: March 24, 2008, 11:18:26 PM
: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
|
ศิลปะของการสอน
มิใช่เพื่อให้เด็กเก่ง
แต่เพื่อสอนให้เด็กคนนั้นนำสิ่งที่เขามีออกมาใช้จนเกิดเป็นความชำนาญ
เลือกในสิ่งที่สอดคล้องกับความสามารถและความสนใจของเรา
แต่ถ้ายังไม่ทราบว่าเราถนัดหรือชอบอะไร
ควรที่จะพาตนเองเข้าสู่การเรียนรูในประสบการณ์ที่หลากหลาย
หมั่นสังเกตเนื้องานมากกว่าผลของงานในทางรูปธรรมเช่นยศฐาหรือสินจ้าง
ความสุขจะทำให้เราหมั่นถักทอผลของความรักออกมาจนกลายเป็นผลของงาน
และผลของงานจะทำให้เราไม่ท้อต่ออุปสรรคที่จะเกิด
แม้ไม่มีรูปแบบตายตัว
ก็จงประสานสิ่งที่มีอยู่เดิมเข้าด้วยกัน
เฉกเช่นเขียวเกิดแต่แดงและน้ำเงิน
เมื่อรักในงานย่อมรังสรรค์ผลงานได้แยบยล
การที่หนูจะทราบว่าหนูชอบอะไร
ต้องนำพาตนเองเข้าไปหาประสบการณ์จากผู้รู้
จ้องจับดูความสนใจที่มีต่อสิ่งนั้นๆ
ประเมินดูความอดทนเมื่อเราต้องทำงานนั้นๆอยู่ในช่วงเวลาที่แสนนาน
ความอดทนเเละความรักจะเป็นมิตรกันเสมอ
หากไม่รัก ก็มักไม่อดทน
ความอดทนต่อการกอปรกิจจึงสามารถบ่งชี้ความรักและความสนใจได้มากทีเดียว
หาตัวเองให้พบ
เส้นทางก็จะลัดสั้นขึ้นค่ะ
|
: March 24, 2008, 01:00:36 PM
: jaajaajaa
|
น้องคะ... ดีแล้วค่ะ ถูกต้องที่สุดค่ะกับสิ่งที่น้องกำลังทำอยู่ เพราะถ้าน้องคิดเหมือนกับเพื่อนๆน้องคิดว่า ไม่เป็นไรหรอก อีกตั้ง 2 ปี กว่าจะเอ็นท์ เรียนทำไมปิดเทอม พี่อยากจะบอกว่า เมื่อน้องมาถึงจุดนั้นจริงๆ น้องจะรู้เลยค่ะว่า เวลา 2 ปีสำหรับการเตรียมตัวเอ็นท์นั้น มันเป็นแค่เสี้ยวของเวลาจิงๆ เพราะพี่ก็เป็นคนนึง ที่คิดเหมือนกันว่า ปิดเทอมขึ้นม.6 ค่อยอ่านหนังสือก็ได้ไม่เป็นรัยหรอก นั่นแค่คิด แต่พอทำจริงๆ ทำไมรู้สึกมันยากจัง ทำในสิ่งที่นานแสนนานจะทำสักที เพราะแธนั้นสิ่งที่น้องทำถูกแล้วค่ะ ถึงน้องจะเรียนเยอะแค่ไหน เก่งแค่ไหน น้องก็ต้องมาอ่านหนังสือเตรียมเอ็นท์อยู่ดี แต่อาจจะทบทวนน้อยกว่าคนที่ไม่ทำอะไรเลย เพราะการที่น้องได้เรียนพิเศษ อย่างน้อยก็ถือว่า น้องได้ทบทวนส่วนนึง แต่ถ้าน้องไม่เรียน ไม่ทำอะไรเลย เหมือนกับว่าน้องก็ต้องมาเริ่มที่ 1 ใหม่ และการที่น้องอยากเข้าคณะอักษรศาสตร์ น้องเหมือนพี่เด๊ะ เพราะพี่ชอบพาสามากๆๆๆ พี่ก็อยากเข้าอักษรฯ แต่ก็กลัวเหมือนที่คุณพ่อน้องกลัวว่า จะไม่มีงานรองรับ แต่น้องลงอคิดดูนะคะว่า ถ้าน้องได้ทำในสิ่งที่ตนเองชอบ ย่อมดีกว่าทำในสิ่งที่ต้องถูกคนอื่นบังคับ เพราะฉะนั้น ก็อยู่ที่ตัวน้องเองว่าจะเลือกอะไร เพราะยังงัย คนที่เรียนก็คือ "น้อง" นะคะ พี่เป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ อย่าท้อ สู้ๆๆๆ
|
: March 24, 2008, 01:51:33 AM
: freedom
|
ความคิดดีมากๆครับ บริบทของคุณตอนนี้อาจจะเเปลกๆแต่ถ้ามาอยู่กับคนที่เก่งๆขยันๆจะถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา
เช่น เราไม่ชอบกินเหล้าเเต่อยู่ในวงขี้เหล้าเมายาแล้วเราปฏิเสธที่จะกิน เขาก็จะมองว่าเรา "แปลก เข้าสังคมไม่ได้"
แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเราอยู่กับคนดีๆมีศีลธรรมในใจแล้วเราชวนเขากินเหล้าเขาก็จะมองว่าเราแปลกเช่นกัน
สังคมมีหลายรูปแบบ สภาพเเวดล้อม บริบท เราต้องเปลี่ยนให้เหมาะสมกับเราเเละทางที่เราจะเดินไปข้างหน้า
คิดได้ตั้งแต่ตอนนี้นับว่าสำเร็จไปอีกก้าวหนึ่งแล้วนะครับ อ่านมากๆฟังเยอะๆ เปิดตา เปิดใจ มาเร่งรีบตอนสุดท้ายลนป่าวๆ
อีกอย่างรีบๆหาคณะที่จะเข้าให้เจอ หาเป้าหมายให้เจอนะครับ ไม่ต้องกลัวที่จะเลือก เรามีสิทธิ์ที่จะเลือก
"เล็งดวงจันทร์ ถ้าพลาดยังเจอดวงดาว"
|
: March 23, 2008, 08:07:30 PM
: พี่มะพร้าว
|
การที่เราไม่ทำตัวเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ ไม่ได้หมายความว่า เราผิดปกตินะคะน้อง คนเรามีวิธีการในการวางแผนและแก้ปัญหาต่างกันค่ะ แต่ที่สุดแล้วผู้ที่ไม่ประมาทย่อมได้เปรียบกว่า พี่อยากแนะนำหนูนิดนึงนะคะว่า คนเก่งที่มีชื่อเสียงระดับประเทศเช่น พี่หนูดี วนิษา เรซ ได้ถูกสอนโดยอาจารย์ระดับปรมาจารย์ของโลกว่า อย่าตัดสินว่าเราเหมาะจะเรียนอะไรเพียงเพราะอาชีพไหนกำลังมาแรง หรือมีความต้องการสูง แต่ให้เราลองพิจารณาว่า คณะหรือวิชาอะไรที่ถ้าเราไม่ได้เรียนแล้วเราจะเสียดายที่สุดในชีวิต ส่วนอีกท่าน คือคุณสุทธิชัย หยุ่น จากThe Nation ท่านบอกว่าในทรรศนะของท่าน การจะรับใครเข้าทำงานสักคนท่านจะเน้นเรื่องภาษาเป็นสำคัญ เพราะความสามารถอื่นๆส่วนใหญ่สามารถฝึกฝนให้เป็นได้ในระยะเวลาแค่ 3-6เดือน แต่ภาษาเป็นสิ่งที่ต้องให้เวลายาวนานในการศึกษา และสะสม สิ่งนี้เองทำให้ผู้ที่มีความสามารถทางภาษา สามารถพลิกแพลงไปได้หลากหลายอาชีพ เพียงแค่ฝึกฝนเพิ่มเติมเฉพาะด้านในการฝึกงานเท่านั้น หนูโชคดีนะคะที่มีคุณพ่อคุณแม่เอาใจใส่ และพี่เชื่อว่าท่านทั้ง2พร้อมจะสนับสนุนเต็มที่ โดยเฉพาะถ้าหากว่าหนูปรึกษาท่านอยู่เรื่อยๆ ท่านก็น่าจะเข้าใจหนูมากขึ้นนะคะ ลองคุยกับคุณพ่อตรงๆสิคะว่าหนูชอบอะไร รักอะไร เพราะโดยปกติแล้ว คนเราย่อมมีความสุข ใส่ใจ และทำได้ดี ในสิ่งที่เรารักนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ และแอบดีใจด้วยที่หนูมีความคิดที่ดี รักที่จะก้าวไปข้างหน้า ไม่ขี้เกียจเหมือนน้องๆอีกหลายคน คนเหล่านี้น่าสงสารนะคะ บางคนไม่มีกำลังใจ บางคนไม่รู้จะปฏิวัติตัวเองยังไงเริ่มไม่ถูก บางคนก็ไม่รู้จริงๆว่าเวลานี้ควรเริ่มได้แล้วหรือยัง ดังนั้นถ้าหนูเริ่มวางแผนแล้วก็อย่าลืมคอยช่วยเพื่อนๆคนอื่นๆให้เริ่มไปพร้อมๆกับหนูนะคะ ลองแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันดู แล้วก็ให้กำลังใจกัน จะได้ช่วยกันเรียน ช่วยกันเก่ง ช่วยกันประสพความสำเร็จนะคะ
|
: March 23, 2008, 01:34:23 PM
: lB a d t z_m a r u
|
น้องไม่ใจร้อนไปหรอกค่ะ เป็นการเตรียมตัวที่ดีด้วยซ้ำไป อิจฉาจังเลยค่ะ
พี่เองก้เพิ่งจารุ้สึกตัวตอนจาขึ้น ม.6 แอบเสียดายนิดสสนึง - - "
ถ้าเราเตรียมตัว และขยันตั้งแต่เนิ่นๆ ตั้งใจเรียนอย่างสม่ำเสมอ ตอนขึ้น ม.6
จะได้ไม่เหนื่อยมากงัยคะ จะได้มีเวลาทบทวนเยอะๆ
แต่ก้ต้องแบ่งเวลาไปทำอย่างอื่นมั่งนะคะ จาได้ไม่เครียดเกินไป มีเวลาให้คนอื่นด้วยก้ดีน้า
อาจจาไม่ต้องขยันมากๆ แต่ขยันอย่างพอสมควร และเป็นไปอย่างเสมอต้นเสมอปลายตั้งแต่ ม.4
พี่ว่าน้องต้องไปถึงความฝันได้แน่ๆค่ะ
สู้ๆน้า ~ ^^
|
: March 22, 2008, 08:07:24 PM
: ``b I | f ~ -*
|
ถ้าอยากเรียนอักษร แล้วชอบ ต้องทำได้ดีแน่ๆครับ เพราะฉะนั้นงานมันก็ต้องมีอยู่แล้ว
อ่านแล้วอิจฉาครับ เพราะผมเหมือนคนทั่วไปครับ ม4 ม5 เล่นมากไปหน่อย ขยันก็แค่ตอนสอบ เกรดก็รักษาสภาพมาได้ดีพอสมควร
และก็ต้องมาเหนื่อย ตอน"นี้" จริงๆด้วย
เพราะฉะนั้น เตรียมตัวไปเถิด... ดีมากเลย
แต่อย่ามัวแต่สนใจเรียนอย่างเดียว โลกภายนอก กิจกรรม เพื่อนๆ ก็สำคัญมาก ทิ้งไม่ได้นะ
ใช้ชีวิตวัยรุ่นให้คุ้มค่า แต่ก็ไม่ลืมที่จะห่วงอนาคตด้วย ดีที่สุด ครับ ^^"
|
: March 21, 2008, 08:15:39 PM
: comely
|
หนูกำลังจะขึ้นม.4ค่ะ... ม.4 เป็นจุดเริ่มต้นของม.ปลาย แล้วก็เป็นจุดที่เริ่มชี้ชะตาชีวิตของเราด้วย หนูยังไม่รู้เลยค่ะว่าตัวเองอยากเอนท์อะไร หนูเคยทำข้อสอบวัดแววอาชีพ หนูได้อาชีพเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและบริการน่ะค่ะ แต่ว่าอาชีพแบบนี้ก็มีคนทำเยอะแล้ว หนูก็หวังอีกอย่างคือรัฐศาสตร์ แต่หนูไม่มั่นใจว่าหนูจะเหมาะสมกับอาชีพนี้หรือเปล่า เวลาหนูนั่งนิ่งๆหนูก็มักจะคิดว่า...หนูจะเป็นอะไรกันแน่ วันนึงหนูก็คิดว่า...หนูจะเรียนสาขาการโรงแรม (เรียกแบบนี้รึเปล่าคะ) ซึ่งสาขานี้มีที่มหิดล อินเตอร์...และหนูก็คิดว่าถ้าเราได้เรียนแบบอินเตอร์ ก็จะหางานง่ายขึ้น ภาษาอังกฤษหนูก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ถือว่าพอใช้ได้ในห้อง ดังนั้น ตอนนี้หนูก็เลยเรียนอย่างเดียวเลยค่ะ หนูกะว่าจะสอบรัฐศาสตร์แล้วก็ลองไปสอบที่มหิดลเผื่อๆน่ะค่ะ ตั้งแต่ปิดเทอม หนูก็ลงเรียนพิเศษเลยค่ะ เปิดเทอมหนูก็ร่างที่เรียนพิเศษไว้จนเวลาว่างเหลือนิดเดียวเอง หนูกลัวว่าหนูจะเตรียมตัวเอนท์ไม่ทัน เพราะคนๆอื่นๆก็คงกำลังขยันอ่านหนังสืออยู่เหมือนกัน หนูค่อนข้างขี้เกียจเลยพึ่งเรียนพิเศษซะส่วนใหญ่ แต่เพื่อนๆชอบบอกว่าหนูขยัน... (คือหนูจะมาขยันก่อนวันสอบ 1 วันน่ะค่ะ แหะๆ)
ล่าสุดหนูถามเพื่อนๆว่าพวกเค้าเรียนพิเศษอะไรกันบ้าง เพื่อนๆหนูก็บอกว่าจะเรียนทำไมปิดเทอม เปิดเทอมค่อยก็ได้ ซึ่งหนูฟังแล้วก็รู้สึกว่าขนาดเพื่อนๆยังไม่เดือดเนื้อร้อนใจ เราจะเรียนอะไรมากมาย แต่หนูก็ทนอยู่เฉยๆไม่ได้ เพราะหนูเห็นหลายคนที่ประมาทแล้วต้องมานั่งเหนื่อยก่อนเอนท์ หนูก็บอกเพื่อนว่าถ้าเราเหนื่อยตอนนี้ ม.5ก็จะได้สบายขึ้นมาหน่อยไง แต่เพื่อนๆหนูกับมองหนูด้วยสายตาแปลกๆ พวกเค้าบอกว่าหนูบ้าเรียน แต่หนูไม่รู้จะทำยังไงแล้วนี่คะ แม่หนูบอกหนูว่าขยันตอนนี้ถูกแล้วเพราะเราจะได้เปรียบมากกว่าคนอื่น หนูเชื่อแม่หนู แต่ก็ไม่รู้ว่าตัวเองใจร้อนเรื่องอนาคตมากไปรึเปล่า... อาจารย์ช่วยหนูด้วยนะคะ
ปล.อาจารย์คะ หนูปลื้มอาจารย์ม๊ากมาก >< ปล2.หนูก็อยากเข้าอักษรศาสตร์นะคะ แต่คะแนนสูงมากกกกแถมพ่อหนูยังไม่สนับสนุนอีกด้วย เพราะกลัวหนูไม่มีงานทำ แต่ที่จริงแล้วหนูอยากเรียนอักษรศาสตร์ที่สุดเลยค่ะ!!
|