Kru Somsri's English School

July 15, 2025, 05:00:40 PM

:    
191147 46430 16681
: RichardNum
*
+  Kru Somsri's English School
|-+  ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี
| |-+  คุยกับคุณครูสมศรี
| | |-+  ( เ ว ล า ไ ห น ค ว ร ทำ อ ะ ไ ร จ ะ ไ ด้ ส ม อ ง ดี กั บ ส ว ย ห ล่ อ )
:
:
:
:
||||
||||
+




: December 16, 2010, 09:16:37 PM
: Kim Maknae
อ่านแล้วรู้สึกแย่เลย ,,
นี่ดิสทำร้ายตับตัวเองมามากขนาดไหนกันนะ TT'
ต่อไปนี้ดิสจะนอนได้เร็วขึ้นนะคะ   จะให้ตับของตัวเองได้พักบ้าง

ขอบคุณม๊ามากนะคะที่เอาอะไรดีๆแบบนี้มาลงให้ลูกๆได้อ่าน (:
: December 28, 2009, 07:26:43 AM
: THE GALLORY
ชอบจังครับ ขอบคุณตรับ ทีนี้จะตื่นตี 3 ละ
ทุกทีตื่นตี 5 55+ 

: December 28, 2009, 12:25:46 AM
: J@Yz*
ทำไม่ค่อยจะได้ตามที่ว่ามาเล้ยยยยยยยยย
: December 26, 2009, 08:44:19 PM
: Lahnmaii
... ทำไม่ได้ซักอย่าง... โดยเฉพาะเรื่องกินนนนนน
: December 26, 2009, 08:07:47 PM
: Doctor Doggy
พี่ก็เพิ่งทราบว่านอนดึก1วันต้องใช้เวลาฟื้นตัว5-6วัน

พี่นอนดึกต่อเนื่องมานานก็คงต้องฟื้นร่างกายนานหน่อยแต่จะปรับปรุงให้ร่างกายไม่ทรุดโทรมต่อไป

น้อง ๆ อย่านอนดึกนะคะ

รีบเข้านอนแล้วรีบตื่นให้ตรงกับเวลาที่อวัยวะพร้อมที่จะทำงาน

ที่บ้านพี่เลี้ยงนก พอมืดปุ๊บ เค้าเข้ารังปั๊บเลย ขนาดนกยังมีวินัยเลย ขยันนะจ๊ะ
: December 26, 2009, 07:34:50 PM
: RaBBiT
แวะมาแสดงความคิดเห็นค่ะ

หลังจากที่อ่านมานานแล้ว

ขอบคุณครูสวยนะคะ ที่สรรหาบทความดีๆแบบนี้มาให้อ่าน

รู้สึกว่า ปัจจุบัน นาฬิกาชีวิตของวัยรุ่นส่วนใหญ่ผิดเพี้ยนไปหมด

จากกลางคืนเป็นกลางวัน

ต่อไปนี้ ถ้าไม่จำเป็นต้องฝืนนาฬิกาชีวิตตัวเอง

กระต่ายก็จะไม่ทำนะคะ เพื่อสุขภาพที่ดี (ในอนาคต)
: December 21, 2009, 10:27:51 PM
: อ๋องซ์
ดีจังงับ ผทกำลังจะทำได้ แต่ ยังไม่ได้ซะที
: December 21, 2009, 10:12:39 PM
: substitute-
ใช้ชีวิตผิดเวลานี้ไปเกือบหมดแล้วค่ะ ไม่ไหวๆๆ T^T
: December 21, 2009, 07:20:24 PM
: Dereana
หนูจะพยายามทำนะคะ ^^"
: December 21, 2009, 06:26:45 PM
: GoyZ
ขอบคุณค่ะครู แม่หนูก็มีหนังสือนาฬิกาชีวิตค่ะ

แต่หนูไม่เคยอ่านเลยค่ะ

เพิ่งเคยได้อ่านในบอร์ดครูนี่แหละค่ะ

^^"
: December 21, 2009, 05:34:24 PM
: NUC *
ขอบคุณค่ะ ครู ~

: December 20, 2009, 11:12:20 PM
: NaNToR+
ขอบคุณค่ะครู

^^
: December 20, 2009, 10:36:09 PM
: Dereana
*0* ขอบพระคุณค่ะคุณครู  เดี๋ยวพรุ่งนี้ไก่จะมาอ่านนะคะ อิอิ
ภาพน่ารักเหมือนคนตั้งกระทู้เลยค่ะ อิอิ
: December 20, 2009, 10:27:11 PM
: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
อ่ะแถม

ทนอ่านนะ

แล้วไปเล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง

ท่านจะได้อยู่กับเราไปนานๆ

ยิ่งช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี

ท่านต้องเครียด

ฝากไปให้ท่านอ่านด้วยนะคะ



นาฬิกาชีวิตกับวิถีแห่งธรรมชาติ (3)



การดูแลสุขภาพกับนาฬิกาชีวิตเกี่ยวข้องกันอย่างไร

แนวคิดใหม่เกี่ยวกับนาฬิกาชีวิต เชื่อว่าภายในร่างกายมนุษย์ถูกควบคุมโดยตารางเวลาที่มีกฎเกณฑ์แน่นอน ทำให้การเคลื่อนไหวระบบการทำงาน สรีระของร่างกายก็มีจังหวะกฎเกณฑ์ที่ค่อนข้างคงที่ เช่น ความดันเลือด อุณหภูมิ การเต้นของหัวใจ การหายใจ ช่วงสูงสุดต่ำสุดของการหลั่งฮอร์โมนของต่อมไร้ท่อ เป็นต้น เรียกว่า "กฏเกณฑ์แห่งชีวิต" ถ้าปราศจากลักษณะมีกฎเกณฑ์ ก็ปราศจากการมีชีวิต หรืออีกนัยหนึ่ง ถ้าดำเนินชีวิตโดยไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ตามนาฬิกาชีวิต ก็เป็นการทำลายสุขภาพ (ชีวิต) การเคารพวิถีแห่งการดำเนินไปของธรรมชาติ เป็นหนทางที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพ ซึ่งตรงกับแนวคิดของเล่าจื๊อ"เป็นธรรมชาติแห่งวิถีเต๋า" นั่นเอง

มีการศึกษาวิจัยพบว่านาฬิกาชีวิตของร่างกายมนุษย์มีมากกว่า 100 อย่างหรือฎเกณฑ์ตารางการทำงานของระบบต่างๆ สามารถกำหนดได้เป็นช่วงเวลา สั้นบ้าง ยาวบ้าง เป็นหลายแบบ เช่น
- กฎเกณฑ์การเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่เป็นรอบวัน เรียกว่า นาฬิกาประจำวัน

- กฎเกณฑ์การเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในรอบเดือน เรียกว่า นาฬิกาประจำเดือน
 
นอกจากนี้ยังพบว่ามี นาฬิกาประจำปีและนาฬิกาของอายุขัยซึ่งเป็นนาฬิกาที่ใหญ่ที่สุด ที่กำหนดวัฏจักรแห่งการเกิด-เติบโต-สูงสุด-แก่-ตาย ซึ่งในทางธรรมชาติแล้ว ถ้ามนุษย์ ปฏิบัติตัวตามกฎเกณฑ์แห่งนาฬิกาชีวิต จะสามารถมีอายุขัยถึง 120 ปี

เคล็ดลับการมีสุขภาพดีและอายุยืนยาวตามกฎเกณฑ์ ของนาฬิกาชีวิต คืออะไร

ข้อกำหนดระดับสากลเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพล่าสุดกล่าวไว้ 2เงื่อนไข

1. การวางแผนการดำเนินชีวิต
ต้องมีความรู้ มีจุดมุ่งหมายในการกำหนดการเคลื่อนไหวในกิจกรรมของชีวิต โดยสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ธรรมชาติ

2. การวางโครงการอย่างมีระบบ
เนื่องจากพื้นฐานความเสื่อมชราที่รวดเร็ว เป็นผลจากกระบวนการที่ร่างกายได้รับผลกระทบทั้งจากภายในและภายนอก โดยเฉพาะจากปัจจัยที่เป็นโทษอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ดังนั้น การดูแลสุขภาพจึงไม่ใช่การกำหนด 1 หรือ 2 มาตรการ แล้วจะเห็นผล แต่ต้องมีโครงการที่มีระบบ ต้องจัดวางด้านต่างๆ ในชีวิตประจำวันอย่างมีกฎเกณฑ์ตามนาฬิกาชีวิต
 
รูปธรรมในการวางแผนอย่างเป็นระบบตามกฎเกณฑ์ของนาฬิกาชีวิต คืออะไร

สรุปได้เป็น 3 มาตรการใหญ่ คือ
1. ปรับให้สอดคล้อง
พยายามยึดกฎเกณฑ์นาฬิกาชีวิตให้มากที่สุด หลีกเลี่ยงการละเมิดกฎเกณฑ์
ในเมื่อการเคลื่อนไหวของชีวิตถูกกำหนดควบคุมอย่างมีกฎเกณฑ์ การเคลื่อนไหวทั้งมวลของชีวิต ควรมีจังหวะที่เป็นหนึ่งเดียวกันกับธรรมชาติ ตัวอย่าง
เช่นยามเช้า ขณะที่ยังไม่ตื่นนอน หรือกำลังหลับอยู่ ร่างกายได้ถูกเตรียมความพร้อม ทำให้ความดันเลือด การเต้นของหัวใจ การหายใจ เริ่มได้รับการกระตุ้นจากระบบประสาทซิมพาเทติก ทำให้เพิ่มการทำงานมากขึ้น ปลุกให้คนที่หลับอยู่ตื่นนอนขึ้นมา เพื่อรับกับสภาพการทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวช่วงกลางวัน
ช่วงกลางคืน สภาพตรงกันข้าม ร่างกายเริ่มอ่อนล้า การทำงานของระบบประสาทอัตโนมัติเกี่ยวกับการกระตุ้นลดถอยลง การเต้นของหัวใจ อัตราการหายใจ ความดันเลือด ก็ค่อยๆ น้อยลง ร่างกายจะรู้สึกอ่อนเพลีย อยากนอนหลับพักผ่อน
การรู้จักยึดกุมเวลาตื่นนอน และเวลาหลับนอน เป็นเรื่องพื้นฐานที่ต้องปฏิบัติ ถ้าใช้เวลากลางคืนทำงาน กลางวันนอนหลับ ก็คือการดำเนินชีวิตไม่เป็นจังหวะสอดคล้องกับนาฬิกาชีวิต จะเป็นการทำลายร่างกาย ทำให้เสื่อมชราเร็ว

การศึกษาวิจัยพบว่า ถ้าละเมิดกฎเกณฑ์ธรรมชาติ 1 ครั้ง ต้องอาศัยเวลาในการฟื้นฟูนาน 5-6 วัน
คนวัยทำงาน โดยปกติจะตื่นนอนตอนเช้า เมื่อถึงปลายสัปดาห์หรือวันหยุด จะเลี้ยงฉลองกันดึก นอนดึก เที่ยวกลางคืนจนดึกดื่น กว่าจะหลับนอนก็เลยเที่ยงคืน ตี 1 ตี 2 หรือไม่ก็เกือบจะหัวรุ่ง ทำให้ต้องตื่นนอนสายเกือบเที่ยง ไม่ได้รับอาหารเช้า พฤติกรรมนอนดึก ตื่นสาย ทำลายกฎเกณฑ์ธรรมชาติ 2 ครั้ง ต้องฟื้นฟู 5-6 วัน ก็พอดีครบรอบ 1 สัปดาห์ พอถึงศุกร์-เสาร์ พฤติกรรมการทำลายเริ่มกลับเข้าวงจรใหม่อีกครั้ง
การฟื้นฟูยังไม่ทันเข้าที่ การทำลายรอบใหม่ตามมาอีก นี่คือการสึกกร่อนอย่างต่อเนื่อง ความเสื่อมชราเริ่มมากขึ้น อายุขัยเริ่มสั้นลง ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์การดูแลสุขภาพบางท่านกล่าวไว้น่าฟังว่า

" การทำงานและวิถีชีวิตที่ไม่ดี บางครั้งเป็นสิ่ง ที่คนวัยหนุ่มสาว ยอมเสียสละสุขภาพที่ดีไปแลกเอามาเพื่อให้ได้ทรัพย์สิน แต่พออายุมากแก่ชราจะเอาทรัพย์สินไปซื้อสุขภาพที่ดีคืนมา ซึ่งไม่คุ้มค่า เพราะทรัพย์สินไม่สามารถซื้อความเสื่อมกลับมาได้อีกแล้ว "

หนทางเดียวที่จะถนอมและทำให้สุขภาพดีคือการเริ่มต้นปฏิบัติตัวตั้งแต่บัดนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ร่างกายแข็งแรงอยู่



2. ดูแลรักษาสุขภาพร่างกาย จิตใจให้พอเหมาะ มีสมดุล
การศึกษาวิจัยพบว่า พื้นฐานการเกิดโรคมาจากกฎเกณฑ์ที่สับสน ไม่สมดุล มากไป หรือน้อยไป เพื่อให้ "สุขภาพดีเหมือนที่มีไฟประจุอยู่เต็มเสมอ "การนอนหลับ พักผ่อน ใช้แรงงาน เพศสัมพันธ์ การฝึกฝนร่างกาย การกิน ต้องไม่โน้มเอียงหรือหนักไปน้อยไป ข้างใดข้างหนึ่ง

โดยเฉพาะสุขภาพจิต เวลาโกรธโมโห จะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง หายใจเร็ว ชีพจรเต้นเร็ว การไหลเวียนเลือดเร็วขึ้น ความดันเลือดสูงขึ้น ศีรษะหนักหรือปวดมากขึ้น ระบบฮอร์โมนแปรปรวน เป็นต้น

นาฬิกาชีวิตในการกำหนดการทำงานของร่างกาย ต้องสม่ำเสมอ มีกฎเกณฑ์ ถ้าสภาพร่างกายจิตใจที่สับสน แปรปรวน อ่อนล้า จะมีผลสะท้อนกลับมารบกวน การกำหนดกฎเกณฑ์ของนาฬิกาชีวิตเช่นกัน

3. การซ่อมแซม ปรับภาวะสมดุลอย่างสม่ำเสมอ
ร่างกายคนแบ่งได้เป็น 3 ภาวะใหญ่ๆ

1.สภาพแข็งแรง ไม่มีโรค หมายถึง การทำงานของนาฬิกาชีวิตอยู่ในภาวะปกติ

2.สภาพไม่สบาย เป็นโรค หมายถึง การทำงานของนาฬิกาชีวิตเสียสมดุลรุนแรง

3.สภาพไม่เป็นโรคแต่ไม่แข็งแรงหมายถึงภาวะที่ร่างกายเสียสมดุล ปริมาณไม่มาก การทำงานของนาฬิกาชีวิตเริ่มผิดปกติ แต่ไม่มีอาการเจ็บป่วยภายนอกที่แจ่มชัด


ภาวะที่ 3 ทางสถิติพบในประชากรกว่าครึ่งหนึ่ง ภาวะที่ 3 อาจแปรปรวนจากภาวะที่ 1 หรือภาวะที่ 2 ภาวะที่ 3 เป็นภาวะที่ยังแก้ไขได้ง่าย เป็นภาวะที่ต้องให้ความสนใจและการปฏิบัติตัวอย่างเข้มงวด จะทำให้สร้างสมดุลกลับมาได้ เป็นทรรศนะในการป้องกัน คือ " ดูแลรักษาเมื่อยังไม่เกิดโรค  "

หลักการ  3 ประการในการดูแลสุขภาพตามกฎเกณฑ์นาฬิกาชีวิต คือ สอดคล้อง พอเหมาะ ซ่อมแซมปรับสมุดลอย่างสม่ำเสมอ เมื่อเข้าใจตระหนัก ต้องมีการกำหนดที่จริงจังและดูแลอย่างมีระบบ จึงจะมีสุขภาพดีและควรเริ่มต้นตั้งแต่เยาว์วัย น่าเสียดายวิถีชีวิตของสังคมปัจจุบันมีส่วนทำลายระบบนาฬิกาชีวิตอย่างมาก ความเสื่อมชราและโรคที่เกิดจากวิถีชีวิตที่ผิดปกติ จึงพบเห็นมากขึ้นทุกทีไม่ว่ามะเร็ง โรคหลอดเลือด โรคความเสื่อมชรานี้เพราะการละเมิดกฎฟ้าดินนั่นเอง


http://www.doctor.or.th/node/4071
: December 20, 2009, 10:17:22 PM
: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
ทีนี้คุณครูจะช่วยวิเคราะห์การใช้ชีวิตที่ไม่ถูกต้องของหนูนะคะ



1.00-3.00 - บางคนยังไม่นอน


                - ตับก็ไม่ได้พัก แถมบางคนยังดื่มชาเขียว หรือถ้ามีการดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ด้วย ก็เท่ากับทำร้ายร่างกายดีๆที่พ่อแม่ให้มาค่ะ

3.00-5.00- ปอดเริ่มทำงาน แต่หนูยังนอนกรนอยู่เลย ปอดก็เลยไม่ได้ออกกำลังกายเลยนะ

5.00-700  -ลำไส้ใหญ่ทำงาน ตื่นมาปุ๊บดื่มน้ำธรรมดาเพื่อล้างภายในให้สะอาด จะได้ขับถ่ายได้ดี ผิวพรรณจะได้สวย

7.00-9.00  -กระเพาะอาหารทำงาน แต่หนูกลับตาลีตาลานตื่นไม่ทัน เลยข้ามอาหารมื้อสำคัญ กระเพาะก็จะไม่ดีส่งผลเสียต่อร่างกายด้วยค่ะ อย่าขาดอาหารมื้อเช้านะคะ

9.00-11.00 -ม้ามทำงาน เราเริ่มเรียน อย่าโฟว่แตกนะคะ จะไม่ดีต่อม้าม อิอิ

11.00-13.00 - หัวใจทำงาน ถ้าอาจารย์ และ เพื่อนอารมณ์บ่จอย อย่าไปชวนทะเลาะนะคะ

จะไม่ดีต่อหัวใจค่ะ

13.00-15.00 ลำไส้เล็กทำงาน อย่าแอบทานขนมในห้อง เพราะช่วงนี้หนังท้องเริ่มตึง หนังตาเริ่มหย่อน

ขโมยกินหนมตอนนี้ เสียสุขภาพนะคะ

15.00-17.00 -กระเพาะปัสสาวะทำงาน อย่านั่งเล่นคอมฯ อั้นปัสสาวะนะคะ ปวดก็ต้องรีบไปขับออกค่ะ

ที่เหลือศึกษาดูนะคะ

ศาสตร์โบราณแบบนี้น่าสนใจค่ะ

อย่าเข้านอนดึกนะคะ ไม่ดีต่อสุขภาพ

ตอนนี้ยังไม่รู้สึก แต่พออายุย่าง 29 เท่าคุณครูจะทราบว่า

นอนตอนสี่ทุ่มได้ดีที่สุด

ไม่กระเทือนต่อฮอร์โมน

เช้าก็ตื่นเช้าๆวิ่งออกกำลังกายอย่างคุณครู รับรองอารมณืจะดี

5 อ

อากาศบริสุทธิ์

อาหาร

ออกกำลังกาย

อุจจาระ

อารมณ์

นี่แหละสำคัญมาก

Sound mind insound body.

จิตที่ดีปรากฏอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง

อยากประสบความสำเร็จ ต้องรู้จักดูแลยานพาหนะกายนี้ให้ดี

แล้วเขาจะพาหนูสู่ฝั่งฝันแน่นอนค่




รักและห่วงใยเด็กๆทุกคนเลยยยยยยยยยยย


http://variety.teenee.com/foodforbrain/2835.html
Sorry, the copyright must be in the template.
Please notify this forum's administrator that this site is missing the copyright message for SMF so they can rectify the situation. Display of copyright is a legal requirement. For more information on this please visit the Simple Machines website.