พี่หนูเรียนอยุ่ชั้นไหนลูก
อย่าเพิ่งร้องไห้นะคะ หนูจะเครียดและหาทางออกไม่ได้
เด็กผู้ชายวัยนี้ ถ้าหลงเข้าไปในเรื่องเหล่านี้จะหลุดเข้าไปในเขาวงกต หาทางออกเองลำบาก
หนุต้องตั้งสติก่อนนะคะ
ผู้ที่จะพาพี่ของหนุออกมาจากวังวนนี้ได้คือพระพรหมของเขาเอง ถ้าไม่ใช่คุณแม่ก็ต้องเป็นคุณพ่อ
อย่าเพิ่งไปต่อว่าหรือเสียใจพี่นะคะ เพราะเขาทำไปตามความต้องการทางสรีระและอารมณ์
เรามาสอนให้เขาทราบถึงผลเสียที่จะเกิดตามมาดีกว่า
ขั้นแรก ถ้าห้ามไม่อยุ่ คงต้องสอนเชิงรุกว่าเขาต้องป้องกันตนเองอย่างไรให้ปลอดภัยจากโรคติดต่อที่สามารถถึงคร่าชีวิตเขาได้
"ให้สติ"กันดีกว่านะคะ
ให้คุณพ่อหรือคุณแม่คุย แต่ถ้ากลัวคุณแม่ตกใจ หนูคงต้องเหนื่อยนิดนะลูก
พยายามอธิบายให้ท่านทราบว่า สิ่งที่พี่หนุทำไม่ได้ผิดขั้นจริยธรรม หรือข้อบทกฏหมาย เพียงแต่"ยังไม่เหมาะกับวัย"ที่กำลังบ่มเพาะความฝัน
และอาจดึงรั้งให้เขาเดินเขวออกจากจุดหมายที่วางไว้
เรื่องความสะอาดและการป้องกันตนเองจากโรคต่างๆก้เป็นเรื่องที่แม่และพ่อควรสอนไปพร้อมๆกัน
อย่าเพิ่งแสดงอาการหวั่นวิตกจนเขาผงะหนีหรือปกปิด ไปจนถึงโกหกหรือหลบหน้า
สอนเขาเหมือนที่เพื่อนสอนเขา คือยอมรับและเข้าใจเขาก่อนว่าฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลงจนทำให้ความพิจารณาใคร่ครวญลดน้อยลงกว่าสติ แะลตัดสินใจไปตามความรู้สึกทันที
ค่อยๆคุยกันนะคะ อย่าเพิ่งเสียใจนะคะ
พี่หนูอาจแค่ติดต่อเล่นๆเพื่อความโก้เก่ในวัยนี้ อยากรู้อยากลองแต่ยังไม่ก้าวล่วงไปจนติดเป็นนิสัยเคยชิน ไปจนถึงหมกมุ่นก็ได้นะคะ
ใจเย็นๆ ค่อยๆคุยกับคุณแม่หรือคุณพ่อนะคะ
เราต้องมีสติมากกว่าเขานะลูก ถึงจะให้สติเขาได้
ดีที่สุด ควรสอนวิธีป้องกันตัวเองไว้นะคะ(ถ้าเลี่ยงไม่ได้)
หางานให้เขารับผิดชอบ หรือให้เล่นกีฬาหรือดนตรี มีกลุ่มเพื่อนที่มีกิจกรรมอื่นๆ เพื่อดึงความสนใจและสมาธิไปอยู่ที่กิจกรรมนั้นๆ
ลองดูนะคะ ได้ผลอย่างไรก้เล่าหรือส่งเป็นข้อความส่วนตัวมาให้คุรครูนะคะ
สู้ๆนะคะ
คุรครูรอเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะและมั่นใจว่าลูกศิษย์คุรครูต้องทำได้นะลูก สู้ๆ
|