ทุกวันนี้หลายคนพยายามที่จะตั้งใจเรียน หรือเรียนพิเศษอย่างขมักขเม้น หวังว่าจบม.6แล้ว จะได้มีมหาวิทยาลัยดีๆ ได้เรียนกัน เพื่อสร้างฝันและทำความฝันของตนเองให้เป็นจริง
แต่ก็มีกระแสสวนกลับมาอยู่เหมือนกัน ข่าวออกมาเกือบทุกปี นั้นก็คือเด็กฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะเอนท์ไม่ติด หรือติดแล้วเรียนไม่ได้ก็ตาม เหตุใดหละถึงเป็นเช่นนี้ อาจจะเป็นตัวเด็กเอง หรือไม่แน่ก็อาจจะเป็นที่ระบบของการศึกษาไทยก็ได้ ใครจะไปรู้
ในที่นี้ผมขอยกประเด็นไปที่ระบบการศึกษาเป็นหลักจะดีกว่า (คนอื่นๆอาจจะไม่คิดเหมือนผมก็ได้นะ) แล้วเหตุใดถึงไปโทษระบบการศึกษาหละ มันผิดตรงไหน มันก็อยู่ของมันอยู่ดีๆ
ผมคนนึงหละที่ไม่ชอบระบบการศึกษาของไทยเลย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนการสอนในโรงเรียน หรือ แม้สอบเอนท์ก็ตาม สาเหตุนั้นหรือ ลองไปดูกัน
อย่างแรกที่เห็นได้ชัดเกือบทุกโรงเรียนเลยก็ว่าได้ นั้นก็คือทุกโรงเรียนจะต้องมีการเรียนการสอนตั้งแต่เช้ายันเย็นเลย ซึ่งไม่รู้จะเรียนอะไรนักหนา แทนที่จะเรียนในช่วงเช้า แล้วมาทำกิจกรรมในช่วงบ่าย เช่นเล่นกีฬา ดนตรี หรือศิลปะ ซึ่งบางคนก็เห็นว่า มันก็ไม่จำเป็นก็ได้ ค่อยส่งลูกเรียนเอาตอนเสาร์-อาทิตย์ก็ได้ ซึ่งมันก็ใช่ แต่หากลองนึกถึงคนไม่มีตังซิ เค้าจะมีเงินพอหรือ ที่จะส่งลูกไปเรียนตามสถาบันต่างๆได้ ซึ่งเดี๊ยวนี้ค่าเรียนก็ไม่ใช่ถูกๆ หากแต่โรงเรียนส่งเสริมก็จะทำให้นักเรียนมีโอกาสได้สัมผัสมากกว่า
ถัดมาก็เรื่องกิจกรรมนี้แหละครับ ยังเกี่ยวข้องกับอันที่แล้วอยู่ เรื่องมีอยู่ว่า ครั้งหนึ่งเพื่อนของแม่ผมคนนึงเค้าก็มาคุยกับแม่ผมนี้แหละครับ แล้วก็บอกว่า ลูกเค้าจะสมัครเป็นคณะกรรมการนักเรียน แต่แม่เค้าห้ามสมัครครับ เพราะกลัวว่าจะเสียการเรียน เดี๋ยวแบ่งเวลาเรียนกับกิจกรรมไม่ได้ ก็เลยไม่อยากให้ลงสมัคร ซึ่งผมกลับมองว่า มันก็ดีเสียอีก หากลูกได้เข้าร่วมทำกิจกรรมบ้าง ไม่ใช่เอาแต่เรียนอย่างเดียว แล้วเดี๋ยวต่อไปเด็กโตขึ้น เค้าจะเข้าสังคมเป็นมั๊ยเนี๊ย แทนที่ให้เรียนรู้ซะตอนนี้เลย มันไม่มีผลดีกว่าเหรอครับ
สุดท้ายเรื่องเอนท์ หนทางที่จะไปสู่การได้วุฒิปริญญาตรี โท หรือเอก เพื่อที่จะเป็นหลักประกันในการเข้ารับการทำงาน ซึ่งทุกอย่างถูกกำหนดโดยค่านิยมทางสังคมกันหมดแล้ว
ฉะนั้นลองกลับมามองดูอีกครั้ง ทุกอย่างย่อมเป็นปัจจัยที่ละเล็กทีละน้อย ที่จะคอยจุดประจุ จากประจุเล็กๆกลายเป็นประจุใหญ่ๆที่จะทำให้ตัวเด็กเกิดความคิดที่จะฆ่าตัวตายก็เป็นได้ หากเพียงแต่จะได้รับการศึกษาที่ถูกต้องและเหมาะสม เพื่อที่จะให้เด็กสามารถดำเนินชีวิตได้ด้วยตัวเองต่อไป
|