Kru Somsri's English School
Welcome, Guest. Please login or register.
November 23, 2024, 03:48:11 PM

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
191147 Posts in 46430 Topics by 16296 Members
Latest Member: EmmettSpar
* Home Help Search Login Register
+  Kru Somsri's English School
|-+  ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี
| |-+  คุยกับคุณครูสมศรี
| | |-+  Post reply ( Re: คุณครูครับ...วันนี้ผมร้องไห้ )
Post reply
Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
Name:
Email:
Subject:
Message icon:
BoldItalicizedUnderlineStrikethrough|GlowShadowMarquee|Preformatted TextLeft AlignCenteredRight Align|Horizontal Rule|Font SizeFont Face
Insert FlashInsert ImageInsert HyperlinkInsert EmailInsert FTP Link|Insert TableInsert Table RowInsert Table Column|SuperscriptSubscriptTeletype|Insert CodeInsert Quote|Insert List
Smiley Wink Cheesy Grin Angry Sad Shocked Cool Huh Roll Eyes Tongue Embarrassed Lips sealed Undecided Kiss Cry
+ Additional Options...

shortcuts: hit alt+s to submit/post or alt+p to preview



Topic Summary
Posted on: May 18, 2007, 11:45:46 PM
Posted by: !!!MemORieS!!!
เอานะสู้ๆ  ยังไงก็รักตัวเองบ้างน้า...
Posted on: May 18, 2007, 10:41:31 PM
Posted by: cristallo
สวัสดีค่ะ


เราไม่รู้ว่าเราพิมพ์แล้วลบ ไปกี่ครั้งแล้ว

มีครั้งนึงที่เราพิมพ์เล่าเรื่องตัวเองที่คล้ายๆกับเรื่องของเธอ แล้วก็ลบ

 

มีเรื่องนึงที่อยากรู้ ก็คือว่า เมื่อบอกกับเพื่อนกลุ่มเก่าไปแล้ว เพื่อนกลุ่มเก่าเค้าว่ายังไง

สำนึกผิดรึเปล่า??

เอางี้แล้วกัน ไม่อยากถามอีกแล้ว แล้วก็คิดว่า เธอก็คงไม่อยากตอบ

ไม่รู้สิ่งที่เราคิดมันถูกรึเปล่า แต่เราคิดแบบนี้ เราจึงจะพิมพ์

เสียงหัวเราะในชีวิตของเธอ มันอาจจะเป็นเสียงหัวเราะที่เธอมีความสุข

แต่ไม่รู้ว่า มันก็แค่ความสนุกเท่านั้นรึเปล่า

แค่คิดว่าสนุก แล้วก็พูดไป หัวเราะไปรึเปล่า 

มันเป็นความจริงใจ ความรักกันจริงๆรึเปล่า?
Posted on: May 04, 2007, 08:57:27 PM
Posted by: nooair
ถ้าคิดว่าร้องไห้แล้วมานจะทามไห้หายเส้าได้ ก้อร้องไปเถอะนะ แต่ว่าร้องแล้วต้องเลิกด้วยนะ

ไม่ต้องคิดมากหรอกเพื่อนไม่ได้มีแค่กุ่มนี้ซะหน่อยนิเนอะ เพื่อนดีๆมีถมไป อิอิ ไม่ต้องคิดมากนะ บะบายจ้า
Posted on: May 02, 2007, 11:18:34 AM
Posted by: KIRA
เราคิดว่าเรื่องแบบนี้มันเปนปรกติเพราะเราก้อเถื่องกับเพื่อนบ่อยๆบางคนไม่ถูกกันก้อไม่ต้องไปหูดกับเขามากนักเดียวตัวเองจะไม่สบายใจ
ถ้าโกรธกับเพื่อนใหกลุ่มแบบน้ำเดือดละก้อพยายามทำให้ใจเราเปงน้ำแข็งทำใจให้สาบยแล้วลืมเรื่องนั้นไปซะอย่าไปคิดถึงมัน
ถ้าไม่อยากคบกันเพื่อนกลุ่มนั้นก้อไปเปงไรไม่คบก้อได้แต่ว่าอย่าทำให้เขาเกลียดเรานะเพราะว่าเกิดมีงานที่โรงเรียนครูให้ทำงานกลุ่ม
เกิดคนไม่พอจะได้ไปร่วมกลุ่มกับเขาได้บ้าง อบ่างไรก้ออเปงกำลังใจให้นะครับ พยายยามเข้าหละ ไปคุยกับเพื่อนบ้างก้อได้หาอะไรตลกๆคุยเดียวก้อดีกันเอง
Posted on: May 02, 2007, 02:33:20 AM
Posted by: Pu|-|u
ผมอยู่ ม.3
จาบอกไห้ว่า ผมอยู่ในห้อง ก็มีถูกไม่ถูกกันบ้างเพราะมันย้ายมาจาก ม.1 เปลี่ยนห้องกันหมด แล้วก็แบ่งกันเป็นกลุ่ม
แต่เพื่อนผมไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียว / ห้องเดียว ก็มีเรื่องแบบนี้บ้าง คือ อยากจะไปเที่ยวด้วยกันทั้งหมดอะนะ
แต่ แต่ละคนมันก็เที่ยวกันหลายหลายไป แต่ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มไหนที่เราสนิทก็เที่ยวแล้วสนุกหมดแหละ
*** แต่จะบอกว่าถ้าจะเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนนะ ไม่มีใครสนุกและคุยกันเหมือนกลุ่มเดิมแล้ว เพราะ ของผมก็จามีเรื่องคุยถึงแมร่งซ้ำๆ หรือ ใหม่ หรือ มั่ว มานก็ คุยแล้ว ฮา อยู่ดีอะ *** แต่ถ้าผมเปงนายนะ วันนั้น จะไม่ออนเอมแล้วไปด่าเพื่อน ก็เจอกันแล้วคุยกันตามปกติ

* เพราะ บางอย่างเราก็ต้องทำเปงไม่รู้ไม่เห็น บ้างแหละ จะมาเก็บไรทุกๆ เรื่อง เก็บไปก็เท่านั้น ผมกับเพื่อน ก็ยังมีล้อกัน ผิดใจกันเลย บางทีถ้าไม่ใช่เพื่อน สถานะการณ์นั้นอาจจะ ตีกันแล้วก็ได้ แต่ก็ทำนิ่งเฉยๆ ซักพัก เด๋วก็คุยกันเอง แล้วยิ่งถ้าบอกว่าเป็นกลุ่มด้วย ยิ่งคุยกันง่ายเลยโกรธปุ๊ปคุยปั๊ปเลย *

นี่เปงกระทู้แรกที่ตอบ เหะๆ By.C|-|anG~NoI N.H. Team  น.ด.114
Posted on: May 01, 2007, 08:20:39 PM
Posted by: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
 Cry Cry  โถโถโถ
ม่ายเอา ...ม่ายเอา...
เป็นเด็กผู้ชายต้องไม่ขี้น้อยใจ ไม่คิดจุกคิดจิก
คุณครูเป็นเด็กศิลป์แถมยังเรียนอักษรฯ เรียนแต่อะไรๆที่มันอ่อนโยนน่ะ
แต่พอเข้าเซนต์คาเบรียล
เด็กชายล้วนสามารถเปลี่ยนคุณครูได้ภายในสามปี
ปีแรกแสนจะอ่อนหวาน โดนเด็กแกล้งทุกวัน
จนวันนี้พี่ๆพวกนี้โตเป็นหนุ่มติดยศพันตำรวจโท เป็นใหญ่เป็นโตไปหมดแล้วว
ปีแรกกะว่าจะทำให้เด็กพวกนี้อ่อนโยน
ที่ไหนได้ สามปีต่อมา....
เรากลับกลายเป็น"จ่าฝูง"ไปซะงั้น

ต่อมาก็พบความแตกต่างของตัวเองคือเป็นคน"ไม่เก็บงำ"
อะไรไม่สบายใจก็จะ"ขอกัน"
คำที่จะได้ยินจากปากครูก็คือ
"นี่เธอ..พูดตรงๆนะ อย่าโกรธได้ป่ะ นิสัยเงี้ย ขอซื้อเหอะ อย่าทำอีกเลยนะ รับไม่ได้อ่ะ"
สุดท้ายก็ตบบ่ากันทีนึงแล้วก็พยักหน้าให้กัน

คนเรามีอะไรในใจ อย่ากลับไปคิดเอง
ความจริงขาก็ไม่ได้ติดกัน
ตัวก็ไม่ใช่แฝดอิน-จัน
ทำอะไรทำไมต้องรอทำพร้อมกันน่ะ
ชักช้าเสียการเสียงานตายเลย
แล้วยังเสียเวลามานั่งน้อยอกน้อยใจอีกอ่ะ

แต่เเรก ถ้าไม่เข้าใจอะไรกัน
ก็น่าจะใช้วิธีตรงๆ
ถามกันดีๆ
ถามแบบสุภาพชนนะ
น้อยมากก็ต้องได้คำตอบ
ถ้าคำตอบจะขัดเคืองหูไปบ้างก็ดีนะ
จะได้นำมาปรับปรุงตัวเรา
คิดของเราคนเดียวแล้วจะให้ใครมารู้ความคิดของเราได้ยังไงกัน
เขาเห็นจากมุมมองของเขา
เราก็เห็นจากมุมมองของเรา
ถ้าอยากให้เขาเห็นเหมือนเรา
ก็ชักชวนเขาให้มายืนตรงจุดที่เรามอง
แล้วขอเขาไปยืนตรงจุดที่เขายืน
คนเราย่อมีจุดดีและจุดบกพร่อง
ถ้าหมั่นลบจุดบกพร่องทิ้งเสีย
ชีวิตก็ไม่ต้องไปกระแทกกระทั้นโดนผู้ใดโดยไม่ได้ตั้งใจ

ถ้าไม่เข้าใจกัน ก็ต้องปรับความเข้าใจกัน
ยอมกันได้แล้วทุกอย่างดีขึ้นก็ยอมกันไป
ลืมบางอย่างได้แล้วใจสบายก็ลืมกันไป

จำในสิ่งดีๆ
คิดในสิ่งที่ทำให้เรามีพลัง
ถ้าคบแล้วสบายใจก็คบต่อ

ชีวิตถ้าสร้างมิตรไม่ได้
ก็ไม่ต้องไปก่อศัตรูเพิ่ม


เป็นเด็กผู้ชายอย่าอ่อนไหวนะครับ
ผู้ชายต้องเป็นผู้นำ
ถ้ามัวแต่อ่อนไหว
เราจะเสียเวลา และพลาดโอกาสทำอะไรดีๆให้ตนและคนรอบข้างไปอีกเยอะเลย

เชื่อคุณครูนะครับ
Posted on: April 30, 2007, 02:32:11 PM
Posted by: อันยองโอเซโย....ชอนึม " ปุ้ย " อิชิมมีดา...
ดีจ้า....
หวัดดี เราได้อ่านเรื่องของเธอแล้วน่า เอาเป็นว่า " เธอก็คือเพื่อนคนนึงของเราน่ะ " เราเข้าใจความรู้สึก ของคนที่เคยมีเพื่อน แล้วจู่ๆกลับกลายเป็นไม่มีเลย เหมือนเคยได้คะแนนภาษาอังกฤษ จาก 95 คะแนน แล้วจู่ๆมีอะไรดลบัลดานใจ ทำให้เรากับกลายมาได้แต่ 4 คะแนน อันนี้เราเข้าใจ  ถึงจะเคยเป็นอย่างเธอ แต่ไม่หนักเท่าน่ะ เราก็เข้าใจ  เอาเป็นว่า  อยากให้เธอคิดอย่างนี้ อยากให้คิดว่า " คำว่าเพื่อน " ไม่จำเป็นต้องมีความสัมพันกันลึกซึ่ง ทุกๆคนก็เป็นเพื่อนเราได้น่ะ แล้วถึงแม้ว่าเค้าจะเปลี่ยนไปอย่างไร เค้าก็คือเพื่อนเรา "เพื่อน" ต้องช่วยเพื่อน ถ้าเพื่อนมีปัญหาอะไร เราต้องช่วยกัน เราถือว่า เค้าคือเพื่อนเรา อย่าหวังเลยว่าจะได้สิ่งตอบแทน เราทำหน้าที่เพื่อนได้ดีที่สุด แล้วซักวัน เพื่อน ก็จะเข้าใจในสิ่งที่เราทำ แล้วเค้าจะเห็นเราเอง   ในตอนนี้ เธอมีคนที่คอยปลอบ คอยอยู่เคียงข้างแล้ว เราดีใจด้วยจริงๆ  บางคนเค้ายังไม่มีเลยน่ะรู้ป่าว  การมีเพื่อนดี เป็นลาถอันประเสริฐ จริงป่าว...  สำหรับเรา เราว่ามันจริงเลยแหละ  เราน่ะ ถ้าโลกนี้เราไม่มีเพื่อนน่ะ เราว่าเราคงอยู่บนโลกใบนี้ไม่ได้  เราเป็นโลกขาดเพื่อนไม่ได้แหละ  *---* เอาเหอะน่ะ  ตอนนี้ เธอสบายใจได้แล้วน่ะ ยังไง คนในโลกใบนี้ จะพูดคำว่า " ตัวเองไม่มีเพื่อนไม่ได้หรอก " เพราะคนที่เดินอยุ๋บนโลกโลกเดียวกัน เป็นเพื่อนกันเสมอ เพียงแต่! เราจะเข้าไปทำความรู้จักกับเค้ายังไง แค่นั้นเอง 
อะไรที่เสียไปแล้ว แล้วคงคิดว่า กลับมาไม่ได้แล้ว  เราก็อย่าไปเอามานั่งคิดมาก จนทำให้เราไม่สบายใจเลย สู้ทำวันนี้และวันข้างหน้าให้ดีที่สุดดีกว่าเนอะ  ทำตัวให้มีชีวิตชีวาเข้าไหว  แล้วอะไรๆก็จะดีเองละจ้า 
ถ้าวันไหนรู้สึกไม่ดี ก็เข้ามาคุยกันได้น่ะ 
*---* ขอให้พระเจ้าคุ้มครองน่ะเพื่อน
Posted on: April 30, 2007, 01:54:49 AM
Posted by: atrabilous
คุณครูครับวันนี้ผมร้องไห้.......น้ำตาของผมมันไหลออกมาไม่หยุด ทั้งๆที่ก็พยายามไม่คิดถึงมัน แต่น้ำตาก็ยังไหล เหมือนกับว่ามันจะไม่มีทางหมด ความรู้สึกที่ผมเก็บไว้มานาน นานมากครับ ?1 เทอม?
     ผมเคยคิดว่าผมเป็นคนที่มีเพื่อนเยอะ ไม่ซิ่เยอะมาก แต่ตอนนี้ผมไม่รู้ว่า จริงๆแล้วผมมีเพื่อนจริงหรือเปล่า เหมือนผมอยู่ตัวคนเดียว จริงๆแล้ววันนี้ น่าจะเป็นวันที่ดีครับ เพราะเป็นวันที่เพื่อนๆ พี่ๆ นัดมาสังสรรค์กัน น่าจะเป็นวันที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่มันกลับเต็มไปด้วยน้ำตาของผม

    ตอนที่ผมเดินเข้าไปในงาน ผมก็ เห้อออ... เอาอีกแล้ว มันเป็นความรู้สึกประมาณว่าไม่อยากเจอกับเพื่อนกลุ่มนี้เลย ทั้งๆที่จริงๆแล้ว มันอาจจะเป็นแค่ความรู้สึกของผมเองก็ได้ แต่ผมก็ไม่ได้คิดไปเองอย่างไม่มีเหคุผลนะครับ เพราะจริงๆแล้วผมเป็นคนที่เฮฮา ขำๆ กับเพื่อนๆ แต่นั่นไม่ใช่กับเพื่อนกลุ่มนี้ ไม่ซิ่ ต้องเรียกว่ากับเพื่อนกลุ่มนี้ในปัจจุบัน เพราะอดีตมันเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ
   
    ตอนเทอมแรกผมก็เจอเพื่อนใหม่ครับ ก็เฮฮานะ คุยไปทั่วเลยทั้งห้อง กลุ่มของผมเป็นกลุ่มที่ใหญ่ในห้อง เป็นกลุ่มเด็กผู้ชายครับ เกือบทุกๆวันตอนเย็นผมกับเพื่อนก็จะไปเล่นบาสด้วยกันเป็นกลุ่มใหญ่เลยทีเดียว เล่นกับเพื่อนห้องอื่นๆด้วย ผมเป็นคนไปรร.สายนะ เวลาไปเช้าก็แบบว่า เพื่อนๆก็จะงง บอกว่า วันนี้ฝนตกแน่ๆ และผมก็มักจะไปทันตอนเข้าแถวเคารพธงชาติ เพื่อนๆก็จะบอกว่า ?มันมาแล้ว? แล้วก็ขำๆกัน เสา-อาทิดก็มีนัดเที่ยวกัน อ่านหนังสือด้วยกันก่อนสอบ แล้วก็ในกลุ่มผมไม่ค่อยถูกกับ2คน ด้วยเหตุผลบางอย่าง
เหตุการณ์มันก็เกิดขึ้นจนได้ตอนปิดเทอม เพื่อนผม3คนก็โทรมาชวนไปเล่นบาส ผมก็ไป ตอนนั้นเป็นตอนบ่าย ก็ไปเจอกันที่สนามเทนนิส แล้วเพื่อนมันก็บอกให้ไปเล่นก่อนเลย เดี๋ยวเราตามไป ผมก็ไปเล่นรอ วันนั้นผมเล่นไปคนเดียว เล่นรอ ตั้งแต่บ่าย3ถึง6โมงเย็น ผมพยายามข่มใจว่า เดี๋ยวมันก็ต้องมา เพราะมันบอกว่าจะมา ผมรอ รอไปเรื่อย เล่นอยู่คนเดียว 6โมงเย็นของวันนั้นสนามบาสว่างเปล่า ไม่เหลือใครแล้ว ฟ้าก็เริ่มมืด ผมก็คงรอต่อไปไม่ได้แล้ว แต่ผมก็หวังว่า ยังไงก็คงจะมีเสียงโทรศัพท์ของเพื่อนมาขอโทษ ผมรอนะ รอจนผมนั่งรถมาถึงบ้าน ก็ยังไม่มีเสียงโทรศัพท์ ผมออนเอมเอสเอน พวกมันก็ออนกัน ผมก็ว่า เดี๋ยวมันก็คงทักมา แล้วบอกขอโทษ ผมรอไปสักพัก ก็ยังไม่ทักมา ผมพยายามเข้าๆออกๆหลายๆรอบ แต่ก็ไม่มีเกิดขึ้น ผมเลยทักไปเองเลยว่า ?วันนี้ได้ทำอะไรผิดรึป่าว? มันบอกว่าป่าว ผมเลย ใส่ไปเต็มที่เลย แล้วมันก็ถามว่ามันไปทำอะไร ผมก็ไม่ได้บอกมันแต่บอกให้มันไปคิดดูเอาเอง ตั้งแต่วันนั้น จนวันนี้ ผมกับกลุ่มเพื่อน ไม่ได้คุยกันอีกเลย ผ่านปลายปิดเทอม1 มาเทอม2 และตอนนี้ก็กำลังจะเปิดเทอม 2 

    ในช่วงปลายเทอม2 ชีวิตของผมวันวันที่รร. แตกต่างกับเทอม1เหมือน 0 กับ 100 ความสุขที่เคยมี เสียงหัวเราะ ที่เคยได้ยิน มันค่อยๆลดลง ลดลง จนตอนนี้แทบจะลางหาย ผมไม่คุยกับกลุ่มเพื่อน ที่ผมบอกว่าเป็นกลุ่มใหญ่ในห้อง พอผมไม่คุยกับพวกมัน ผมก็เลยไม่อยากคุยกับใคร ผมไม่คุยกับพวกมัน พวกมันก็ไม่คุยกับผม ตอนเย็นที่ปกติต้องเล่นบาส ก็ไม่มีใครเล่น  ผมเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนคบ เพื่อหวังว่า คงจะมีความสุขกว่าที่เป็นอยู่ มันเหมือนจะดีนะ แต่มีวันนึงผมได้บอกถึงเหตุผลที่ไม่คุยกับเพื่อนกลุ่มเก่า ตั้งแต่วันนั้นผมรู้เลยว่ามันเปลี่ยนไป เหมือนกับว่าพอรู้ว่าผม ไม่ใช่ผมที่เป็นคนที่เพื่อนเยอะเหมือนเดิมแล้ว มันเปลี่ยนไป เริ่มคุยกับผมน้อยลง แต่ผมก็เข้าใจว่ามันเป็นการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม จนวันนี้ผมมานั่งเสียใจกับสิ่งที่ผมทำ ผมปลีกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนๆทั้งหมด แต่อีกใจผมก็ไม่เสียใจ ที่เพราะว่าที่ผมทำไปมันมีสาเหตุ
เหตุผลของผมอาจจะดูไร้สาระในสายตาใครบางคน แต่สำหรับผม สำหรับสายตาของเพื่อนคนนึง สิ่งที่เพื่อนทำกลับมา ผมว่ามันสำคัญมากๆ ผมรักเพื่อนนะ
   จริงๆ1ในกลุ่มเพื่อนผม มีคนนึงรู้จักกันมาก่อนแล้ว 2 ปี เราเรียนพิเศษด้วยกัน ตอนเทอม1 หลังจากเล่นบาสเราก็จะไปเรียนด้วยกัน ถึงดึก เวลาเรียนก็มีแต่เสียงหัวเราะ เล่นบาสก็มีแต่เสียงหัวเราะ แต่ตั้งแต่วันนั้น ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด เราเลิกเล่นบาสด้วยกัน เราไม่ได้ไปเรียนด้วยกัน เราไม่เคยคุยกันเวลาเรียน  ทั้งๆที่เรานั่งติดกัน ทั้งๆที่จริงๆแล้วผมรักแล้วก็สนิทกับมันที่สุดในห้อง

ขอบคุณครูนะครับที่อย่างน้อย ก็มีที่นี่ให้ผมระบาย ถึงแม้ว่าทุกๆอย่างมันจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิม มันเป็นเหมือนแก้วที่แตกไปแล้ว มันไม่มีทางกลับมาเป็นแก้วที่ดีเหมือนเดิม เพราะมันคือ"แก้วแห่งความสัมพันธ์" แล้วก็วันนี้ครับครู ผมมีเพื่อนที่มานั่งปลอบใจผมด้วยแหล่ะ เค้าไม่ยอมไปสนุกกับคนอื่นๆ เค้านั่งกับผม ตั้งแต่งานเริ่มจนกลับบ้าน อย่างน้อยผมก็ได้รู้ว่าในห้องผมยังมีคนที่รักผม คุณครูดีใจกับผมมั้ยครับ

สุดท้าย รักเพื่อนๆทุกคนนะ
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!