ตอบคร่าวๆ
- เรียนพิเศษกันขนาดไหน
ขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนเรียนเยอะมากกกกกกกกก (เรียนทุกวิชา บางวิชาก็เรียนหลายที่) แต่บางคนก็ไม่เรียนเลย
บางคนถูกพ่อแม่บังคับ บางคนเรียนตามเพื่อน บางคนอยากเรียนเอง
ของพี่ เรียนแค่สองวิชา คือ เลขกับอังกฤษ (เรียนศิลป์คำนวณ)
- อ่านหนังสือขนาดไหน
คนอื่นไม่รู้แฮะ
ของพี่ อ่านสองอาทิตย์ก็สอบ (นิสัยแย่ๆ แบบนี้ห้ามเลียนแบบ) อ่านน้อย เพราะส่วนใหญ่ตั้งใจเรียนในห้องมากกว่า
- สังคมเป็นอย่างไร
มีกิจกรรมให้ทำทั้งปี ทำให้ฝึกตนเองในการทำงานต่างๆ รู้จักบริหารเวลา และการทำงานร่วมกับเพื่อนคนอื่น
บางคนทำกิจกรรมเยอะมาก แต่ก็ 4.00 เกือบทุกเทอม ต้องยอมรับว่าแต่ละคนมีคุณภาพจริงๆ
เรื่องเพื่อนก็คนเหมือนกับโรงเรียนอื่นๆ ทั่วไป
- แข่งขันกันสูงขนาดไหน
เหมือนกับที่น้อง myself_tum บอกไว้ ไม่มีแบบว่าฉันต้องเป็นที่1 ต้องเอาชนะคนอื่นตลอด
อย่ามองว่าเป็นเรื่องของการแข่งขันดีกว่า แข่งกับตัวเองดีที่สุด
เด็กส่วนใหญ่ก็เป็นพวกหัวกะทิที่ถูกดึงมาจากแต่ละโรงเรียน
อยู่ รร เก่า อาจจะดูว่าเราเก่ง แต่พอมาอยู่ที่นี่อาจจะกลายเป็นคนโง่โดยไม่รู้ตัว
เวลาสอบกลางภาค หรือปลายภาค มันจะมีใบคะแนนออกมา
ถ้าเป็นสอบกลางภาค ก็จะบอกว่าเราได้คะแนนเท่าไหร่ ต่ำสุดได้เท่าไหร่ สูงสุดได้เท่าไหร่ คะแนนเฉลี่ยเป็นยังไง
ส่วนถ้าเป็นสอบปลายภาค ก็จะบอกคะแนนเฉลี่ย (รึเปล่า ไม่แน่ใจ จำไม่ได้แล้ว) แต่ที่สำคัญคือบอกว่า แต่ละวิชาเราได้อันดับที่เท่าไหร่ของห้อง ของสาย ของโรงเรียน
เกรดแต่ละเทอมที่ออกมา ก็บอกอันดับของเราเหมือนกัน
ดังนั้น ทำให้เราต้องพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา
ด้วยสภาพสังคมรอบข้างที่มีแต่คนเก่ง คนขยัน เราก็คงอยู่เนิ่งไม่ได้ เลยเหมือนถูกบังคับให้ขยัน
- การเรียนการสอนของเขาเข้มข้นมากไหมครับ
มันก็ขึ้นอยู่กับวิชา แล้วก็ขึ้นอยู่กับอาจารย์ที่สอน
- เขาผลิตตำราเองเลยรึเปล่า
เหมือนกับที่น้อง myself_tum บอก ก็มีทั้งของกระทรวง ทั้งที่ผลิตเอง ใช้ควบคู่กันไป
แต่ส่วนใหญ่ใช้หนังสือที่โรงเรียนทำเองมากกว่า
เพราะมีแบบฝึกหัดที่มันอยากกว่าหนังสือของกระทรวง
- สอบถี่บ่อยแค่ไหน
for1 , sum , for2 , final
for1 เป็นสอบย่อย แล้วแต่อาจารย์จะนัดสอบ เก็บคะแนนประมาณ 10-20 %
sum ยากดี บางวิชาก็ตกเกือบครึ่ง สอบซ่อมเต็มโรงอาหาร เก็บคะแนนประมาณ 20-40% ขึ้นอยู่กับแต่ละวิชา
for2 ส่วนใหญ่จะทำงานส่ง แต่ก็มีบางวิชาที่สอบ (แต่น้อยมากๆ)
final ความยากก็คงเหมือน sum แต่ข้อดีคือมันเป็นปรนัย
- โจทย์ของเขาอยู่ในระดับใด
บอกได้คำเดียวว่ายาก มีทั้งวิเคราะห์ รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ คิดโน่นคิดนี่มากมาย
บางวิชายากมาก จนรู้สึกว่าข้อสอบ ONET ANET ง่ายไปเลย หรืออาจจะยากกว่ามหาลัยด้วยซ้ำ
ตัวอย่างเช่น อังกฤษ สอบครั้งนึง ท่องศัพท์เกือบร้อยคำ หรืออาจจะเกิน ไม่เคยนับ (ไม่ได้เวอร์นะ วิชา reading ศัพท์เยอะจริงๆ) ไม่ต้องท่องศัพท์เพิ่ม ก็เอาไปสอบโอเน็ตได้
แต่พอมาอยู่มหาลัย ปีหนึ่ง (จุฬา) สอบครั้งนึง (Experiential English) ท่องศัพท์ที่เรียนประมาณ 20 คำ ที่เหลือเป็นโจทย์ประยุกต์ที่เกี่ยวกับเนื้อหาในบทเรียน แล้วก็มีเขียน essay สั้นๆ (เหมือนจะออกนอกเรื่องที่เตรียม)
แล้วก็ข้อสอบอังกฤษจะมีทุกแนว ไม่ว่าจะเป็น reading , vocab , rewrite , T/F , word building , grammar
นอกจากนี้ทุกเทอม จะต้องอ่านหนังสือนอกเวลาภาษาอังกฤษเทอมละ 2 เล่ม (เรียนสามปี ก็ได้อ่าน 12 เล่ม โดนฝึกทักษะการอ่านโดยไม่รู้ตัวอีกแล้ว) ความยาก และความหนาของหนังสือก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี
โดยรวม ข้อสอบค่อนข้างยาก แต่สุดท้ายก็ได้นั่งยิ้มตอน admission
- อัตนัยหรือปรนัย
สอบกลางภาคมีทั้งอัตนัย ปรนัย แสดงวิธีทำ ถูกผิด เติมคำ มีทุกอย่าง
ส่วนปลายภาค ปรนัยล้วนๆ
จริงๆ นึกได้มากกว่านี้ แต่พิมพ์ไปพิมพ์มาแล้วลืม ไว้วันหลังจะมาตอบเพิ่ม
จะเรียนที่ไหนไม่สำคัญ
ขอแค่เราขยัน รู้จักพัฒนาตัวเองตลอดเวลา
แบ่งเวลาให้ดี อย่าเล่นอย่างเดียว หรืออย่างเรียนอย่างเดียว ทำทุกอย่างให้คุ้ม
โชคดีกับข้อสอบกลางภาค