Kru Somsri's English School
Welcome, Guest. Please login or register.
November 19, 2024, 07:29:56 AM

Login with username, password and session length
Search:     Advanced search
191147 Posts in 46430 Topics by 16179 Members
Latest Member: ChrisItego
* Home Help Search Login Register
+  Kru Somsri's English School
|-+  ห้องสนทนาของโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษคุณครูสมศรี
| |-+  คุยกับคุณครูสมศรี
| | |-+  Post reply ( Re: คุณครู สมศรี ครับ ผมมีความในใจอยากจะบอก ครับ )
Post reply
Warning: this topic has not been posted in for at least 120 days.
Unless you're sure you want to reply, please consider starting a new topic.
Name:
Email:
Subject:
Message icon:
BoldItalicizedUnderlineStrikethrough|GlowShadowMarquee|Preformatted TextLeft AlignCenteredRight Align|Horizontal Rule|Font SizeFont Face
Insert FlashInsert ImageInsert HyperlinkInsert EmailInsert FTP Link|Insert TableInsert Table RowInsert Table Column|SuperscriptSubscriptTeletype|Insert CodeInsert Quote|Insert List
Smiley Wink Cheesy Grin Angry Sad Shocked Cool Huh Roll Eyes Tongue Embarrassed Lips sealed Undecided Kiss Cry
+ Additional Options...

shortcuts: hit alt+s to submit/post or alt+p to preview



Topic Summary
Posted on: October 22, 2009, 09:15:34 PM
Posted by: IluvKruSomsri
ซึ้งงจังงง
Posted on: October 22, 2009, 04:22:14 PM
Posted by: Embers
ขอบคุณครับ คุณครู...
Posted on: October 21, 2009, 11:02:01 PM
Posted by: คุณครูสมศรีสุดสวยจร้า!!
นกกรงที่รัก

คุณค่าของการเรียนไม่ได้อยู่ที่ว่าเรียนอะไร รู้มากแค่ไหน

ที่สุดในโลกปัจจุบันแหล่งข้อมูลมีให้ค้นคว้ามากมาย

แต่การรู้จักนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงสำคัญที่สุด


หนูโชคดีนะลูกที่ได้เรียนรู้คำว่า "อดทน" ตั้งแต่ยังอายุน้อย

และยังมีเป้าหมายว่าอดทนเพื่อใคร

คุณครูภูมิใจในตัวหนูมากลูก สมแล้วที่ได้รับชื่อจากคุณครูว่า "นกกรง"



ถ้าเพชรนิลจินดาเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับคนมากมาย

อักขระที่หนูกลั่นกรองออกมามีค่ายิ่งกว่ามณีเม็ดงาม

เพราะหนูได้ทำให้คุณครูรู้สึกถึงคุณค่าของการกระทำที่คุณครูได้กระทำลงไป



โชคไม่ดีที่ไม่มีโอกาสไปนครสวรรค์บ่อยๆ

แต่โชคดีที่่ได้รับน้ำทิพย์ชโลมใจไปตลอดกาลจาก  "นกกรง นครสวรรค์"


คุณครูขอเป็นกำลังใจให้หนูไปตลอดเช่นกันค่ะ



รักนะ

จุ๊บุๆ
Posted on: October 21, 2009, 04:33:28 PM
Posted by: Embers
อยากให้คุณครูได้อ่านจังเลยคับ
Posted on: October 17, 2009, 08:19:17 PM
Posted by: Doctor Doggy
จอเป้นอีกหนึ่งกำลังใจให้น้องนกกรงค่ะ
Posted on: October 17, 2009, 07:36:03 PM
Posted by: Embers
พี่ๆ ทุกคนคับ ขอขอบคุณมากคับ


ผมไม่เคย คิดมาก่อนเลยว่า จะมีคนมาตอบกระทู้ของผม


ตอนแรกผมกลัวมากว่าถ้าผมพิมพ์มันลงไปแล้ว จะมีคนมาว่าผม ว่า เวอร์ รึ ป่าว แต่ที่ผมตัดสินใจพิมพ์ไปนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากเลยคับ


และก็ไม่รู้ด้วย ว่าตัวเองคิดอะไรที่ได้ พิมพ์ มา แต่ผมรู้อยู่อย่างเดียวนึงซึ่งลูกศิษย์คนอื่นๆของคุณครูเองก็รู้เหมือนกับผม

ก็คือว่า ผมรัก คุณครู คับ และผม จะไม่ยอมเป็น ไอ้ขึ้แพ้ แน่นอนคับ

และผมอยาก จะฟากบอกคนอื่นๆ ด้วยนะคับ ว่า ไม่ว่าอุปสรรค์นั้น จะใหญ่โต ขนาดไหน แต่ถ้าเราเองมีความพยายามสักอย่างเดียว


อุปสรรค์ นั้นมันก็แค่เส้นผมเส้นเดียว เองแหละคับ สู้ๆนะคับทุกคน



พี่ๆทุกคน คับ ผมขอขอบคุณ อีกรอบนึงนะคับ ที่ตอบกระทู้ผม พวกๆพี่เองก็ สร้างกำลังใจ การตอบกระทู้เล็กน้อย แปลเป็นกำลังที่ยิ่งใหญ่


ให้ผม ได้อย่างมากเลยล่ะ คับ ขอบคุณมากคับ ขอบคุณจริงๆ
Posted on: October 17, 2009, 02:50:55 PM
Posted by: แรม
พี่รู้สึก ตื้นตันใจจัง

น้องนกกรง  เราเคยเจอกันที่นครสวรรค์ค่ะ

รู้สึกดีด้วยจริง ๆ นะคะ
Posted on: October 17, 2009, 12:22:56 AM
Posted by: BOS
ขอบคุณ ความโชคไม่ดี ที่ โชคดี
  คุณครูสมศรีครับ...คุณครูเชื่อไหมคับว่าคำพูดของคนเราที่พูดออกมาจากใจอย่างแท้จริงนั้นมีความหมายกับคนฟังอย่างมากยิ่งถ้าคำพูดนั้นเป็นคำพูดที่แสดงถึงความรัก,ห่วงใย,ใสใจและหวังดี คุณครูคับผมมีเรื่องจะเล่าให้คุณครูฟังแต่ถ้าเล่าโดยคำพูดผมคงพูดมันออกมาได้ไม่หมดแน่ เลยต้องใช้วิธีพิมพ์ลงคอมฯ เพื่อผมจะได้แน่ใจว่า ผมได้ตั้งใจพิมพ์ความรู้สึกของผมลงไปจนครบ ลองอ่านดูนะครับ คุณครูสมศรี...
 คุณครูครับเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเองเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนผมจบม.3คือว่าผมสอบติดที่โรงเรียนเดิม(ขอไม่บอกชื่อนะครับ)ในสายศิลป์-ภาษาในชั้นม.4 ซึ่งตอนนั้นผมดีใจมากที่ได้รู้ว่าคนโง่อย่างผมก็ยังสอบติดกับคนอื่นเขาได้ พอคนที่บ้านได้รู้ก็ดีใจกับผมด้วยแล้วก็แนะนำให้ผมลองไปสอบที่อีกโรงเรียนหนึ่งดูซึ่งเป็นโรงเรียนดังในจังหวัด และผมก็ได้ตอบตกลงเพราะคิดว่าเป็นการวัดความรู้ของตัวเองไปด้วย แต่ในใจตอนนั้นสึกอยากอยู่โรงเรียนเก่ามากกว่า เพราะรู้สึกผูกพันธ์กับโรงเรียนเก่าอย่างมากก็เลยตัดสินใจบอกกับ พ่อ แม่ ว่าถ้าสอบติดก็ขอว่าจะไม่อยู่ได้ไหม เพราะ อยากอยู่โรงเรียนเก่ามากกว่า ตอนนั้น พ่อ แม่ ก็ตกลงไม่ได้ว่าอะไรผม พอถึงวันสอบผมก็ไปสอบตามที่บอกไว้แล้ว ผมก็สอบติด สาย วิทย์-คณิต ซึ่งผมรู้สึกดีใจมาก พอ พ่อ แม่ ผมรู้พวกเขาก็ดีใจกับผมด้วยแต่ว่าสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือ พวกเขาจะให้ผมเข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ ตอนนั้นผมก็ตกใจนิดหน่อยแต่ก็บอกเหตุผลต่างๆที่ไม่อยากอยู่ แต่พ่อ แม่ พยายามอยากให้ผมอยู่โรเรียนใหม่ให้ได้ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ดังนั้นผมเลยตามใจพ่อ แม่ เพราะผมไม่อยากจะขัดใจท่าน และก็คิดว่า เดี๋ยวคงจะรู้สึกดีไปเองเมื่อเวลาผ่าน แต่คุณครูเชื่อไหมครับว่าจนถึงก่อนหน้านี้ก่อนที่ผมจะได้มาเรียน “ภาษาอังกฤษกับคุณครูสมศรี”เวลาผ่านไปแล้วประมาณปีกว่าๆ ผมเองยังรู้สึกอยากกลับไปโรงเรียนเดิมอยู่เลยครับคุณครู แต่ผมรู้สึกว่าถ้าอยู่ที่ๆเราไม่ชอบต่อให้ดีขนาดไหนมันก็ไม่ชอบ ผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่รู้อย่างเดียวว่ายังไงก็ต้องเรียนให้จบให้ได้ แต่ตอนนั้น ความรู้สึกเบื่อ และท้อ ให้เกรด ของตัวเอง หรือ ความรู้สึก แย่ๆ ต่างๆที่ผมมีเมื่อก่อนมันกำลังจะหายไปหมดแล้วล่ะครับ         เพราะใคร... คุณครูรู้ไหมล่ะครับก็เพราะ “แม่” กับ “แม่” ยังไงล่ะครับ แม่คนแรกคือ ผู้ให้กำเนิดผมมา ผู้ที่รักผมจนหมดหัวใจ ซึ่งเวลาผมเหนื่อย พอนึกถึง ท่านทีไร ความเหนื่อยก็เปลี่ยนไปกลายเป็นความอดทนทำให้ผมตั้งใจเรียนเพื่อท่านแม่ของผม ส่วนอีก “แม่” ก็คือ แม่ครู.. ที่ผมได้เจอหน้าแม่ครูคนนี้ทุกวันเสาร์ผ่านทางครูตู้...แม่ครูคนนี้ก็คือ... “คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภร”
คุณครูคือคนที่ถอดรหัสคำว่า “รัก” ที่ผมรู้ว่าแม่มีให้ผมแต่ผมไม่ค่อยเข้าใจมันสักเท่าไร ตลอดเวลาที่ผมมานั่งห้องแอร์ ท่องศัพท์ จดและจำ ผมได้มากกว่า คำว่า “ความรู้” แต่อีกสิ่งหนึ่ง ที่สำคัญมากๆ และผมได้มาจาก คุณครู คือ “คุณธรรมและความกตัญญู”  รหัสคำว่า “รัก” ที่แม่มีให้ผม คุณครูคือคนที่ช่วยผมถอดรหัสมันเป็นเดือนๆ จนทำให้ผมรู้ว่า คำว่า “รัก” ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยคำพูด แต่มันรับรู้ได้ด้วย “ใจ” ใจที่มีแต่ให้ไม่หวังสิ่งตอบแทน ใจที่ห่วงใย เฝ้าค่อยวันที่เราจะประสบความสำเร็จในชีวิต ในหน้าที่การงาน และคุณครูก็ทำให้ผมรู้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่สถาบันไหนมันก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า เราจะตั้งใจเรียนไปเพื่อใคร
คุณครูทำให้ผมรู้ว่าการที่ พ่อ แม่ อยากให้ผมมาอยู่ที่ๆดีกว่านั้นคือความหวังดีอย่างยิ่ง คุณครู สมศรี ครับ ผมขอยืมคำพูดของคุณครูมาใช้หน่อยนะครับ ว่า... “ผมโชคดีที่โชคไม่ดี” ที่ไม่ได้อยู่สถาบันที่ตัวเองอยากจะอยู่ แต่ในทางกลับกัน มันทำให้ผมได้เจอกับคุณครูผู้ที่ทำให้ผมรู้ว่า “ผมจะฉลาดไปเพื่ออะไร…”
และนี้ล่ะครับ คือคำว่า “แม่-แม่ครู” ในอุดมคติของผม

ปล.คำพูดข้างต้นนี้ผมตั้งใจบรรจงความรู้สึกจากใจผมและกลั่นออกมาเป็นตัวหนังสือเพื่อให้แม่และคุณครูที่ผมรักได้รู้ถึงความรู้สึกของคนที่เป็น “ลูก-ลูกศิษย์”
ขอบคุณ ความโชคไม่ดี ที่ไม่ได้อยู่ที่สถาบันที่ตัวเองอยากอยู่เพราะ โชคดี ที่มันทำให้ผมรู้ว่าความ “รัก” จากแม่คืออะไร
ขอบคุณ ความโชคไม่ดี ที่ผมเรียนภาษาอังกฤษไม่เก่ง เพราะ โชคดี ที่มันทำให้ผมได้เจอกับ คุณครูสมศรี ผู้ที่ทำให้ผมรู้ว่า “ผมจะฉลาดไปเพื่ออะไร” และ “จะฉลาดไปเพื่อใคร”…
ขอบคุณครับแม่...ขอบคุณครับคุณครูสมศรี...

จากนกกรง..[สาขา นครสวรรค์]
 ::)อ่อ..ขอบคุณฉายานี้ด้วยนะครับคุณครูสมศรี อิอิ
Grin


ลุงขออนุญาตขยายนะครับ เผื่อคุณครูจะได้อ่านสบายขึ้น

ซึ้งเกินบรรยายครับ

ภุมิใจหลานมากครับ
Posted on: October 16, 2009, 11:43:05 PM
Posted by: Unidentified Girl
แอบน้ำตาคลอ..
Posted on: October 16, 2009, 11:04:31 PM
Posted by: Lahnmaii
^^
Posted on: October 16, 2009, 06:17:38 PM
Posted by: Embers
ขอบคุณ ความโชคไม่ดี ที่ โชคดี
  คุณครูสมศรีครับ...คุณครูเชื่อไหมคับว่าคำพูดของคนเราที่พูดออกมาจากใจอย่างแท้จริงนั้นมีความหมายกับคนฟังอย่างมากยิ่งถ้าคำพูดนั้นเป็นคำพูดที่แสดงถึงความรัก,ห่วงใย,ใสใจและหวังดี คุณครูคับผมมีเรื่องจะเล่าให้คุณครูฟังแต่ถ้าเล่าโดยคำพูดผมคงพูดมันออกมาได้ไม่หมดแน่ เลยต้องใช้วิธีพิมพ์ลงคอมฯ เพื่อผมจะได้แน่ใจว่า ผมได้ตั้งใจพิมพ์ความรู้สึกของผมลงไปจนครบ ลองอ่านดูนะครับ คุณครูสมศรี...
 คุณครูครับเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงๆที่เกิดขึ้นกับตัวของผมเองเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนผมจบม.3คือว่าผมสอบติดที่โรงเรียนเดิม(ขอไม่บอกชื่อนะครับ)ในสายศิลป์-ภาษาในชั้นม.4 ซึ่งตอนนั้นผมดีใจมากที่ได้รู้ว่าคนโง่อย่างผมก็ยังสอบติดกับคนอื่นเขาได้ พอคนที่บ้านได้รู้ก็ดีใจกับผมด้วยแล้วก็แนะนำให้ผมลองไปสอบที่อีกโรงเรียนหนึ่งดูซึ่งเป็นโรงเรียนดังในจังหวัด และผมก็ได้ตอบตกลงเพราะคิดว่าเป็นการวัดความรู้ของตัวเองไปด้วย แต่ในใจตอนนั้นสึกอยากอยู่โรงเรียนเก่ามากกว่า เพราะรู้สึกผูกพันธ์กับโรงเรียนเก่าอย่างมากก็เลยตัดสินใจบอกกับ พ่อ แม่ ว่าถ้าสอบติดก็ขอว่าจะไม่อยู่ได้ไหม เพราะ อยากอยู่โรงเรียนเก่ามากกว่า ตอนนั้น พ่อ แม่ ก็ตกลงไม่ได้ว่าอะไรผม พอถึงวันสอบผมก็ไปสอบตามที่บอกไว้แล้ว ผมก็สอบติด สาย วิทย์-คณิต ซึ่งผมรู้สึกดีใจมาก พอ พ่อ แม่ ผมรู้พวกเขาก็ดีใจกับผมด้วยแต่ว่าสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือ พวกเขาจะให้ผมเข้าเรียนที่โรงเรียนใหม่ ตอนนั้นผมก็ตกใจนิดหน่อยแต่ก็บอกเหตุผลต่างๆที่ไม่อยากอยู่ แต่พ่อ แม่ พยายามอยากให้ผมอยู่โรเรียนใหม่ให้ได้ด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง ดังนั้นผมเลยตามใจพ่อ แม่ เพราะผมไม่อยากจะขัดใจท่าน และก็คิดว่า เดี๋ยวคงจะรู้สึกดีไปเองเมื่อเวลาผ่าน แต่คุณครูเชื่อไหมครับว่าจนถึงก่อนหน้านี้ก่อนที่ผมจะได้มาเรียน “ภาษาอังกฤษกับคุณครูสมศรี”เวลาผ่านไปแล้วประมาณปีกว่าๆ ผมเองยังรู้สึกอยากกลับไปโรงเรียนเดิมอยู่เลยครับคุณครู แต่ผมรู้สึกว่าถ้าอยู่ที่ๆเราไม่ชอบต่อให้ดีขนาดไหนมันก็ไม่ชอบ ผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร แต่รู้อย่างเดียวว่ายังไงก็ต้องเรียนให้จบให้ได้ แต่ตอนนั้น ความรู้สึกเบื่อ และท้อ ให้เกรด ของตัวเอง หรือ ความรู้สึก แย่ๆ ต่างๆที่ผมมีเมื่อก่อนมันกำลังจะหายไปหมดแล้วล่ะครับ         เพราะใคร... คุณครูรู้ไหมล่ะครับก็เพราะ “แม่” กับ “แม่” ยังไงล่ะครับ แม่คนแรกคือ ผู้ให้กำเนิดผมมา ผู้ที่รักผมจนหมดหัวใจ ซึ่งเวลาผมเหนื่อย พอนึกถึง ท่านทีไร ความเหนื่อยก็เปลี่ยนไปกลายเป็นความอดทนทำให้ผมตั้งใจเรียนเพื่อท่านแม่ของผม ส่วนอีก “แม่” ก็คือ แม่ครู.. ที่ผมได้เจอหน้าแม่ครูคนนี้ทุกวันเสาร์ผ่านทางครูตู้...แม่ครูคนนี้ก็คือ... “คุณครูสมศรี ธรรมสารโสภร”
คุณครูคือคนที่ถอดรหัสคำว่า “รัก” ที่ผมรู้ว่าแม่มีให้ผมแต่ผมไม่ค่อยเข้าใจมันสักเท่าไร ตลอดเวลาที่ผมมานั่งห้องแอร์ ท่องศัพท์ จดและจำ ผมได้มากกว่า คำว่า “ความรู้” แต่อีกสิ่งหนึ่ง ที่สำคัญมากๆ และผมได้มาจาก คุณครู คือ “คุณธรรมและความกตัญญู”  รหัสคำว่า “รัก” ที่แม่มีให้ผม คุณครูคือคนที่ช่วยผมถอดรหัสมันเป็นเดือนๆ จนทำให้ผมรู้ว่า คำว่า “รัก” ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยคำพูด แต่มันรับรู้ได้ด้วย “ใจ” ใจที่มีแต่ให้ไม่หวังสิ่งตอบแทน ใจที่ห่วงใย เฝ้าค่อยวันที่เราจะประสบความสำเร็จในชีวิต ในหน้าที่การงาน และคุณครูก็ทำให้ผมรู้ว่า ไม่ว่าจะอยู่ที่สถาบันไหนมันก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า เราจะตั้งใจเรียนไปเพื่อใคร
คุณครูทำให้ผมรู้ว่าการที่ พ่อ แม่ อยากให้ผมมาอยู่ที่ๆดีกว่านั้นคือความหวังดีอย่างยิ่ง คุณครู สมศรี ครับ ผมขอยืมคำพูดของคุณครูมาใช้หน่อยนะครับ ว่า... “ผมโชคดีที่โชคไม่ดี” ที่ไม่ได้อยู่สถาบันที่ตัวเองอยากจะอยู่ แต่ในทางกลับกัน มันทำให้ผมได้เจอกับคุณครูผู้ที่ทำให้ผมรู้ว่า “ผมจะฉลาดไปเพื่ออะไร…”
และนี้ล่ะครับ คือคำว่า “แม่-แม่ครู” ในอุดมคติของผม

ปล.คำพูดข้างต้นนี้ผมตั้งใจบรรจงความรู้สึกจากใจผมและกลั่นออกมาเป็นตัวหนังสือเพื่อให้แม่และคุณครูที่ผมรักได้รู้ถึงความรู้สึกของคนที่เป็น “ลูก-ลูกศิษย์”

ขอบคุณ ความโชคไม่ดี ที่ไม่ได้อยู่ที่สถาบันที่ตัวเองอยากอยู่เพราะ โชคดี ที่มันทำให้ผมรู้ว่าความ “รัก” จากแม่คืออะไร
ขอบคุณ ความโชคไม่ดี ที่ผมเรียนภาษาอังกฤษไม่เก่ง เพราะ โชคดี ที่มันทำให้ผมได้เจอกับ คุณครูสมศรี ผู้ที่ทำให้ผมรู้ว่า “ผมจะฉลาดไปเพื่ออะไร” และ “จะฉลาดไปเพื่อใคร”…
ขอบคุณครับแม่...ขอบคุณครับคุณครูสมศรี...


จากนกกรง..[สาขา นครสวรรค์]
 ::)อ่อ..ขอบคุณฉายานี้ด้วยนะครับคุณครูสมศรี อิอิ
Grin[/size]
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2015, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!