ถึงคุณครูสมศรีครับ
ผมเป็นลูกศิษย์คุณครูคนหนึ่งนะครับ อยู่ที่บางกะปิ วันที่คุณครูมาทำไมไม่บอกกันเลยนะ ว่าจะมา ผมเป็นลูกศิษย์ใหม่นะครับวันแรกที่มาเรียนนะครับ ผมคิดว่า เอคุณครูสมศรีหน้าตาเป็นยังไง แล้วจะสอนดีสักแค่ไหน ผมไปเรียนวันแรกสิ่งที่ผมได้กลับมา วันแรกผมก็รู้สึกว่า เอ อยากเจอคุณครูสักครั้งจังเลย ผมก็ได้แต่เพียงปลาบปลื้มใจ ซึ่งเก็บไว้ในใจเพียงเท่านั้น ผมรู้สึกว่าทุกสิ่งที่คุณครูพูดมามันเป็นอะไรที่ คือบรรยายไม่ถูกอะครับมันรู้สึก อบอุ่น แล้วก็ เปี่ยมไปด้วยความรัก ที่คุณครูจะมอบให้ซึ่งผมก็ตอบไม่ถูกเหมือนกัน พอเรียนไปเรื่อยๆ ก็คิดในใจว่า อยากจะไปเรียน กับคุณครูที่ศรีย่าน แต่เหมือนกับดวงจิต ของผม สามารถสื่อไปหาคุณครูได้ ซึ่งคุณครูคงรู้ใช่มั้ยครับว่าทางพระพุทธศาสนานั้นจิตเป็นสิ่งที่เร็วที่สุดในเอกภพ แล้วคุณครูก็เคยบอกว่าเมื่อเราคิดบวก ความคิดบวกก็จะกลับมาหาเรา ถ้าเราคึดลบ ความคิดลบก็จะกลับมาหาเรา ซึ่งวันที่คุณครูมาผมรู้สึกว่าทำไมคนเยอะจัง พอไปถึงผมแทบช็อคเพราะนั่นคือ คนที่ผมอยากจะเจอมาก ตอนนั้นรู้สึกว่าคุณครูสวยมาก สวยมากที่สุด ใจผมตื่นเต้นและรู้สึกปลาบปลื้มมาก ที่ไม่นึกไม่ฝันว่า คุณครูที่สวยที่สุดสวยมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สวยในที่นี้ผมหมายถึง ความสวย ที่คุณครูมีไม่เหมือนใครคือ สวยอย่างปรานี สวยอย่างสง่า สวยอย่างไม่รู้จะพูดยังไงนะครับ ตอนนั้นผมเรียนรอบบ่ายแต่ไม่รู้จะทำยังไง อยากกอดแล้วกราบคุณครูสักครั้ง แต่ก็ได้แค่เข้าไปจับเนื้อตัว แล้วก็ตัดใจขึ้นเรียนพอเรียนเสร็จผมก็เข้าไป หาคุณครู ก็ไม่รู้จะมีอะไรให้เขียน ก็เลยเอาเสื้อให้คุณครูเขียน ตอนนั้นผมรู้สึกปลาบปลื้มใจมากเลยนะครับ แล้วผมก็ขอคุณครูกอดหนึ่งที ตอนนั้นผมอยากจะกอดคุณครูไปตลอดตอนนั้นผมแทบจะร้องให้แล้ว เลย ไม่อยากปล่อยเลย แล้วตอนกลับบ้านผมก็นึกลอายใจนะครับ ว่า สมควรจะเป็นลูฏศิษย์คุณครูรึปล่าว พ่อแม่สอนสั่งอะไรก็ไม่ยอมเชื่อตวาดใส่โดยที่ไม่รู้สึกตัว คิดว่าตัวเองทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว ระหว่างนั้น ที่ผมนั่งรถเมล์กลับบ้านผมก็รู้สึกว่ามีนำไหลออกจากตาใจก็นึกถึงพ่อแม่ว่าทำไมเราไม่ทำให้ดีกว่านี้ ทำไมเราต้องเถืยงท่าน ทั้งๆที่ท่านก็คอยแต่จะมอบความหวังดีความสำเร็จให้เรา แต่เรากลับคิดว่า มันเป็นสิ่งที่น่ารำคาญ น่าเบื่อ น่าโมโหนำตาผมไหลมาเรื่อยๆโดยที่ไม่มีคนมาสังเกตเห็น ผมก็คิดตามที่คุณครูบอกเลยว่าอย่าเสียเวลาในการการเสียใจสู้เอาเวลามา อ่านหนังสือไม่ดีกว่าหรือ ผมก็หยิบหนังสือเรียนมาอ่านลงจากรถและกลับบ้านมาในใจผมรู้สึกเขินอยากจะขอโทษแม่ แต่ ไม่กล้า ปกติแม่จะล้างเท้าทุกวันแล้วเอานำไว้ราดต้นไม้ ผมก็แอบยกกะละมังมาไว้ในห้องนำ กะจะเอามาล้างหัวแห่งความเป็นไอ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆขี้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆแพ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไอ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆโง่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆกว่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆควายๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆออกไปผมค่อยๆเอาล้างหัว แล้วส่วนหนึ่งก็เก็บไว้กราบไหว้ ทุกคืน จนวันถัดมาผมเรียนเสร็จนั่งอ่านหนังสือ 5 ชั่วโมง (มีพักบ้าง) ผมเห็นแม่หันมา และจะแอบยิ้ม แล้วแม่ก็เดินเข้าห้องนำ ผมก็ไม่ได้คิดอะไร แต่คุณครูเชื่อมั้ยครับแม่ แอบไปร้องให้ในห้องนำ ผมก็รีบเคาะประตู แล้วถามแม่ว่าเป็นอะไร แต่แม่ก็ไม่ตอบ ในใจผมคิดว่า แม่ต้องร้องให้เรื่องเราอ่านหนังสือแน่นอนเลย ผมไม่รู้ท่านคิดอย่างไร แต่ผมคิดในใจว่าเราโง่เยี่ยงความยถึงกับขนาดนั้นเลยหรอ เพราะพอเราตั้งใจอ่านหนังสือแล้วแม่ถึงขนาดร้องให้ แสดงว่าที่ผมทำมันบาปมากแน่ๆเลย เพราะพอเราทำความดีเล็กน้อยแม่ถึงกับร้องให้ ผมว่าผมคงทำอนันตริยกรรม 5 ไปแล้วแน่ๆเลยแล้วผมก็ฝืนใจอ่านหนังสือต่อไปแล้วนำในตาก็ไหลออกมาทั้งๆที่อ่าน คุณครูสมศรีครับ ผมขอขอบคุณคุณครูมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ที่ให้ความอนุเคราะห็สอนเด็กโง่ๆ(สุดๆ) อย่างผม ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี ได้รู้จักสิ่งที่ควรจะกระทำสิ่งที่ไม่ควรกระทำ ถ้าผมไม่ได้เจอคุณครูผมคงไม่สำนึก คงเป็นเพราะผมได้ทำบุญ ให้ความสว่างในปัญญาให้คนอื่นในชาติปางก่อนไว้ ชาตินี้ผมจึงได้เจอคุณครูสมศรีสั่งสอนผมให้ผมสำนึกทุกวันนี้ผมจะกราบ 4 ครั้งเหมือนคุณครูนะครับ 3ครั้งพระรัตนตรัย และครูอาจารย์ และพ่อแม่ คตุณครูครับผมว่าคงไม่มีใครเลวไปกว่าผมแล้วแต่ผมอยากให้คุณครูสั่งสอนคนอื่นให้สำนึกได้เหมือนผม ผมจะขอบคุณคุณครูมากเลยครับ ที่ทำให้คนอื่นสำนึกได้เหมือนผม ผมอยากกราบเท้าคุณครูมากเลยครับเอาไว้ถ้าเรามีโอกาสเจอผมจะขอเข้าไปกราบใต้เท้าคุณครูนะครับ แล้วผมก็ว่าไม่จริงนะครับที่คุณครูสอนว่าการที่ได้กราบเท้าพ่อแม่เป็นมงคลสูงสุด ไม่จริงครับผมว่าต้องครูอาจารย์ด้วยจึงจะถูก ผมถือว่าผมทำบุญมามากนะครับถึงได้เจอคุณครูสมศรีครับ รักคุณครูมากที่สุด ในโลกนะครับ (รองจากพ่อกับแม่ และพระรัตนตรัยนะครับ).....(นี่เพ่งอ่านหนังสือจบเลยเข้ามาได้ครับ)
จาก ตั้ม ลูกศิษย์จากบางกะปิ
|