คิดถึงอนาคตสิคะ แค่นี้แลกไม่ได้หรอ
อนาคตทั้งชีวิต จะมีความสุขไหม
ถ้าไม่ได้อยู่ในอาชีพ/วิชาชีพที่ชอบ
ใจตัวเอง ต้องเตือนตัวเองค่ะ
อย่างเช่น เวลาขี้เกียจอ่านหนังสือ
ก้อบอกตัวเองว่า แค่นี้กูยังโง่ไม่พอเหรอ
หรือถ้าคิดว่าตัวเองโชคดีฉลาดอยู่แล้ว ยังไงก้อสอบติด
ก้อจะบอกว่า มหาวิทยาลัย เราไม่ได้สอบเทียบกับเกณฑ์เหมือน ม.ปลายนะคะ
แต่เค้าให้เกรดแบบเอาคะแนนไปเทียบกันทุกคนแล้วตัดเกรด
บุคคลที่เรียนมหาวิทยาลัยมาจากทุกที่ ยังมั่นใจได้หรือไม่ ว่าจะได้เกรดดีๆ
อันที่จริงแล้ว แม้ว่าการเรียนควรจะมุ่งให้ได้ความรู้มากกว่าเรื่องเกรด
แต่เกรดเป็นตัวสะท้อน ความพยายาม ความขยัน และ ความสม่ำเสมอ
การสอบเข้าเรียนได้เป็นเพียงแค่บันได้ก้าวแรกเท่านั้น
หากสอบติด แต่ไม่เคยมีความพยายาม ไม่เคยมีวินัย
มันก้อไปไม่ได้ไกลหรอกค่ะ
คนอื่นเขาใช้เวลาใน ม.ปลาย สะสมความอดทน ความมีวินัย
เมื่อเข้ามหาวิทยาลัยย่อมเป็นพื้นฐานได้อย่างดีในการศึกษา
แต่หากเข้าไปเรียนแล้วเพิ่งจะคิดได้ว่าต้องขยันซะแล้ว
เราไม่ได้สะสมความพยายามช้ากว่าเขาแค่ 3 ปี (ม.ปลาย) นะคะ มันมากกว่านั้น
เพราะมหาวิทยาลัยเรียนหนัก และเหนื่อย เวลาพักผ่อนและอ่านหนังสือย่อมเหลือน้อยลง
ลองคิดดูว่า สมมุติมีเวลาแค่ 1 ชั่วโมง ของทุกวัน ในการสะสมความเพียร
แต่ในขณะที่ ม.ปลาย มีเวลามากกว่า สมมุติว่า 3 ชั่วโมง (จริงๆคงมากกว่านั้น)
เราใช้เวลาตั้ง 3 เท่า กว่าจะเท่าคนอื่นที่เขาสะสมไว้
แถมยังเริ่มช้ากว่าไปอีก 3 ปี แล้วยังงี้เมื่อไรจะเดินทันคนอื่นคะ
หากวางรากฐานของชีวิตอย่างไม่มั่นคง แล้วก้าวต่อไปจะเป็นอย่างไร
ฝากไว้ให้คิดค่ะ
|