Kru Somsri's English School

July 08, 2025, 05:02:38 PM

:    
191147 46430 16643
: JoyBlazer9
*
+  Kru Somsri's English School
|-+  ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี
| |-+  คุยกับคุณครูสมศรี
| | |-+  ( บทความ...สำหรับชีวิตคู่ (อยากให้อ่าน เป็นข้อคิด) )
:
:
:
:
||||
||||
+




: December 28, 2009, 09:06:46 AM
: facecard
TT^TT
: December 27, 2009, 06:54:13 PM
: OLaurentO
ซึ้ง

 

ต่อไปนี้ต้องทำดีกับพ่อแม่ เยอะๆ มากกกๆๆๆๆ เลย 
: December 27, 2009, 05:27:51 PM
: NaaPaaat
 
: December 27, 2009, 02:03:25 PM
: RaBBiT
อ่านกี่ทีก็ร้องไห้  T  T
: December 06, 2009, 09:42:30 PM
: Lahnmaii
อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปอย่างไร้ค่า..
: December 06, 2009, 08:31:07 PM
: BOS
ให้แง่คิดมากครับ ขอบคุณหลานนะครับที่เอื้อเฟื้อข้อคิดดีๆให้ชาวบอร์ดของเรา
: December 06, 2009, 02:56:06 PM
: L'ocea
เรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้   เป็นเหตุการณ์ที่ติดตาฉันตลอดมา  กลับการที่ต้องสูญเสีย  คนรัก ไป...

  หลังจากช่วงที่ฉันแต่งงานกับสามีของฉันมาได้เกือบ 3 ปีเศษ
ฉันยอมรับว่าฉันไม่ค่อยมีเวลาที่จะได้พักผ่อนกับสามีเลย  เพราะ
ว่าฉันเป็นแพทย์อยู่ที่รพ.แห่งหนึ่ง  ฉันมักจะกลับบ้านดึกเป็นประจำ แตกต่างกลับสามีของฉันที่กลับหัวค่ำ ทำให้ฉันไม่ได้ผูกพันธ์กับเขาเลย ทุกครั้งที่ฉันกลับมาจะเห็นอาหารที่น่ารับประทานวางอยู่บนโต๊ะทานอาหาร  และจะมีผู้ชายคนหนึ่งนั่งหลับรอ  เป็นอย่างนี้ทุกวัน  และเมื่อฉันทานอาหารเสร็จ สามีของฉัน มักจะบอกว่า  "ขอผมกอดคุณได้ไหม"  แต่ทุกครั้งที่เขาขอฉันก็จะบอกว่า "เดี๋ยวก่อนฉันยังไม่ได้อาบน้ำ" เสมอ  แต่หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จ  ฉันก็เข้านอนเลย  ฉันลืมกอดเขาตามที่ฉันบอก   หลังจากนั้นไม่นาน  ฉันก็เริ่มมีปากเสียกับสามีบ่อย  จน ร้องไห้กันเลย  ฉันงี่เง่าไม่ฟังสิ่งที่เขาขอ  ส่วนเขาเย็นชาใส่  จนครั้งหนึ่งที่ฉันต้องไปร่วมงานสังสรรค์กับเพื่อนนักเรียนแพทย์ที่จบกัน  ฉันใส่นาฬิกาเรือนที่สามีซื้อให้  ฉันรักมันมาก  ฉันใส่ไปแต่มันกระแทกกับผนังห้องน้ำในร้านอาหารที่รับประทานกัน   เข็มชี้เวลาได้หัก  ฉันรู้สึกหงุดหงิดมาก  ฉันกลับมาที่บ้านฉันก็ถอดมันทิ้งไว้ที่โต๊ะหัวเตียง  ข้างที่สามีฉันนอน  ผ่านไป เกือบ 2เดือน  ฉันหานาฬิกาเรือนนั้นเพื่อที่จะเอาไปซ่อม  แต่ว่ามันเกิดหายไป  ฉันถามสามีว่า "คุณเห็นนาฬิกาที่คุณซื้อให้ฉันรึเปล่า"  ฉันถามเสียงเรียบ "ไม่รู้" เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงห้วนๆ ทำให้ฉันโมโหมาก ฉันเลย แช่งคนที่เอานาฬิกานั้นไปให้ถึงแก่ชีวิตภายในวันสองวัน

           ใช่...คนที่เอาไปไม่ใช่ใคร   เขาคือ...สามีฉันเอง  ฉันได้รับโทรศัพท์ในช่วงตอนกลางวันหลังจากตรวจคนไข้เสร็จ ฉันแทบลมจับ เมื่อรู้ว่า สามีของฉันถูกรถชน ตอนที่เดินทางมาหาฉันที่รพ. เพื่อที่จะเอานาฬิกาที่เขาซ่อมให้คืน  ฉันรีบไปยังจุดเกิดเหตุ  ภาพที่เห็นคือเขานอนแน่นิ่งเลือดไหลไม่หยุด  มือซ้ายของเขากำนาฬิกาไว้ ส่วนมือขวาเขาปล่อยช่อดอกไม้กับการ์ดสีชมพูเล็กๆ  ฉันรีบเขาไปกอดเขาโดยที่เขาไม่ต้องขอ  ความรู้สึกทุกอย่างพรั่งพรูเขามาในสมอง 

     "ต่อไปนี้...ใครจะนั่งหลับรอฉันกลับบ้าน  ต่อไปนี้ใครจะไปรับไปส่งฉันที่ทำงาน  ต่อไปนี้ใครจะคอยห่มผ้าให้ฉัน เวลาที่ฉันนอนดิ้น...ไม่มีอีกแล้ว"

  น้ำตาฉันไหลไม่ขาดสาย  ฉันร้องขอพระเจ้า ช่วยวิงวอนให้เขาฟื้น  แต่มันเป็นไปไม่ได้แล้ว  ต่อไปนี้จะไม่เขาอีกแล้ว
      หลังจากหมดพิธีงานศพแล้ว  ฉันจำได้ว่า  ตอนที่เขาประสบอุบัติเหตุเขาได้มีการ์ดใบหนึ่ง  ฉันหยิบขึ้นมาอ่านด้วยมือที่สั่นเทา  เขาจ่าหน้าซองไว้ว่า

    DEAR  MY WIFE 

  สุขสันต์วันครบรอบแต่งงาน 3 ปีนะ

  ผมรู้ว่าช่วงนี้คุณมีงานเยอะ  ก็ไม่อยากให้เครียดนะ

  ผมขอโทษที่เย็นชาใส่คุณ  แต่ผมก็รักคุณตลอดนะ

  ดอกไม้ช่อนี้คงไม่มีค่าเท่าไรแต่ผมมอบมันให้กับคุณโดยเฉพาะนะ

  สิ่งที่ผมอยากได้คือการที่ผมได้กอดคุณโดยไม่ต้องขอ 

  แต่ไม่เป็นไร   แค่มีคุณอยู่   ผม...ก็มีความสุขแล้ว


ป.ล.  อยากให้นำเรื่องนี้เป็นข้อคิดค่ะ  ฮิๆ  ได้มาทางเมลล์
Sorry, the copyright must be in the template.
Please notify this forum's administrator that this site is missing the copyright message for SMF so they can rectify the situation. Display of copyright is a legal requirement. For more information on this please visit the Simple Machines website.