Kru Somsri's English School

July 06, 2025, 06:42:23 PM

191147 46430 16623
: Carloswam

Kru Somsri's English School

ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี

คุยกับคุณครูสมศรี

( แม่ใฝ่ฝันอยากได้ลูกติดจุฬา...เอาไงดี สวยล่ะสิ )

:

:

:

:

: March 15, 2009, 09:44:37 AM : คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
อย่าเพิ่งเครียดค่ะ งานเภสัชซ่อมแซมและเยียวยาร่างกาย งานสถาปัตย์ตกแต่งและสร้างสรรค์อาคารสถานที่ให้งดงาม บางทีแต่งอาคารก็สวย แต่งร่างกายก็งดงาม เอาเวลาไปสร้างเหตุดีกว่านะคะ ชอบก็เรียน ยังไม่ชอบกรอเวลาดูไปก่อน เตรียมเครื่องปรุงให้พร้อม ถึงเวลาจะทำเมนุไหน ก็คว้าฉวยได้ทัน บางทีเมนูที่ไม่เคยลองทำ อาจออกมาหน้าตาสวยงามและอร่อยกว่าอาหารจานเดิมที่คุ้นเคยนะคะ อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ บางที่ความต้องการของแจะนำพาเราไปสู่จุดที่เราไม่คิดว่าสื่งนั้นสวยงาม ก่อเหตุที่เหมาะสมนะคะ เดี๊ยวผลจะเป็นไปตามวินาทีสุดท้ายที่เราต้องการตัดสินใจค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ จุ๊บๆ
: March 15, 2009, 09:19:38 AM : องครักษ์แห่งวังแสงสูรย์
^o^
: March 15, 2009, 06:20:30 AM : ครูปอนด์
เอาเป็นว่า ทำให้ดีที่สุดดีกว่านะครับ การที่แม่บอกว่า "ไม่เปนไร ติดที่ไหนก็ไม่ว่า" นั่นก็คือท่านก็คงจะพยายามทำใจอยู่บ้างแล้วว่าความไม่แน่นอนคือความแน่นอน สิ่งที่น้องจะทำได้ก็คือ การตั้งใจเรียน โดยจะต้องเอาความเครียดออกไปจากตัวเองให้ได้ คนเก่งที่สุดไม่ใช่คนเครียดที่สุด และคนเครียดที่สุดก็ไม่มีวันเก่งที่สุด ความสำเร็จไม่ได้วัดว่าจะทำได้หรือไม่ แต่ความสำเร็จวัดที่ การทำดีที่สุดแล้วในปัจจุบันขณะ ้ถ้าน้องบอกว่า น้องเรียนจุฬาฯเพื่อจะเลี้ยงแม่ให้ได้ แล้วพี่ถามว่า คนที่เรียนรามฯเลี้ยงแม่มิได้หรือ ก็ไม่ใช่ คำตอบของสังคม แม้ว่าจะอิงสถาบันเพียงใด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ความสามารถที่มีในตัวเองของแต่ละคนต่างหาก ที่คน ๆ นั้นสามารถรู้และดึงมันออกมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ สิ่งที่พี่อยากบอกก็คือ จงทำตัวเองให้มีความสุขราวกับวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต คนเราไม่รู้จะตายวันตายพรุ่ง พี่คิดเสมอว่า ชีวิตนี้งดงามนัก ชีวิตก็เหมือนกับเหรียญที่มี 2 ด้าน จะมองดีก็ดี จะมองแย่ก็แย่ อยู่เราเลือกมอง แต่ทั้ง 2 สิ่งนั้นก็คือความจริงในคนละมุม พี่โชคดีจังครับ ที่มีอาจารย์นักปราชญ์หลายท่าน คอยสั่งสอนเสมอมา หนึ่งในคำสอนที่สำคัญที่พี่ยึดเป็นคติประจำใจก็คือ "คนโง่เห็นวิกฤติในทุกโอกาส แต่คนฉลาดเห็นโอกาสในทุกวิกฤติ" ไม่ใช่ว่าพี่มองทุกอย่างเป็นสิ่งที่ทำกำไรนะครับ แต่พี่มองว่า ทุกสิ่งมันมีด้านบวกของมัน ถ้าเกิดเงินเราหาย มองอย่างคนทั่วไปก็คงบอกว่า โชคร้ายบ้าง แย่บ้าง ดวงซวยบ้าง แต่พี่กลับมองว่า สิ่งนี้คือบทเรียนทำให้เรารู้จักรักษาข้าวของ รู้จักมีสติมากขึ้น และขอบคุณกับสิ่งนั้น คุณครูสมศรีเคยสอนพี่ โดยเล่าพุทธประวัติว่า สาวกของพระพุทธองค์ผู้หนึ่งต้องเดินทางไกล พระองค์ต้องการทดสอบ โดยกล่าวว่าหากท่านไป อาจต้องเป็นเช่นนั้นเ่ช่นนี้ ไล่ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่โดนไม้ตีบ้าง โดยมีดแทงบ้าง ฆ่าอย่างทรมานบ้าง โดยสาวกผู้นั้นก็ตอบเสมอว่า โดนทุบก็ดีกว่าโดนตีด้วยไม้ โดนตีด้วยไม้ก็ดีกว่าโดนมีดแทง เป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ จนเห็นแล้วว่า บุคคลผู้นี้มองเห็นความเป็นจริง มองเห็นความงดงามในสิ่งนั้น สมัยพี่เด็ก ๆ เพื่อนพี่คนหนึ่งเคยถามว่า "ถ้าเกิดให้เลือกระหว่างใช้ชีวิตให้มีค่า กับใช้ชีวิตให้คุ้มค่าจะเลือกอะไร" พี่ก็ตอบไปทันทีว่า ใช้ชีวิตให้มีค่าสิ เพราะชีวิตนี้ควรทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ไม่ใช่เห็นแ่ก่ตนเอง เพื่อนพี่อีกคนกลับตอบว่า เกิดมาครั้งเดียว ขอสนุกอย่างคุ้มค่าดีกว่า ก็เถียงกันโดยหากข้อสิ้นสุดมิได้ แต่วันนี้ถ้ามีคนมาถาม พี่จะตอบเขาว่า ไม่เห็นต้องเลือกเลย เพราะทั้ง 2 อย่างนี้ก็ทำได้พร้อมกันอยู่แล้ว พี่เริ่มมองว่า ชีวิตนี้มีค่ามากพอที่จะให้ประโยชน์แก่ตนและแผ่ร่มเงาไปยังผู้อื่น ย่อมมีความสุขเป็น 2 ต่อ เพราะฉะนั้นการมองโลกเป็นสิ่งที่สำคัญนะครับ เราไม่ควรทุกข์ไปก่อนสิ่งนั้นจะเกิด "ผลนั้นกำหนดได้โดยเหตุปัจจัยในปัจจุบัน" หากวันนี้ เราำทำเหตุที่เอื้อต่อผลแล้วไซร้ความสำเร็จย่อมเกิด แม้ปัจจัยที่เป็นแง่ลบมากระทบ ถ้าเราเปลี่ยนพลังแง่ลบนั้นให้เป็นบวก ฮึดสู้ รับรองครับ ความสำเร็จย่อมเกิดกับเราแน่นอน แล้วเมื่อเราเลี้ยงตัวเองได้ หนทางที่จะเลี้ยงแม่ย่อมเกิด คนดีตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ คำเปรียบนี้มิได้แสดงความจริง 100% แต่นักปราชญ์ท่านมีความลึกซึ้งในอรรถภาษา ท่านแสดงให้เห็นความมหัศจรรย์ของการเป็นคนดี และการเป็นคนดีที่สำคัญก็คือ ความกตัญญูครับ ถ้าเราคิดดี พูดดี ทำดี ในปัจจุับันขณะ ย่อมส่งผลถึงอดีตและอนาคตที่ดีของเรา เพราะปัจจุับันที่งดงามเมื่อผ่านไปก็จะเป็นอดีตงดงาม ปัจจุบันที่งดงามย่อมส่งผลต่ออนาคตที่งดงามเช่นกัน ปัจจุบันขณะ คือ อำนาจที่เราสร้างได้ เลือกได้เอง โดยไม่ต้องพึ่งใครนะครับ ธรรมะย่อมจัดสรร ธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม ขอให้น้องโชคดีนะครับ ^^
: March 15, 2009, 12:13:40 AM : maewmeaw
กราบเรียนคุณครูสมศรี คุณครูที่สวยที่สุดในกรมสามัญ อันเนื่องมาจากว่า........ เข้าเรื่องกันค่ะ คือว่าแม่หนูท่านบอกกับหนูต่อหน้า เพื่อนๆหนู ว่า"อยากได้ลูกสาวติดจุฬาซักคนนึงคงจะดี" หนูเองก็รู้นะคะว่าพ่อแม่ทุกคนใฝ่ฝันมาก และโดยเฉพาะมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย หนูมีพี่สาวซึ่งตอนนี้พี่หนูเองก็เรียน ม.เกษตร ปี4แล้วค่ะ (คุณเธอเอาตัวรอดไปกอนแล้ว) เหลือหนูซึ่งเป็นน้องสุดท้อง แน่นอนค่ะ ที่แม่บอกว่าอยากมีลูกติดจุฬาซักคน คงไม่ใครอื่นนอกจากหนูเอง (เพราะแม่หนูคงไม่มีน้องให้หนูอีกคนแล้วแน่นอนค่ะ) แม่อยากให้เรียนเภสัช ทันตะ แต่ตัวหนูอยากเข้า "สถาปัตย์"ค่ะ ซึ่งแม่เองก็ไม่ว่าแต่ก็กลัวหางานเยงชีพตัวเองมิรอด เพราะคณะที่แม่หนูอยากให้เรียน หางานง่ายกว่าแต่สิ่งสำคัญเลย แม่อยากได้จุฬา ซึ่งหนูเองก็เรียนไม่เก่ง เกรดก็ไม่ถึง3.5เลย (หนูได้3.3) หนูต้องสอบแบบใหม่(GAT PAT) ซึ่งสถาปัตเองใช้ GAT45เปอเซน(สำหรับจุฬา) และPAT 45% และโอกาสในการสอบ มีครั้งเดียวค่ะ ไม่ไช่4ครั้ง เพราะจุฬา เอาแค่ครั้งที่2เท่านั้น(สอบในเดือน กรกฎา) หนูรู้สึกว่า กดดันนะ ถึงแม้แม่จะบอกว่า ไม่เปนไร ติดที่ไหนก็ไม่ว่า แต่ในใจของแม่ หนูคิดว่ามันไม่ใช่ หนูเองจะทำไงดีคะ หนูทราบว่าควรทำให้ดีที่สุด แต่หนูเองก็อยากให้แม่มีความสุขค่ะ หนูจะทำได้มั๊ย? จะติดจุฬา และเลี้ยงแม่ได้รึป่าว

Sorry, the copyright must be in the template.
Please notify this forum's administrator that this site is missing the copyright message for SMF so they can rectify the situation. Display of copyright is a legal requirement. For more information on this please visit the Simple Machines website.