1. ทั้ง all และ enough ใช้ได้กับทั้ง นามนับได้ (Countable nouns) และนามนับไม่ได้ (Uncountable nouns)
แต่ถ้าเป็นนามนับได้ เราจะใช้รูปที่เป็นพหูพจน์ ไม่ว่าคำนามนั้นจะเป็น คน สัตว์ หรือ สิ่งของ
เพียงแต่ว่า "คน" เป็นนามนับได้ จึงใช้รูปพหูพจน์
ส่วน สิ่งของนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า เป็นนามนับได้หรือไม่
ถ้านับได้ก็ให้ใช้รูป พหูพจน์ แต่ถ้านับไม่ได้ก็ให้ใช้รูป เอกพจน์
และไม่ว่าคำนามจะเป็นรูปไหน รูปของคำกริยาก็ต้องสอดคล้องกับคำนาม
กล่าวคือ ถ้าคำนามเป็นเอกพจน์ คำกริยาก็ต้องเป็นเอกพจน์ ถ้าคำนามเป็นพหูพจน์ คำกริยาก็ต้องเป็นพหูพจน์
2. ใช้กริยาเอกพจน์ครับ เนื่องจาก none ที่อยู่ในประโยคตัวอย่างที่ยกมานั้น มีความหมายว่า "ไม่มีเลย" หรือ "ศูนย์"
3. "every two weeks" ปกติจะเป็นส่วนขยาย ทำหน้าที่ adverb ในประโยค (ขยายคำกริยา)
แต่ในบางกรณี ก็สามารถนำมาใช้เป็นประธานของประโยคได้เช่นกัน เช่น
Every two weeks is not enough for getting everything ready.
จะเห็นว่า เราใช้กริยาเอกพจน์ เนื่องจาก เรามอง "Every two weeks" เป็นก้อน ๆ เดียวกัน
4. other เป็นได้ทั้ง adjective และ noun
ถ้าเป็น noun จะเป็นได้ทั้งเอกพจน์และพหูพจน์ (other/others)
และ other ก็สามารถนำหน้าได้ทั้งนามเอกพจน์ และพหูพจน์ เช่นกัน
แค่นี้ก่อนครับ...