สวัสดีค่ะ
คุณครูว่าหนูตั้งสติก่อนนะคะ อย่าเพิ่งว่าต่อว่าหรือตำหนิน้องนะคะ
การไม่ตั้งใจเรียนหนังสือ เป็นตัวสะท้อนว่าน้องหนูเริ่มต้องการสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขมากกว่าสิ่งที่เป็นอยู่ค่ะ
การหนีออกจากความจริงและไปอยู่ในโลกส่วนตัว แม้จะก่อให้เกิดผลเสียตามมา ก็ยังดีกว่าการต้องอยู่ในความจริงแล้วถูกตำหนิ
หนูลองค่อยๆพูดหลังจากที่ตัดความโกรธออกไป ต้องอดทนสักนิดนะคะ ถ้ารักและอยากช่วยน้องของหนูนะลูก
พูดโดยไม่ทำให้น้องรู้สึกว่าน้องผิดอย่างมาก จงพูดเพื่อให้กำลังใจ และเมตตาเขา
บางทีน้องอาจไม่ถนัดการเรียน เมื่อผลออกมาไม่ดี เขาอาจมืดแปดด้าน และสิ่งที่เขาได้รับคือ ผลในทางลบจากคนที่เขารัก
เราค่อยๆช่วยให้เขาเข้ามาใกล้เรา ดีกว่าการผลักให้ไกลตัวเราออกไปโดยคำตำหนิที่เราเองอาจไม่ทันระวังนะคะ
เมื่อเขาพยายาม ก็ชม"ความพยายาม"ของเขา อย่าเน้น"คะแนน"นะคะ
เพราะบางที"ความขยัน"กับ"คะแนน" มักจะสวนทางกันเสมอ สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นใหม่
"คำชม" มีค่ามากสำหรับเด็กที่กำลังจะกลับตัวนะคะ
ยังไงเสีย เขาก็คือน้องของหนูนะลูก
คิดว่าพี่น้องกัน เลือดแม่ด้วยกัน ค่อยๆพูด ค่อยๆให้โอกาสนะคะ
"โอกาส"สำคัญมากค่ะ ให้นะคะ น้องของหนูนะลูก
อย่าเร่งผลนะคะ เพราะเขาอาจสะสมมานาน
อย่าโกรธ ถ้าเขาไม่ทำตาม
เพราะนี่คือโจทย์ของชีวิต ถ้าหนูโกรธ ก็ไม่ต่างอะไรกับการที่น้องไม่ยอมเรียนตามที่หนูต้องการ
ภาวะผลักไม่รับกันและกัน โดยเราไม่ทันรู้ตัว จะยิ่งเพิ่มปัญหาให้นะคะ
ตั้งสตินะลูก ถ้าน้องไม่เก่ง ไม่ชอบเรียน ลองหากิจกรรมที่น้องชอบและส่งเสริมเขานะคะ
ใจเย็นๆนะลูก
น้ำบ่อ ทำให้บังสดใส
น้ำใจและน้ำคำ ทำให้คนสดชื่นค่ะ
เป็นกำลังใจให้นะคะ
คุณครูสมศรีค่ะ