: July 27, 2008, 06:57:14 AM
: ฺBon
|
ขอบคุณมากๆเลยครับ
^^~
|
: July 26, 2008, 09:44:34 PM
: NaNToR+
|
บทความยาวมากมายยยยยยยยย
แต่ว่า
ยังไงก็ขอขอบคู๊นนนนนน ป้าพิม ที่นำบทความดีๆมาให้
แล้วก็ขอขอบคู๊นนนนนน แม่ศรี ที่คอยอบรมสั่งสอนพวกพวกเราให้เป็นคนที่มีคุณธรรม มาตลอดเวลานะค๊ะ
ยังไงก็ร้ากกกกกกกแม่ศรีตลอดกาลลลลลลลลลค่ะ
|
: July 26, 2008, 09:16:21 PM
: N' OPEL
|
บทความยาวมากมาย แต่ก้อขอบคุนค่า
|
: July 26, 2008, 08:23:11 PM
: อุซางิจัง..CUD44
|
ค่ะขอบคุณมากๆทั้งครูและพี่พิม
หวังว่าคนหลายๆคนจะเลิกเป็นก้อนหินซักที
|
: July 26, 2008, 01:13:38 PM
: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
|
คนทำความดีเหมือนขนนก
คนทำความชั่วเหมือนก้อนหิน
ยามกรรมลิขิต
ขนนกจะตกถึงพื้นช้านัก
ความดีที่เขาทำจะเหมือนแรงลมที่พยุงให้ขนนกไม่ตกถึงพื้น
แต่คนทำสิ่งไม่ดีเฉกเช่นก้อนหิน
ยามกรรมลิขิต
ชั่วพริบตาก็ตกถึงพื้นอย่างรวดเร็ว
เด็กๆจงระวังการกระทำที่ไม่ดีของตนเองนะคะ
ก่อนทำต้องคิดมากๆ
ห้ามทำสิ่งใดที่เบียดเบียนผู้อื่นนะคะ
ขอบคุณเจ้นะที่หาบทคว่มดีๆมาให้อ่านในช่วงเข้าพรรษา
จำเริญเถอะแม่คู้ณณณ
|
: July 26, 2008, 09:11:39 AM
: คุณผู้หญิงแห่งแสงสูรย์
|
ขอบคุงเจ๊พิมพ์งับๆๆ
จะได้รุ้ตัวเองสักที
^^
|
: July 26, 2008, 08:37:14 AM
: กรุ๊ป BuBbLeZ^^
|
ดีมากๆเลยอ่ะ ขอบคุณพี่พิมนะครับ ^o^
|
: July 26, 2008, 07:05:14 AM
: Unidentified Girl
|
ยาวหน่อยนะเรื่องนี้
แต่น่าจะตอบคำถามใครหลายคนได้ดีทีเดียว
อ่านกันเถอะนะ
|
: July 26, 2008, 07:03:10 AM
: Unidentified Girl
|
“หลวงพ่อครับ สมมติว่า หากผมได้สร้างกรรมชั่วมาแต่อดีต
และเมื่อได้เกิดในชาตินี้ ผมก็จะรีบบวชทันทีเมื่อมีอายุครบบวช
แล้วเร่งปฏิบัติแต่คุณงามความดี ด้วยการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาอย่างครบถ้วนโดยมิได้ขาดตกบกพร่องเลย
ผมยังจะต้องชดใช้กรรมชั่วที่ได้กระทำมาแต่ในอดีตชาติอีกหรือไม่ครับ?
ข้าพเจ้าถาม เพรายังติดใจสงสัยอยู่
“ถ้าคุณไปหยิบยืมเงินจากคนอื่นเขามาสัก 10 ราย
แต่ยังไม่สามารถจะหาเงินมาใช้หนี้ให้เขาได้เลยสักรายเดียว
แล้วคุณใช้วิธีทำดีกับเขาด้วยวิธีอื่นในทุกวิถีทางเช่นคอยรับใช้ช่วยเหลือ
อำนวยความสะดวกต่างๆ ให้เขาและลูกเมียที่เขารักบ้าง เอาอกเอาใจเขา
ด้วยการขวนขวายหาสิ่งของที่เขารัก เขาชอบโดนคุณไม่ต้องใช้เงินใช้ทองมากมายนักมาให้บ้าง
หรือเอาตัวคุณเข้าเสี่ยงภัยปกป้องคุ้มครองเขาบ้าง
คุณคิดว่าเจ้าหนี้ทั้ง 10 รายของคุณนั้นเขาจะเห็นอกเห็นใจ เห็นในคุณงามความดีของคุณ
แล้วยอมยกหนี้สินทั้งหมดให้คุณโดยที่คุณไม่ต้องหาเงินมาชดใช้เขาเลยหรือไม่ล่ะ?
หลวงพ่อย้อนถามยิ้มๆ เล่นเอาข้าพเจ้าต้องคิดหนักสักครู่หนึ่งจึงตอบไปว่า
“ก็คงมีเจ้าหนี้บางรายแหละครับที่มีจิตใจเมตตากรุณาแล้วเห็นในคุณงามความดีของผมบ้าง
แล้วยอมยกหนี้สินให้ แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ผมไปยืมเขามาว่ามากน้อยแค่ไหนด้วย
ส่วนบรรดาเจ้าหนี้บางรายที่ทั้งงก ทั้งหน้าเลือด แล้วผมคิดว่า
แม้ผมจะทำดีกับเขาสักเพียงไรเขาก็คงไม่ยกหนี้สินให้ผมหรอกครับ
คงต้องตามทวงเช้าทวงเย็นเอาเงินของเขาคืนจากผมให้ได้”
“เออ ตอบตรงดีนี่” หลวงพ่อชมแล้วพูดต่อว่า
“บรรดาเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่คุณไปก่อกรรมทำเข็ญกับเขาไว้ในอดีตชาติ
ก็เหมือนเจ้าหนีที่คุณพูดมานั่นแหละ แม้คุณจะถือบวชบำเพ็ญทาน ศีลภาวนา
แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้เขาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เขาอยู่ดี มีสุขขึ้นก็ตามที
เจ้ากรรมนายเวรบางรายที่เขารู้คุณ เขาก็อาจอภัยไม่คิดตามทวงหนี้กรรมจากคุณอีก
แต่เจ้ากรรมนายเวรบางรายแม้คุณจะทำดีสักปานใดเขาก็ยังผูกพยาบาท อาฆาตจองเวรกับคุณ
ติดตามจองล้างจองผลาญคุณไม่รู้จบสิ้นก็มีนะ แม้ตามทวงหนี้กรรมจากคุณไม่ได้ในชาตินี้
เขาก็จะติดตามทวงหนี้กรรมจากคุณต่อไปในชาติหน้า ภพหน้าไม่มีสิ้นสุด
ยิ่งคุณไปก่อบาปมหันต์ด้วยการลบหลู่ดูหมิ่นหรือกระทำความชั่วร้ายต่อพระพุทธเจ้าก็ดี
พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี พระอริยสงฆ์ก็ดี บิดา มารดาก็ดี
ครูบาอาจารย์ตลอดจนผู้มีพระคุณทั้งหลาย แม้ท่านจะให้อภัยก็ตาม
แต่กฎแห่งกรรมจะไม่มีการอภัยให้เป็นอันขาดนะ
คุณต้องชดใช้กรรมชั่วที่คุณได้กระทำมาอย่างแน่นอน หลบเลี่ยงไม่ได้เลยนะ
แม้แต่พระโมคคัลลาน์ ซึ่งเป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระพุทธเจ้า
ซึ่งได้รับสมญาว่า “เลิศด้วยอิทธิฤทธิ์” ท่านก็ยังต้องชดใช้กรรมที่ได้ก่อมาแล้วในอดีต
โดยยอมให้โจรทุบตาย ในชาติสุดท้ายนั่นเอง”
หลวงพ่ออธิบายอย่างละเอียดและกระจ่างชัดเจนยิ่งนัก
ข้าพเจ้ากราบลาหลวงพ่อกลับบ้าน ด้วยจิตที่ปลอดโปร่งความเคลือบแคลงสงสัย
ในเรื่องของกรรมดี กรรมชั่วหมดไปโดยสิ้นเชิง
อีกทั้งเหตุการณ์ที่ข้าพเจ้าได้ประสบพบเห็นในกาลต่อมาก็ยิ่งประจักษ์ชัดในจิต
ให้เห็นถึงผลแห่งกรรมยิ่งขึ้น ซึ่งข้าพเจ้าจะหยิบยกมาเล่า
------------------------------------------------------------------------------------------------ จาก หนังสือ สู่แสงธรรม ของหลวงพ่อฤาษี ขอขอบคุณซีดี จากคุณเทพฤทธ์ และกลุ่มพลังจิตพิชิตภัย
|
: July 26, 2008, 06:50:10 AM
: Unidentified Girl
|
“ความจริงชีวิตมนุษย์นั้นสั้นนัก ตามสถิติแล้ว
เขาเฉลี่ยอายุของคนไทยทั่วประเทศก็แค่ 55-60 ปีตายมิใช่หรือ?
ดังนั้นถ้าหากเอาเวลาในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ (สวรรค์ชั้นที่ 2) มาเทียบ
คือ 1 วันในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ซึ่งเท่ากับ 100 ปีของมนุษย์แล้ว
ก็จะเห็นได้ชัดว่าในชั่วชีวิตหนึ่ง ๆ ของพวกคุณนั้นมีความหมาย
นานเพียงแค่ครึ่งวันของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เท่านั้นเองนะ
คราวนี้ถ้าสมมุติว่าคุณหนีมาเที่ยวในโลกมนุษย์เพียงแค่ครึ่งวันเท่านั้นนะ
และถ้าครึ่งวันนี้คุณเอาแต่กอบโกยใฝ่หาแต่ความสุขทุกรูปแบบ
โดยไม่คำนึงถึงความถูก ความควรหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นมาเป็นของตนก็ดี
ผิดลูกผิดเมียเขาก็ดี หรือกล่าววาจาเท็จหลอกหลวงผู้อื่นก็ดี
หรือเสพสุรายาเมาก่อความเดือนร้อนรบกวน คุณก็จะต้องรับผลแห่งกรรมชั่ว
ที่คุณได้กระทำอีกไม่รู้กี่กัลป์ กี่ภพ กี่ชาตินะ
เปรียบเสมือนเช่นในวันรับเงินเดือน
หากคุณนำเงินนั้นไปเที่ยวเตร่ หาความสนุกสนานอย่างเต็มที่
ด้วยการตั้งวงเสพสุรา เที่ยวบาร์ เที่ยวคลับ เล่นการพนันหรือหลับนอนกับหญิงโสเภณี
จนเงินเดือนหมด คุณก็สนุกของคุณอยู่แค่วันเดียวนะแต่อีก 29 วันที่เหลือ
คุณจะต้องเกิดทุกข์ใช่ไหม? แต่ในทางตรงกันข้ามหากคุณเวลาครึ่งวันนี้
ตั้งหน้าปฏิบัติแต่คุณงามความดีโดยไม่ท้อถอยแม้จะยากดีมีจนประสพแต่ความทุกข์เข็ญปานใด
ก็ยึดมั่นในทาน ศีล ภาวนา ให้ได้ตลอดไปแล้ว
คุณก็จะได้เสวยผลแห่งกรรมดีอีกหลายภพหลายชาติ เช่นกันนะ
ในขณะนี้คุณก็โชคดีแล้วที่เกิดมาเป็นมนุษย์
ดังนั้นจงใช้ระยะเวลาอันสั้นของชีวิตนี้ ประกอบแต่กุศล ผลบุญเถิด”
หลวงพ่ออธิบายอย่างละเอียด
|
: July 26, 2008, 06:41:27 AM
: Unidentified Girl
|
ด้วยเหตุนี้ องค์สมเด็จพระศาสดาจึงได้จำแนกผู้คนออกไว้เป็น 4 จำพวกด้วยกันคือ
1.มาสว่างไปมืด ได้แก่บุคคลประเภทที่คุณได้เล่ามาคือในอดีตชาติสั่งสมบุญเอาไว้มาก
พอมาเกิดในชาตินี้ก็มั่งมีศรีสุข และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
แต่มิได้สร้างสมบุญกุศลเพิ่มเติม หรือกระทำแต่ความชั่วในชาตินี้
เมื่อตายไปก็จะต้องไปชดใช้กรรมในอบายภูมิทั้ง 4 คือนรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
หรือแม้นหากเกิดเป็นมนุษย์ก็จะยากจนข้นแค้นแสนสาหัสนะ
2.มามืดไปมืด ได้แก่บุคคลที่เกิดมาชดใช้กรรมชั่วที่ได้กระทำไว้ในอดีตชาติ
มิหนำซ้ำเมื่อเกิดมาแล้วกลับกระทำแต่ความชั่วอีก
เมื่อตายไปก็จะต้องไปชดใช้ความชั่วในอบายภูมิ สถานเดียว
3.มามืดไปสว่าง ได้แก่บุคคลที่เกิดมาชดใช้กรรมชั่วที่ได้กระทำมาแล้วในอดีตชาติ
และแม้เมื่อเกิดมาในชาตินี้ จะมีฐานะความเป็นอยู่ที่ยากจนข้นแค้นแสนสาหัสสักเพียงไร
หรือประสบแต่ความผิดหวังล้มเหลว ซ้ำแล้วซ้ำเล่าสักเพียงไหน
ก็ตั้งหน้าตั้งตาประกอบแต่คุณงามความดีโดยไม่ท้อถอย
เมื่อตายไปก็จักได้ไปเสวยสุขตามกุศลผลบุญที่ได้กระทำนั้น
ดังเช่นเจ้าแดงสุนัขของฉันซึ่งถูกรถบรรทุกทรายทับตายแล้วไปเกิดเป็นเทวดานั่นแหละ จำได้ไหม?
4.มาสว่างไปสว่าง ได้แก่บุคคลที่ในอดีตชาติสั่งสมบุญไว้มากเมื่อมาเกิดในชาตินี้
ก็มั่งมีศรีสุขและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
มิหนำซ้ำ กลับตั้งหน้าตั้งตาประกอบแต่คุณงามความดีเพิ่มเติมโดยไม่หยุดยั้ง
เมื่อตายไปก็จักไปเสวยสุขในภพที่สูงกว่ามนุษย์นะ หรือแม้นเกิดเป็นมนุษย์ก็จะร่ำรวย
มั่งมีศรีสุขยิ่งกว่าเก่า ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานยิ่งกว่าเก่านะ เข้าใจหรือยัง?
“รวมความว่า ทุกคนเกิดมาเพื่อใช้กรรมเก่าที่ได้กระทำมาแต่อดีตชาติทั้งสิ้น
หากทำดีมากก็ได้เสวยสุข หากทำชั่วก็ต้องทนทุกข์ชดใช้กรรมไป
ส่วนจะกระทำความดีหรือกระทำความชั่วในชาตินี้ ก็ต้องว่ากันในชาติหน้าใช่ไหมครับ?”
ข้าพเจ้าเน้นถามเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง
“ถูกต้องแล้ว แต่ก็ยังไม่ถูกเสียทั้งหมดทีเดียวนะ เพราะการกระทำชั่วบางอย่าง เป็นบาปมหันต์
อาจต้องรับกรรมชั่วอย่างทันตาเห็นโดยไม่จำเป็นต้องไปรอถึงชาติหน้าก็มี
เช่น เถรเทวทัต ถูกธรณีสูบเป็นต้น
ขอให้จำไว้นะ ของสูงเช่นพระพุทธเจ้าก็ดี พระปัจเจกพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันต์ก็ดี พระอริยสงฆ์ก็ดี
อย่าได้ไปลบลู่ดูหมิ่นเป็นอันขาดนะเพราะเป็นบาปมหันต์รับผลทันตาเห็นในชาตินี้ทันที
และแม้ตายแล้วบาปนั้นก็ยังจะติดตามไปถึงชาติหน้าภพหน้าอีกด้วยนะ”
หลวงพ่ออธิบายย้ำแล้วพูดต่อว่า
|
: July 26, 2008, 06:31:20 AM
: Unidentified Girl
|
ที่มา : http://board.palungjit.com/showthread.php?p=974535
คนที่ตั้งหน้าทำแต่ความดีทำไมจึงไม่ได้ดีเหมือนคนชั่วบางคน? ------------------------------------------------------------------------------------------------------เกิดในชาตินี้บุญที่เขาได้สร้างสมมา จึงมาตอบสนองให้เขามีชีวิตอยู่อย่างสุขสบาย
แต่ถ้าเขาคอยนั่งกินบุญเก่าอยู่ โดยไม่สร้างบุญใหม่เพิ่มเติมในชาตินี้
มิหนำซ้ำกลับสร้างแต่ความชั่ว ดังที่คุณเล่ามาแล้ว
ก็นับว่าเขาเหล่านั้นตกอยู่ในความประมาทอย่างมากและเป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก
เพราะถ้าเมื่อใดบุญเก่าหมด กรรมชั่วจะมาตอบสนองเขาทันที
อาจจะได้รับผลกรรมทันตาเห็นในชาติปัจจุบันก็ได้นะ
แต่ถ้าบุญกุศลที่เขาสร้างสมมาแต่อดีตมีมาก
ผลของกรรมชั่วแม้จะตามมาตอบสนองไม่ทันในชาตินี้
เขาก็ต้องไปรับกรรมชั่วในชาติหน้า ภพหน้าอยู่ดี หนีไม่พ้นหรอกนะเหมือนเช่นคุณ ถ้ามัวแต่นั่งนอนรอกินมะม่วงที่คุณลงทุนลงแรงปลูกไว้เมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว
โดยไม่ยอมรดน้ำ พรวนดิน ให้ปุ๋ย หรือปลูกต้นมะม่วงใหม่เพิ่มเติมแล้ว
ผลมะม่วงจากต้นเก่าที่จะออกผลให้คุณก็จะน้อยลงๆและลูกผลก็จะเล็กลงไปทุกทีๆ ในที่สุดสักวันหนึ่ง คุณก็จะไม่มีมะม่วงกินเช่นกันนะ” หลวงพ่ออธิบายอย่างละเอียดและเมื่อเห็นข้าพเจ้ายังตั้งใจฟังอยู่ก็พูดต่อว่า
“มนุษย์และสัตว์โลก ล้วนถูกลิขิตให้เกิดมาเพื่อชดใช้กรรมจากในอดีตชาติทั้งสิ้น
ใครทำกรรมดีมา ก็ได้เกิดมาเสวยสุขและใครทำกรรมชั่วมา
ก็ต้องชดใช้กรรมชั่วนั้น ๆ หลีกเหลี่ยงไม่ได้
ส่วนเมื่อเกิดมาแล้ว หากผู้ใดสร้างแต่คุณงามความดี
ก็จะไปได้รับส่วนกุศลผลบุญตอบสนองเอาในชาติหน้า
เหมือนเช่นคนที่เริ่มปลูกมะม่วงในขณะนี้ ก็จะไปได้กินมะม่วงในอีก 5-6 ปีข้างหน้านั่นแหละ
ส่วนผู้ใดแม้ร่ำรวย มั่งมีศรีสุข หากประกอบแต่กรรมชั่วไว้ในชาตินี้ก็จะต้องชดใช้ดรรมชั่วในชาติหน้า เช่นกันนะ
|