3.ให้กำลังใจคุณแม่ว่า ช่วงวัยรุ่นนี้ เป็นวัยที่สับสน
คุณแม่ต้องเสียสละ คือเสียสละ"ความทุกข์ ความกังวลใจ"ออกไปจากจิตใจของคุณแม่เสียก่อน
ไม่อย่างนั้นเราจะตกอยู่ในซีกอารมณ์มืดเฟมือนกันทั้งสองฝ่าย
เมื่อมืดแล้วก็จะมองไม่เห็นทางออก นอกจากการจะยึดความตายเป็นที่พึ่ง
หนูต้องมีสุขภาพจิตที่ดีจึงจะถอดแว่นเลนส์สีดำที่หม่นหมองของคุณแม่ได้
ถึงที่สุด เลิกไม้ได้ก็ต้องคิดว่าติดบุหรี่ดีกว่าติดยาบ้า เฮโรอีน
ถ้าเราค่อยๆประคองจิตใจกันและกัน มองโลกในแง่ดี
คิดในสิ่งดีๆ อภัยในความไม่รู้ของพี่มอส ที่ทำให้พี่มอสต้องหันมาใช้วิธีง่ายๆที่วัยรุ่นทำกันอย่างนี้
ขึ้นชื่อว่านักดนตรี ก็คือศิลปิน ที่อารมณ์อ่อนไหว
เขาจะไหวต่อความทุกข์และความกังวลของเรา ก้ยิ่งทำให้เขาหาทางออกไม่ถูกเข้าไปอีก
น้องนิต้องเข้าใจในตัวพี่มอสก่อนนะลูก
แล้วอย่าเพิ่งโกรธพี่มอส
หนูต้องเป็นคนที่เข้มแข็ง มองปัญหาเป็น เห็นวิธีแก้ อย่าท้อแท้ถ้าไม่ได้ผลในทันที
ค่อยๆนะลุก
คุณครูเป็นกำลังใจให้
ถ้าอยากได้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ หนูทิ้งเบอร์ในข้อความส่วนตัวของคุณครูนะคะ
หนูยังมีคุณครูนะลูก
ไม่ยากนะคะ เพราะเราไม่ยอมแพ้
มองแบบมีพลัง เดี๋ยวเรื่องเลวร้ายก็จะผ่านไป เรื่องดีๆ ก็จะเข้าแทนที่
เพราะเราใช้ "ปัญญา"แก้ปัญหา แทนการใช้อารมณืความรู้สึก
คุณครูเป็นกำลังใจให้หนูนะลูก
แค่เข้าใจปัญหา ค่อยๆมองทีละจุด อย่าเอามารวมกันทีเดียวนะลูก
เพราะจะปนกันไปหมด แล้วมองไม่เห็นปมปัญหา
สู้ๆนะคะ
หนูและคุณแม่เปลี่ยน พี่มอสก็จะค่อยๆเปลี่ยนค่ะ
ไหว้พระสวดมนต์ให้ใจเรามั่นคงในความดี
คุณแม่คือพระพรหมของลูก
เมตตา กรุณา มุทิตา สุดท้ายไม่ว่าอะไรจะเกิด เราต้องวางอุเบกขา
และมั้นใจในความดี และรอคอยอย่างมีความหวังนะคะ
สู้ๆนะคะน้องนิ
ฝากกำลังให้คุณแม่และพี่มอสด้วย
ถ้าพี่มอสเรียนกับคุณคร อยากให้คุณครูช่วย
คุณครูยินดีนะคะ
ปีใหม่นี้ขอให้ศุภมงคลบังเกิดแก่ครอบครัวหนูนะลูก
|