มีครอบครัวชาวสวนครอบครัวหนึ่ง พ่อ ลูกชาย ลูกสาวต้องไปสวนทุกวัน
แต่มาวันหนึ่ง วันที่ลูกชายถูกงูกัดตาย พ่อบอกให้ลูกสาวกลับบ้นไปรับข้าวที่แม่เตรียมไว้อย่างทุกวัน
เมื่อลูกสาวไปถึงก็บอกแม่ว่าวันนี้ขอข้าวสองห่อพอ
แม่ทราบว่าต้องเกิดอะไรขึ้นแน่
ลูกสาวจึงบอกว่าพี่ชายถูกงูกัดตายแล้ว
แม่ก็เอาห่อข้าวออกหนึ่งห่อแล้วเดินไปสวนพร้อมลูกสาว
เมื่อถึงที่ที่ศพลูกตั้งอยู่ พ่อและแม่และลูกสาวก็หาฟืนมาก่อเพื่อเผาศพ
ชาวบ้านเดินผ่าน เห็นครอบครัวนี้มิได้โศกเศร้า จึงถามผู้เป็นแม่ว่า
"ไม่เศร้าหรือที่ลูกตาย"
"ไม่หรอก ตอนเขามาเกิด เขาก็มาเอง ยามจากไปเขาก็จากไปเอง ฉันจะทำเช่นไรได้เล่า"
เมื่อถามพ่อว่าไม่เศร้าหรือ
พ่อบอกว่า"ชีวิตคนเหมือนงูลอกคาบ เขาลอกคาบใหม่และดับสูญแล้วคร่ำครวญไปเขาก็คงไม่ได้รับรู้รับเห็นแล้ว
จะทำเช่นไรได้เล่า"
เมื่อถามน้องสาว น้องสาวกล่าวว่า
"การคร่ำครวญถึงสิ่งที่ไม่สามารถกลับคืนมาได้ เปรียบดั่งเด็กที่ร้องไห้อยากได้สุริยันจันทรา ซึ่งไม่มีทางที่เราจะคว้าดวงจันทร์ดวงตะวันมาครอบครองได้
จะทำเช่นไรได้เล่า"
คุณพ่อดับแล้วลูก จดจำพระคุณของท่านเพื่อการก้าวต่อไปข้างหน้า
แหงนมองไปบนฟ้านะครับ
ท่านยังมองลงมาเพื่อเป็นพลังให้ลูกก้าวข้ามอุปสรรคที่ลูกจะพบเจอ
ตอนที่คุณพ่อคุณครูเสียชีวิต
คุณครูร้องไห้ไม่ได้เพราะแม่ห้ามไว้ แม่บอกว่าน้ำตาจะทำให้ดวงวิญญาณของพ่อห่วงพวกเรา
คุณครูจึงกลืนน้ำตาที่ไหลเป็นสายเชี่ยวกรากลงไปในลำคอ
แล้วปฏิญาณว่า
"ลูกจะตั้งใจเรียนหนังสือและจะขอดูแลผู้หญิงที่ป่ะป๊ารักที่สุดคือแม่ของหนู"
หลังจากนั้นคุณครูไม่เคยคร่ำครวญปริเวทนาเลย
ทุกลมหายใจเข้าออกมีแต่คำว่า"ถ้าเราขยัน เราจะดูแลผู้หญิงที่พ่อรักที่สุดหรือแม่เราได้"
ไม่มีคำว่า"แพ้"ในหมู่ผู้ไม่ยอมแพ้นะครับ
สู้นะครับ
คุณครูขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
|