ในครอบครัวหน่ะ ถ้าในฐานะที่เราพูด เราก็จะพูดแบบที่แม่เราเลี้ยงเรานะ
บ้านเรามีอยู่4คนคล้ายกับครอบครัวเธอเลย ตัวเราอยู่ม.4พี่เราอยู่ม.6 พี่เราสอบหลายที่แล้วยังไม่ติดสักที เสียตังไปเยอะมากหลายมหาลัยเปิดสอบหลายครั้งก็ยังไม่ติดเลย มันยังไม่สายหรอก ไม่มีอะไรสายไปถ้าเรารู้ตัว สิ่งที่สายไปคือ ตอนตาย ยังไม่รู้่ตัวว่าควรทำอะไร นั่นคือสิ่งที่สายไป พี่ของเธอ ถ้าไปบังคับให้เค้าทำอย่างนั้นอย่างนี้ให้เรียนตั้งใจสอบบังคับให้อ่านหนังสือ ไม่มีทางซะหรอก คนเราถ้าไปบังคับให้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำ มันทำไม่ได้นานหรอก นอกจากเราจะชี้ให้เค้าเห็นว่าเค้าควรทำยังไง ชี้ให้เห็นว่าสิ่งที่พ่อแม่หวังมันดีแค่ไหน ไม่แปลกหรอกที่พี่เธอเป็นอย่างนั้น พี่เราก็เป็น แต่พี่เรายังไม่แม่ที่คอยชี้สอนแนะว่าสิ่งไหนดีค่อยๆพูดไป ค่อยๆขัีดเกลาไป สอนให้เค้าอ่อนโยนไไม่ใช่อ่อนแอ แต่พ่อเรา เป็นคนที่ชอบพูดจาแรงๆแต่หวังดี พอเราชอบเปรียบเทียบระหว่างเรากับพี่เสมอ พ่อจะพูดว่าพี่ว่าเรียนแย่ดูน้องซิ รู้จักขยัน แต่พี่เราไม่ค่อยแคร์ใคร แม่พยายามพูดให้พี่อ่านหนังสือ พูดอย่างนู้นอย่างนี้ ต่างจากพ่อ เธอลองเปรียบเทียบดูสิ พ่อเราชอบพูดจาถากถาง กับพี่บังคับให้ไปสอบในสิ่งที่ไม่ชอบ สอนนายร้อยตำรวจอะไรเนี่ยแหละ พี่เราลงสอบทุกครั้งที่เค้าเปิดสมัคร แต่ก็ไม่ติดสักรอบ เพราะเขาบอกพ่อแล้วว่าไม่ชอบ พ่อก็ไม่ฟัง จนแม่ต้องเรียนพี่คุย เิปิดอก ว่าไหนลูกพูดสิว่าลูกชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ตอนนี้ พี่เราก็ได้สอบอย่างที่พี่เราชอบ เขาก็ดูตั้งใจมากขึ้น ไปสอบหลายที่ในที่ๆเขาชอบ เขาดูมีความสุขมากขึ้นแตกต่างกับตอนที่พ่อบังคับ
เธอลองดูสิ บอกให้พ่อกับแม่พูดกับพี่ดีๆ มีอะไร ค่อยๆหันหน้าเข้าหากัน
ฝ่านนึงแรงฝ่ายหนึ่งต้องอ่อนโยน ถึงจะอยู่ด้วยกันได้ครอบครัวต้องหันหน้าเข้าหากันถึงจะอยู่ด้วยกันได้
ถ้าพ่อแม่ไม่รู้ว่าพี่เธอทำงี้เธอก็ลองคุยกับพี่ดีๆดูก็ได้ ยังไงพี่น้องก็ต้องสนิทกันอยู่วันยังค่ำ มีกันอยู่แค่นี้ก็ต้องรู้จักช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่มีอะไรที่สายเกินไปที่้เราจะรู้ตัวหรอกนะ