: April 12, 2009, 09:41:36 PM
: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
|
คือผมเป็นคนติดอินเตอร์เน็ตมาก ไฮไฟล์ MSN ผมพยายาม
พยายามมาก ที่จะอยู่ห่าง ๆ แต่พอเดินผ่านหน้าคอมที่บ้านทีไร
มันเหมือนมีแรงดึงดูด เดินเข้าไปเล่น ตอนแรก ตั้งใจว่า อย่าเข้าใกล้ความสนุกสนาน
เพราะมันกินเวลามากค่ะ
ห่างไว้มากๆ
อย่าต่อรองว่าแป๊บเดียว
ถ้า"ไม่ คือ "ไม่"
หนูกลัวแมวฉันใด
ความสนุกกลัวไกรรู้ทัน"ฉันนั้น"อ่านจังเลยเนอะ วันหลังไม่ต้องชวนมันไปไหนนะ ชอบอยู่กับตัวเอง รักสันโดษ พาเพื่อน ๆ เคลียดป่าว ๆ"
หรือไม่ก็ "ฝันไปป่าวหมอเนี่ย คะแนนสูงนะ จะได้หรอก"
เพื่อน ๆ บางคนก็ไม่สนับสนันเราด้วยครับ
แล้วก็เวลามาเรียนพิเศษที่ต่างจังหวัด ผมมักจะจดรายละเอียด ๆ สำคัญ ๆ ไม่ทัน
เพราะผมเป็นคนที่เขียนช้ามากครับ แล้วพอผมไปขอเพื่อน ๆ ลอก
มันก็มักบอกว่า"เก่งแล้วจะมาขอทำไม ไม่เอาไม่ให้ลอก" ขอบคุณเขาเถิดที่มากระตุ้นให้เราไม่ประมาท
คนข้อนแคะคนเป็นคนสุขภาพจิตไม่ดี
อภัยเขาไปเถอะค่ะ
เดี๊ยวเมื่อยปากเขาก็หยุดเอง
อย่าไปติดนิสัยแบบนี้ก็แล้วกันค่ะ เดี๊ยวไม่น่ารักนะคะ อยากอ่านหนังสือ แต่ก็อยากมีเพื่อนคุยก็เลยวางตัวไม่ถูกครับ ความจริงการขยันกับการมีเพื่อนไม่หักร้างกันนะคะ
อยู่ที่ว่าเราเป็นคนมีน้ำใจ อารมณ์ดี ไม่คิดแค้นคิดเคืองใคร
อยู่ด้วยแล้วมีความสุขไหมต่างหากค่ะ
แต่การอ่านหนังสือมากอาจทำให้เคร่งเครียดจึงหน้าบึ้งตึง
ฝึกยิ้มไว้นะคะ
ยิ้มเมื่อไหร่โลกก็จะสดใสค่ะ
สู้ๆนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
|
: April 12, 2009, 09:26:21 PM
: fluteGirl
|
เป็นกำลังใจให้อีกคนค่ะ
ความฝันไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
^^
|
: April 12, 2009, 07:02:13 PM
: ๑PaeKunG๑
|
สู้ๆครับ เราก็เป็นตอนอ่านหนังสือที่โรงเรียนหรือเมื่อเพื่อนๆรู้ว่าเราอ่านอยู่ที่ไหน
เอิ๊กๆ มันจะมาพูดกรอกหูอยู่บ้างอะไรบ้าง เวลาเพื่อชวนไปเล่น ไปเที่ยวนู่นนี่ อยากจะปฏิเสธ แต่ก็อะนะ.... บางทีอ่านจนเพื่อนกลัวไม่กล้าเข้ามาคุย 555
ใจอยากกลับบ้านอ่านหนังสือ ทำงาน ทำการบ้านไรงี้ แต่ดีที่ เพื่อนเรายังพอเข้าใจ เราอ่านแล้วเราก็เอาไปสอนเขาอีกที รู้อะไรเราก็แชร์กัน ^^
อ่านไปเราก็ได้อะนะ ทำถ้ามีความสุข เอิ๊กๆ แต่ก็อย่าบ้าอยู่แต่กับตัวเองทั้งวันไม่มีเพื่อนนะ จัดเวลาดีๆ เราก็ทำอะไรได้หลายๆอย่าง ไม่เครียดด้วย แถม ยังมีเพื่อนๆอีกมากมาย สนุกดี
|
: April 12, 2009, 04:13:54 PM
: เพ้อเจ้อ
|
ขอขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ
ยังไงผมก็จะพยายามและทำให้ดีที่สุดครับ
|
: April 11, 2009, 08:34:08 PM
: Opalise
|
คนเรา ถ้าเราทำดี ยังไงเราก็ได้ดีนะครับ ไม่ต้องคิดมาก ปล่อยว่าง : D ปอก็เคยพบปัญหาคล้ายๆนะ แต่ของปอจะโดนเพื่อนนินทามากกว่า แกๆก็คิดวิตกจริตไป แต่หลังๆมา เอ่อ.. ปล่อยเขาไปเถอะ เดี๋ยวผลก็จะตามมาเอง ส่วนเรื่องเพื่อน ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันอ่า คือ เพื่อนมันก็มีหลายประเภทนะ เราควรแยกแยะ ว่าเวลาไหนควรเล่นกับเพื่อนแบบไหน อย่างปอ ตอนนี้ใกล้เอนท์แล้ว ขอแค่ไปกับกลุ่มเพื่อนสนิทจริงๆไม่เยอะก็โอเคแล้ว แล้วก็ ถ้าเขาเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ เขาคงไม่เหน็บแนมเราหรอก แถมยังสนับสนุนเราด้วย 
|
: April 11, 2009, 08:12:10 PM
: >>(P)>a<(O)<<
|
โห...พี่ปอนด์ตอบดีน้าเนี่ยยย
|
: April 11, 2009, 08:01:33 PM
: Dereana
|
แง้ พี่ปอนด์แกล้งเด็กค่ะ!!! อิ_อิ
อยากเจอพี่ปอนด์กับพี่พิมตัวเป็นๆบ้างอะไรบ้างค่ะ อิอิ
|
: April 11, 2009, 07:59:53 PM
: ครูปอนด์
|
ขออนุญาติลองตอบดูนะคะ ชีวิตของเรา เราลิขิตเองค่ะ ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ขอแค่ไม่เสียใจภายหลังก็พอแล้ว
ท่องไว้ว่า เวลา คำพูด และโอกาส ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้
เลือกทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดกับตัวเองก่อน รู้จักแบ่งเวลาให้เป็น ส่วนเรื่องเพื่อนรอให้เราประสบความสำเร็จก่อน แล้วค่อยไปสนใจที่จะไปเล่นไปเที่ยวกับเขาดีไหมคะ
เหมือนกับตอนนี้ ทั้งคุณและเพื่อนคุณกำลังจมน้ำ คุณเองก็ว่ายน้ำยังไม่แข็ง เพื่อนของคุณก็ว่ายน้ำไม่เป็น เราก็ควรที่จะเอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วค่อยไปสนใจคนอื่น
ฟังดูคงเหมือนคนเห็นแก่ตัวที่ไม่สนใจใครเลย แต่ถ้ามองอีกแง่นึง ถ้าคุณเองที่ยังว่ายน้ำไม่แข็งไปช่วยเพื่อนที่ว่ายน้ำไม่เป็น แล้วทั้งคุณทั้งเพื่อนจมน้ำทั้งคู่
ใครกันที่เป็นคนเสียใจ ก็พ่อแม่ของคุณนั่นแหละค่ะ ที่เสียใจ และตัวคุณเองก็อาจจะเป็นคนที่เสียใจที่สุดก็ได้
เพราะฉะนั้น คุณก็ลองเลือกดูนะคะ ระหว่างเสียเวลาไปกับเพื่อนแทนที่จะอ่านหนังสือ แล้วผลที่ตามมาคือ คะแนนไม่ถึง เข้าแพทย์ไม่ได้ เพราะพอถึงเวลาจริงๆแล้ว เพื่อนก็ไม่ได้ไปสอบกับคุณด้วย ไม่ได้ช่วยคุณทำข้อสอบสักนิด ไม่ได้มานั่งเสียใจ ไม่ได้มาเลี้ยงคุณเวลาที่คุณหมดอนาคต
กับเลือกที่จะหยุดเรื่องเพื่อนไว้ก่อน แล้วทำเพื่อนพ่อเพื่อแม่ เพื่อตัวคุณเองให้ดีเสียก่อน เพื่อนแท้ยังไงก็ตัดกันไม่ขาดหรอกนะคะ มีแต่เพื่อนกินนี่แหละค่ะ ที่พร้อมจะทิ้งเพื่อนทันทีที่เพื่อนคนนั้นหมดประโยชน์!
ปล.
โห...พี่ปอนด์ตอบเยอะจังเลยค่ะ O_O!
@_@!
พี่ปอนด์กับพี่พิมมาขอนแก่นรึเปล่าคะ อยากรู้ๆค่ะ ^^" อิอิ ตอบเยอะเพราะตั้งใจตอบครับ อยู่ในบอร์ดทุกคนเหมือนพี่น้องกัน โรงเรียนจะน่าอยู่ สังคมจะมีความสุข ส่วนเรื่องที่จะไปขอนแก่นรึป่าว อุบไว้ก่อนดีกว่าครับ 555 (เล่นตัวบ้างอะไรบ้าง)
|
: April 11, 2009, 07:51:31 PM
: Dereana
|
ขออนุญาติลองตอบดูนะคะ ชีวิตของเรา เราลิขิตเองค่ะ ตั้งใจทำให้ดีที่สุด ขอแค่ไม่เสียใจภายหลังก็พอแล้ว
ท่องไว้ว่า เวลา คำพูด และโอกาส ไม่สามารถย้อนคืนกลับมาได้
เลือกทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดกับตัวเองก่อน รู้จักแบ่งเวลาให้เป็น ส่วนเรื่องเพื่อนรอให้เราประสบความสำเร็จก่อน แล้วค่อยไปสนใจที่จะไปเล่นไปเที่ยวกับเขาดีไหมคะ
เหมือนกับตอนนี้ ทั้งคุณและเพื่อนคุณกำลังจมน้ำ คุณเองก็ว่ายน้ำยังไม่แข็ง เพื่อนของคุณก็ว่ายน้ำไม่เป็น เราก็ควรที่จะเอาตัวเองให้รอดก่อนแล้วค่อยไปสนใจคนอื่น
ฟังดูคงเหมือนคนเห็นแก่ตัวที่ไม่สนใจใครเลย แต่ถ้ามองอีกแง่นึง ถ้าคุณเองที่ยังว่ายน้ำไม่แข็งไปช่วยเพื่อนที่ว่ายน้ำไม่เป็น แล้วทั้งคุณทั้งเพื่อนจมน้ำทั้งคู่
ใครกันที่เป็นคนเสียใจ ก็พ่อแม่ของคุณนั่นแหละค่ะ ที่เสียใจ และตัวคุณเองก็อาจจะเป็นคนที่เสียใจที่สุดก็ได้
เพราะฉะนั้น คุณก็ลองเลือกดูนะคะ ระหว่างเสียเวลาไปกับเพื่อนแทนที่จะอ่านหนังสือ แล้วผลที่ตามมาคือ คะแนนไม่ถึง เข้าแพทย์ไม่ได้ เพราะพอถึงเวลาจริงๆแล้ว เพื่อนก็ไม่ได้ไปสอบกับคุณด้วย ไม่ได้ช่วยคุณทำข้อสอบสักนิด ไม่ได้มานั่งเสียใจ ไม่ได้มาเลี้ยงคุณเวลาที่คุณหมดอนาคต
กับเลือกที่จะหยุดเรื่องเพื่อนไว้ก่อน แล้วทำเพื่อนพ่อเพื่อแม่ เพื่อตัวคุณเองให้ดีเสียก่อน เพื่อนแท้ยังไงก็ตัดกันไม่ขาดหรอกนะคะ มีแต่เพื่อนกินนี่แหละค่ะ ที่พร้อมจะทิ้งเพื่อนทันทีที่เพื่อนคนนั้นหมดประโยชน์!
ปล.
โห...พี่ปอนด์ตอบเยอะจังเลยค่ะ O_O!
@_@!
พี่ปอนด์กับพี่พิมมาขอนแก่นรึเปล่าคะ อยากรู้ๆค่ะ ^^" อิอิ
|
: April 11, 2009, 06:45:14 PM
: >>(P)>a<(O)<<
|
สู้ๆ
|
: April 11, 2009, 06:43:01 PM
: life
|
พี่ปอนจามาขอนแก่นด้วยใช่มั๊ยเอ่ย
|
: April 11, 2009, 06:37:28 PM
: ครูปอนด์
|
มัชฉิมาปฏิปทา คือทางสายกลาง เป็นทางแห่งความสำเร็จ เราต้องรู้จักการหยุดการตึงและหย่อนไปในทุกอย่างในชีวิต
ต้องถามตัวเองนะครับ ว่าอยากเป็นหมอเพื่ออะไร เพื่อให้พ่อแม่คุยได้ นั่นคือประเด็นสำคัญหรือเปล่าครับ
เช่นนั้น ถ้าเอ็นท์ไม่ติดหมอ ชีวิตก็ไร้ค่า? พี่ว่าสมัยนี้ค่านิยมคนเรา มองสิ่งที่เป็นมายามากเกินไป พี่ไม่ได้ว่าพ่อแม่เรานะครับ
ท่านอาจไม่ได้คิดอย่างเราก็ได้ ทำไมเราคิดแทนท่าน ท่านอาจภูมิใจว่าลูกติดหมอก็จริง แต่พี่ว่าถ้าเราเป็นคนดี ต่อให้ลูกจะเป็นอะไรท่านก็ภูมิใจ
แล้วถ้าเราตอบว่า เรียนหมอเพราะรักการช่วยชีวิต พี่ก็ขอบอกว่า พี่ไม่เชื่อหรอกนะครับ
เพราะคนที่จะช่วยผู้อื่นได้ จะรักษาผู้อื่นได้ ตัวเองต้องพร้อมก่อน ตัวเองต้องมีความสามารถ
กับอีแค่การเสียสละเวลาส่วนตนไม่เล่น Hi5 MSN ยังทำไม่ได้ อีกหน่อยคนไข้อยู่ ICU ไม่บอกว่า รอเล่นเกมจบก่อน หรือครับ
เราบอกว่า เวลาอ่านหนังสือ เพื่อน ๆ ก็มาว่า เป็นธรรมดาของสัตว์โลกครับ ไม่แปลกเลย ไม่มีใครชอบที่จะใครดีกว่าเหนือกว่าตน
ถ้าเราแคร์เพื่อนนะครับ ต้องรู้จักให้น้ำหนักความสำคัญ ไปเที่ยวกับเพื่อนได้บางครั้ง มีเวลาสร้างปฏิสัมพันธ์
มนุษย์ต้องอยู่เป็นสังคมมิใช่หรือครับ พี่ไม่ได้บอกว่า ต่อไปก็ไม่ต้องสนใจทำอะไร ไปเที่ยวกับเพื่อนทุกวัน นั่นก็ไม่ถูก
ที่สำคัญ ถ้าคนเป็นหมอ อดทนกับคำพูดเช่นนี้ไม่ได้ สอบเข้าได้ก็จริง แต่สัมภาษณ์ก็ตกแล้วนะครับ
สิ่งที่พี่ต้องการบอก ไม่ใช่มาดุด่าน้อง ไม่ใช่มาทำลายความหวัง แต่อยากให้กลับไปส่องกระจก แล้วถามว่า สิ่งที่เราทำอยู่นั้นถูกหรือไม่
ชีวิตมีความสุขหรือไม่ จำไว้นะครับ ถ้าสักวินาทีที่เราไม่มีความสุข จงรีบหาสาเหตุว่าเกิดเพราะอะไร
เรากำลังดำเนินชีวิตในบางอย่างผิดหรือไม่ ถ้าเห็นแล้วว่าผิด ก็รีบแก้ครับ
สิ่งแรกที่ต้องทำนะครับ คือ ให้กำลังใจตนเองในการปรับปรุงตัว ลองเขียนออกมาว่า 24 ชั่วโมงเนี่ย เราทำอะไรกี่ชั่วโมง
ถ้าเขียนออกมาแล้ว ก็เห็นว่าอ่านหนังสือ 6 ชั่วโมง เล่นเกมส์ 3 ชั่วโมง คุยกับเพื่อนครึ่งชั่วโมง น้องก็อาจบอกว่าก็ปกตินี่ครับ
ใช่ครับ อาจปกติ แต่เราต้องพิจารณาเวลาที่เหมาะสมด้วยนะครับ ว่าอะไรควรทำตอนไหน
พี่ถามว่าคำพูดที่ว่า "กินข้าวยัง" ถ้าถามตอนคนนั้นดูหิว หรือกำลังเดินไปซื้อของมันก็เหมาะ
แต่ถ้าถามตอนที่เห็นจานข้าวที่กินเสร็จแล้ววางอยู่ตรงหน้าเขา นั่นย่อมไม่ถูกเวลา แม้เป็นความปรารถนาดีที่เรามีต่อเขา แต่ย่อมผิดเวลาฉะนั้น
สิ่งที่ทำได้นะครับ เลิกครับ ถ้าเลิกไม่ได้ก็ไม่โหลดโปรแกรมจำกัดเวลาในการเล่นมา ถ้ายังบอกว่าทำไม่ได้อีก
ก็เลิกคิดที่จะช่วยคนอื่นเถอะนะครับ นอนอยู่กับบ้านเฉย ๆ แล้วฝันต่อไป ไม่ต้องทำอะไร
คนเรามีทางเลือกนะครับ คนจะเป็นหมอไม่ใช่จะรักษาเพียงกายของคนไข้ ที่สำคัญต้องรู้ว่าโรคภัยทั้งหลายส่วนใหญ่ร้อยละ 60-70% เกิดจากใจ
แล้วถ้าเรายังห้ามใจ ยังรักษาใจเราไม่ได้ จะมีใจไปรักษาคนอื่นหรือครับ
เคยถามคนที่เรียนแพทย์ไหม ว่าตอนที่เขาเรียน 6-7 ปีเนี่ย เรื่องเอ็นทรานซ์เป็นเรื่องกระจอกไปเลย
เพราะทุกวันต้องขยันกว่าจะสอบเอ็นท์เป็นเท่าตัว เวลาส่วนตัวก็แทบจะไ่ม่มี เรียนตั้งแต่เช้ายันเย็น ต้องเสียสละมากมาย
คนเรานะครับ แค่คิดจะทำดี มันไม่ยากหรอกนะครับ แต่จะทำได้สิ ยากกว่า
คนทั่วไปจะทำอะไร หวังเพียงผล ไม่เคยคิดถึงเหตุปัจจัย
ถ้าคนที่ปลูกพืช มานั่งคิดแต่ว่าจะได้ดอกผลเท่าไรนะ แต่ไม่เคยรดน้ำพรวนดินให้ปุ๋ย มันจะโตหรือครับ
ทำไมเราไม่มุ่งสร้างเหตุที่นำสู่ผลที่ดีล่ะครับ รู้ว่าอดทนวันนี้ประโยชน์มหาศาลจะเกิดในวันข้างหน้า
ขออวยพรให้คิดได้ ประพฤติตัวใหม่นะครับ ชีวิตเป็นของเราเอง ต่อให้พระที่ไหน เทพที่ไหนมานั่งอวยพรให้ประสบความสำเร็จ
แต่ตัวเองไม่เคยทำเหตุที่เอื้อต่อผลนั้นเลย อีกกี่ปีกี่ชาติจำสำเร็จครับ
สู้นะครับ ไม่ใช่สู้คนอื่น แต่สู้กับตัวเอง สู้กับกิเลสต่าง ๆ แล้วขอให้โชคดีอีกครั้งครับ
|
: April 11, 2009, 05:44:26 PM
: เพ้อเจ้อ
|
เรื่องของเรื่อมันเป็นแบบนี้นะครับครู คือว่าผมจะเอ็นแพทย์ครับ
คุณสมบัติครบ แต่ขาดอย่างเดียวครับ
คือผมเป็นคนติดอินเตอร์เน็ตมาก ไฮไฟล์ MSN ผมพยายาม
พยายามมาก ที่จะอยู่ห่าง ๆ แต่พอเดินผ่านหน้าคอมที่บ้านทีไร
มันเหมือนมีแรงดึงดูด เดินเข้าไปเล่น ตอนแรก ตั้งใจว่า
"อ่ะ นิดเดียว แปปเดียวคงไม่เป็นไรหรอก"
สุดท้ายก็ยามทุกที หนังสือ ผมเป็นคนทีอ่านมากอยู่เหมือนกัน
ถ้าวันไหนเบื่อ ๆ คอมก็จะอ่านหนังสือเรียนบ้าง โน๊ตย่อที่จดมาจากในห้องเรียนบ้าง
บางทีก็อ่านหนังสือแนวจิตวิทยา แต่มันก็ไม่ได้ช่วยให้ได้เกรดดีขึ้นเท่านั้นครับ
ถ้าพูดถึงเรื่องความขยัน ผมยังขาดมันอีกมากเลยครับครู
นี่คือปัญหาแรกที่ผมอยากให้ครูช่วยแก้ให้ครับ
ถ้าถามว่าทำไมผมอยากเป็นหมอ คือผมรักการช่วยชีวิตครับ
แล้วถ้าถามว่าผมเรียนเก่งไหม คือ ไม่ครับ
แต่ผมชอบอ่าน ชอบค้น แล้วก็ชอบเรียนครับ
ถึงผมจะเรียนไม่เก่ง แต่ก็ยังมีเรกดมากพอที่จะให้พ่อ-แม่
อวดในกลุ่มเพื่อน ๆ ได้แบบไม่อายครับ
ปัญหาที่ตามมา ก็เรื่องารเรียนเนี่ยแหละครับ
คือว่าเวลาผมอานหนังสือในห้องตอนพักกลางวัน
หรือตอนที่นั่งรถเมล์กลับบ้าน เพื่อน ๆ ชอบเข้ามาทักครับว่า
"อ่านจังเลยเนอะ วันหลังไม่ต้องชวนมันไปไหนนะ ชอบอยู่กับตัวเอง รักสันโดษ พาเพื่อน ๆ เคลียดป่าว ๆ"
หรือไม่ก็ "ฝันไปป่าวหมอเนี่ย คะแนนสูงนะ จะได้หรอก"
เพื่อน ๆ บางคนก็ไม่สนับสนันเราด้วยครับ
แล้วก็เวลามาเรียนพิเศษที่ต่างจังหวัด ผมมักจะจดรายละเอียด ๆ สำคัญ ๆ ไม่ทัน
เพราะผมเป็นคนที่เขียนช้ามากครับ แล้วพอผมไปขอเพื่อน ๆ ลอก
มันก็มักบอกว่า"เก่งแล้วจะมาขอทำไม ไม่เอาไม่ให้ลอก"
ผมเลยพลาดส่วนสำคัญไปครับ ผมก็เลยไม่รู้จะทำยังไง
อยากอ่านหนังสือ แต่ก็อยากมีเพื่อนคุยก็เลยวางตัวไม่ถูกครับ
ผมขอคำแนะนำด้วยนะครับครู ขอบคุณล่วงหน้า สำหรับคำแนะนำครับ...
|