนั้นควรดูแลสุขภาพกายไปพร้อมๆกับความเพียรนะครับ
อาหารเช้าคือพระราชา อาหารกลางวันคือราชินี อาหารเย็นคือกรรมกร
ความสำคัญแตกต่างกันออกไป อย่าข้ามอาหารมื้อเช้านะครับ
อาหารสมองเพื่อสุขภาพดี
หากต้องการเพิ่มพลังงานให้สมอง สิ่งสำคัญคือต้องรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ รวมถึงของว่างระหว่างวัน ที่สำคัญอย่างดอาหารเช้าเด็ดขาด เพราะอาหารเช้าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน สามารถช่วยให้เราทำงานผิดพลาดน้อยลงและมีความจำดีขึ้น การกินอาหารเช้าที่มีประโยชน์ช่วยป้องกันอาการซึมเศร้าและลดความเครียดได้ อาหารสมอง ที่เราสามารถเลือกรับประทานได้
1. กินข้าวกล้องเป็นประจำทุกวัน
ช่วยป้องกันโรคเหน็บชา เหมาะกับผู้ที่ต้องนั่งโต๊ะนานๆ เพราะในข้าวกล้องมีวิตามินบีและอีสูง จึงช่วยเพิ่มพลังสมองในการทำงาน แถมป้องกันโรคสมองเสื่อมในอนาคตได้ด้วย
2. วิตามินบีหรือที่เรียกว่า “สารให้ความกระปรี้กระเปร่า”
มีอยู่ในข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท จมูกข้าว ถั่ว เมล็ดทานตะวัน นม กล้วย ส้ม เป็นต้น
3. วิตามินซีที่อยู่ในผักและผลไม้
เช่น ฝรั่ง สตรอเบอร์รี่ น้ำส้มคั้น มะละกอ บร็อคโคลี มีส่วนสำคัญในการสร้างฮอร์โมนระงับความเครียดได้
4. น้ำมันปลา Omega-3
ในเนื้อปลาแซลมอน ช่วยป้องกันโรคหัวใจ ไขข้ออักเสบ ช่วยลดอาการปวดรอบเดือนและระงับอาการซึมเศร้าเบื่อหน่ายจากการทำงานได้
5. ผักใบเขียว
อย่างตำลึง คะน้า เป็นอาหารกลุ่มโครินที่มีวิตามินบี ซึ่งช่วยเพิ่มความจำและสมาธิ
6. ดื่มน้ำ 8 แก้วต่อวัน
จะทำให้ร่างกายสดชื่น สมองแจ่มใส ช่วยป้องกันอาการอ่อนเพลีย และตะคริว ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใสได้แม้อยู่ในห้องแอร์
7. แนะนำให้ดื่มน้ำกระเจี๊ยบหรือน้ำมะนาวในช่วงบ่ายที่กำลังง่วง
เพราะมีทั้งรสเปรี้ยวและหวาน มีวิตามินซีสูง แถมมีธาตุเหล็กอีกด้วย สำหรับน้ำใบบัวบก จริงๆ แล้วเป็นยาบำรุงแก้อ่อนเพลีย ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย เสริมสร้างความจำและช่วยให้สมองทำงานได้ดี
8. ทานของหวานหลังอาหารกลางวันช่วยเพิ่มความรู้สึกสดชื่นได้ยาวนานขึ้น
การทานรสเปรี้ยวและหวานช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นในร่างกาย ถ้าตอนบ่ายง่วงอาจกินผลไม้รสเปรี้ยว อย่างมะม่วงหรือผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ต่างๆ เพื่อเพิ่มความกระตือรือร้นได้
9. ถ้าทำงานที่ต้องใช้สายตานานๆ ต้องมีถั่วติดโต๊ะไว้ เพราะถั่วมีวิตามินบี2 บำรุงสายตาได้ดี
10. ชาเขียวช่วยทำให้ลมหายใจสดชื่นและช่วยให้สิ่งแวดล้อมรอบตัวสะอาดปลอดโปร่งขึ้น เพราะถุงชาช่วยลดมลพิษภายในอาคาร ซึ่งเป็นอาการป่วยที่มีสาเหตุมาจากการแพ้อากาศภายในอาคาร
แต่ข้อ 10 นี่ต้องเป็นoriginal green tea นะครับ
ไม่เช่นนั้นน้องจะไฮเปอร์เกินพิกัด
หาสิ่งดีๆเพื่อน้องๆที่แสนดีของพวกเราครับ
http://www.moneychannel.co.th/Menu6/SmartMoney/tabid/100/newsid526/59882/Default.aspx