มนุษย์มีหลายเรื่องให้นึกถึง
ถ้าเราไม่เข้าข้างตัวเอง เราจะเห็นข้อเสียของตัวเรา
ถ้าไม่เห็นก็ต้องถามเพื่อนที่เราคิดว่าเขามีวุฒิภาวะพอ แล้วให้เขาช่วยบอกข้อเสียของเรา
ธรรมชาติของคนเรามักไม่ชอบฟังสิ่งที่ไม่ดีเกี่ยวกับตนเอง
แต่ถ้าเราเปิดใจฟัง เราจะได้พัฒนาตนเองขึ้นทุกวัน
แต่ถ้าเราจนปัญญาไม่รู้ว่าเขาโกรธเราเพราะอะไร หนูก็ปล่อยเขาไปเถิด
สักวันเมื่อต่างฝ่ายต่างเป็นผู้ใหญ่ขึ้นก็จะเข้าใจกันมากขึ้น
ทำไมหนูไม่ลองเบนความสนใจไปที่เรื่องอื่น เช่นขวนขวายใส่ใจการเรียนให้มากขึ้น
ถ้าเรามีความรู้ด้านใดมากเป็นพิเศษก็แบ่งปันให้เพื่อน
การมีน้ำใจเป็นคุณสมบัติที่ดี การรู้แพ้รู้ชนะ การให้อภัย การแสดงความยินดีเมื่อเพื่อนได้ดี
สิ่งเหล่านี้ถ้ามีในตัวผู้ใด ก็ถือเป็นเสน่ห์ในตัวผู้นั้น
อย่าเพ่งเล็งไปในเรื่องลบ มันจะบั่นทอนความรู้สึกของหนู
ทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา จะเป็นทุกเช้าที่หนูได้ทำความดี
ลองแสดงความรู้สึกดีๆ หรือยิ้มทักทายกับคนที่รู้สึกดีๆกับหนูก่อน
แล้ววันต่อไปก็ยิ้มให้กับคนที่เฉยๆกับเรา
ส่วนคนที่เขาไม่ชอบเราก็อาจจะผ่านเขาไปเฉยๆโดยไม่ต้องคิดประชดประชัน หรือเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อเขา
เป็นสิทธิของเขาที่เขาจะมีสิทธิไม่ชอบเรา
แต่เราก็มีสิทธิที่จะเลือกทำตัวให้น่ารักมากกว่าทำตัวให้น่ารำคาญ
เราแคร์ความรู้สึกคนอื่น ถึงวันนี้เราต้องหันมาแคร์ความรู้สึกของคนที่รักเราเช่นคุณพ่อคุณแม่
หนูเคยนำน้ำเย็นๆใส่แก้วมาให้ท่านดื่มบ้างไหมลูก
ลองทำดูนะครับ เริ่มที่คนที่รักเราที่สุดนี่แหละ
แล้วเอาเวลาที่น่าจะหมดไปกับการไม่อยากไปเรียนมาอยู่ที่จะเรียนหรืออ่านอะรให้ทันเวลาที่จะไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย
คนที่เขาตั้งใจเอนท์จริงๆ หนูทราบไหมลูกว่า
เขาไม่มีเวลาเหลือกับเรื่องที่บั่นทอนกำลังใจ
แค่เวลาจะอ่านหนังสือยังไม่พอเลยเวลาจะนอนบางทีก็ไม่มี
บางทีชีวิตของเราก็อ้อมไปมากับเรื่องที่ไม่นำไปสู่จุดหมายที่วางไว้
เดินตรงสู่จุดหมายดีกว่าครับ
แล้วถ้ามันแก้ยากมากก็หาเพื่อนกลุ่มใหม่ในมหาวิทยาลัยก็ได้ครับ
อ่านหนังสือมากๆนะครับ
อย่างน้อยถ้าแย่ที่สุดก็แค่ไม่มีเพื่อนแต่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ได้
น่าภูมิใจนะครับ โชคดีนะครับ
พรุ่งนี้ก็จะมาถึงแล้ว คิดล่วงหน้าดีกว่าว่าจะทำอะไรให้ชีวิตก้าวไปข้างหน้า
นะครับ เชื่อคุณครูเถิดครับ