พี่คนโตต้องสุขุมเยือกเย็น แม้จะโกรธก็ต้องเรียนรู้ที่จะผ่อนอารมณ์ออกมา
ตอนนี้หนูกำลังเหนื่อยเลยทำให้ขีดความอดทนต่ำลงมามากกว่าปกติ
รออารมณ์ดีๆสักนิดแล้วเรียกน้องสองคนมาร่วมฟังปัญหาที่หนูต้องรีบทำคือการอ่านหนังสือ
ไหว้วาน แบ่งหน้าที่ให้น้องทั้งสองช่วยหนูสักสี่เดือนนี้
บอกถึงความจำเป็นให้เขาได้ทราบ อย่าเพิ่งไปโกรธเขา
เพราะเขาอาจถูกปล่อยปละละเลยให้เล่นคอมฯมานานแล้ว
การสอนเด็กต้องเริ่มตั้งแต่แรก จึงจะปลูกฝังได้ง่าย แต่ถ้าปล่อยไว้นาน เด็กก็จะถือว่าธุระไม่ใช่
หัดชมน้องเมื่อน้องมีน้ำใจต่อหนู ใจเย็นๆค่อยๆพูดว่าวันหนึ่งน้องก้ต้องสอบแบบพี่ แล้วพี่ก็ต้องสลับมาทำให้น้องเช่นกัน
ส่วนคุณแม่หันมาต่อว่าหนุแทนน้องเพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่แม่จะต้องคาดหวังให้พี่คอยดูแลเรื่องทั่วไปในบ้าน
แต่ถ้าสุดท้ายไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหนูก็ต้องอดทน แล้วเรียนรู้ไว้เสมอว่า
หน้าที่อีกอย่างของพี่คือต้องคอยช่วยแม่ปลูกฝังสิ่งดีๆให้น้อง
ถ้าเราไม่หมั่นปลูกฝังสิ่งที่ดีงามไว้เสมอ สุดท้ายพฤติกรรมของน้องก็จะกลายเป็นภาระที่น่าหงุดหงิดรำคาญใจกันไปทั่วหน้า
แต่ก็อย่ากังวลใจกับสิ่งต่างๆจนหมดพลัง เราต้องเเข่งกับเวลา รีบเร่งแต่ไม่ต้องรีบร้อน
หงุดหงิดหรือไม่ ก็ไม่ได้ทำให้จำนวนหนังสือน้อยลง เพราะฉะนั้น อย่าอารมณ์เสียนะคะ
หน้าที่และความรับผิดชอบยังรอให้เราสานต่ออีกมากมายค่ะ
มากสุดก็แค่เหนื่อยขึ้น แต่ก็ไม่ลำบากค่ะ
พยายามรักษาลมหายใจที่เข้าและออกอย่างราบเรียบและนุ่มนวล
เพราะลมหายใจเป็นตัวกำหนดอารมณ์ของเราค่ะ
คนที่ลำบากกว่าเรายังมีอีกมากนะคะ
พี่นุ้ย พี่กระแต สายตาพิการแต่ยังเอนท์ติดอักษรศาสตร์ ศิลปากรและจุฬาฯทั้งคู่
เขาไม่แย่กว่าเราหรือคะ แล้วทำไมเขาถึงทำได้ล่ะ
ก็เพราะเขาไม่ยอมเป็น"ไอ้ขี้แพ้" และเขามองโลกอย่างมีพลังและความหวังค่ะ
ไม่ต้องว่าใครนะคะ ของจิ๊บๆแค่น้ ไม่เกินความเพียรของเราค่ะ
คุณครูเป็นกำลังใจให้นะคะ
คุณครูสมศรี ครูไทย...ที่เข้าใจหัวใจเด็กไทย
|